การจ่ายเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ชั้นต่ำกว่าสายสะพาย และเหรียญจักรพรรดิมาลา ประจำปี 2563 และประจำปี 2564

การจ่ายเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ชั้นต่ำกว่าสายสะพาย และเหรียญจักรพรรดิมาลา ประจำปี 2563 และประจำปี 2564

ด่วนที่สุด ที่ ศธ 04009/ว 4674 การจ่ายเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นต่ำกว่าสายสะพาย และเหรียญจักรพรรดิมาลา ประจำปี 2563 และประจำปี 2564

สํานักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี แจ้งว่าจะดําเนินการจ่าย เครื่องราชอิสริยาภรณ์ ชั้นต่ํากว่าสายสะพาย และเหรียญจักรพรรดิมาลา ประจําปี 2563 และ ประจําปี 2564 ให้แก่ส่วนราชการ และหน่วยงานต่างๆ แต่เนื่องจากงบประมาณที่ได้รับ เพื่อการจัดสร้างและซ่อมเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ไม่เต็มตามจํานวนที่เสนอขอ ตั้งงบประมาณไว้ เป็นเหตุให้ไม่สามารถจ่ายเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ให้แก่ผู้ได้รับพระราชทานครบทุกราย จึงมีความจําเป็นต้องจ่ายเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ในลักษณะเฉลี่ยจ่ายเป็นร้อยละ ของจํานวนผู้ได้รับพระราชทาน ในแต่ละชั้นตราเช่นเดียวกับ การปฏิบัติที่ผ่านมา ส่วนเหรียญจักรพรรดิมาลา จะจ่ายให้แก่ผู้ได้รับพระราชทาน ทุกราย ในการนี้สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้ส่งผู้แทนไปตรวจรับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ชั้นต่ํากว่าสายสะพาย และเหรียญจักรพรรดิมาลา ประจําปี 2563 และประจําปี 2564 ตามจํานวนที่ได้รับ การจัดสรรจากสํานักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีมาเรียบร้อยแล้ว

การจ่ายเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ชั้นต่ำกว่าสายสะพาย และเหรียญจักรพรรดิมาลา ประจำปี 2563 และประจำปี 2564

การจ่ายเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ชั้นต่ำกว่าสายสะพาย และเหรียญจักรพรรดิมาลา ประจำปี 2563 และประจำปี 2564

การจ่ายเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ชั้นต่ำกว่าสายสะพาย และเหรียญจักรพรรดิมาลา ประจำปี 2563 และประจำปี 2564

รายละเอียดเพิ่มเติมการจ่ายเครื่องราชอิสริยาภรณ์คลิกที่นี่

ขอบคุณเนื้อหาจาก สำนักพัฒนาระบบบริหารงานบุคคลและนิติการ

เรื่องราวที่น่าสนใจเพิ่มเติม พิธีเปิดโครงการ สพฐ. ติดอาวุธความรู้ให้เด็กไทย ทุกคนอ่านออกเขียนได้ พร้อมรับเกียรติจากท่านรองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน

ประชุมวิชาการออนไลน์ของคุรุสภา ประจำปี 2565 ในรูปแบบ Webinar จำนวน 16 EP ระหว่างวันที่ 22 สิงหาคม – 16 กันยายน 2565 พร้อมรับเกียรติบัตร

ติดอาวุธความรู้ให้เด็กไทย ทุกคนอ่านออกเขียนได้ รับชมพิธีเปิดโครงการ สพฐ. พร้อมรับเกียรติจากท่านรองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน

พิธีเปิดโครงการ สพฐ. ติดอาวุธความรู้ให้เด็กไทย ทุกคนอ่านออกเขียนได้ พร้อมรับเกียรติจากท่านรองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน

สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา สพฐ. ขอเชิญ รับชมการถ่ายทอดสด พิธีเปิดโครงการ สพฐ. ติดอาวุธความรู้ให้เด็กไทยทุกคนอ่านออกเขียนได้ เพื่อแก้ปัญหาภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ (Learning Loss) ผ่าน “สื่อพัฒนาการอ่านและการเขียนภาษาไทย (แบบฝึกซ่อมเสริมการอ่านและการเขียนภาษาไทยสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-3)” และ “กิจกรรมการเรียนรู้เพื่อลดภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 – มัธยมศึกษาปีที่ 6 ของกลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทย ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม”

ติดอาวุธความรู้ให้เด็กไทย ทุกคนอ่านออกเขียนได้ พร้อมรับเกียรติจากท่านรองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน พิธีเปิดโครงการ สพฐ.

ลิงก์แบบลงทะเบียนติดอาวุธความรู้ให้เด็กไทย ทุกคนอ่านออกเขียนได้

https://forms.gle/ke7ZSUu1RXnfaS6Y6

ลิงก์รับชมอบรมออนไลน์ ติดอาวุธความรู้ให้เด็กไทย ทุกคนอ่านออกเขียนได้

Facebook สถาบันภาษาไทย
https://www.facebook.com/thaiobec
Youtube OBEC Channel
https://www.youtube.com/channel/UC3FAoTkjypzAvHgcB2ZUEHQ
OBEC TV
https://www.obec.go.th/obectv

“สพฐ. ติดอาวุธความรู้ให้เด็กไทยทุกคนอ่านออกเขียนได้” เพื่อแก้ปัญหาภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ของผู้เรียน (Learning Loss)
Meeting number: 2513 726 4900
Password: 180865

พิธีเปิดโครงการ สพฐ. ติดอาวุธความรู้ให้เด็กไทย ทุกคนอ่านออกเขียนได้ พร้อมรับเกียรติจากท่านรองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน

วันพฤหัสบดีที่ 18 สิงหาคม 2565 เวลา 09.30 – 12.00 น. พิธีเปิดโครงการฯ ได้รับเกียรติบัตรจากท่านรองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (ดร.เกศทิพย์ ศุภวานิช) เป็นประธานในพิธีการประชุมฯ

ช่องทางการรับชมพิธีเปิดโครงการฯ
1.ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ศึกษานิเทศก์ เข้าร่วมรับชมผ่านการประชุมทางไกลด้วยวีดิทัศน์ Cisco Webex
2.ผู้อำนวยการโรงเรียน ครูผู้สอน และผู้ที่สนใจเข้าร่วมรับชมผ่านช่องทาง
Facebook สถาบันภาษาไทย
https://www.facebook.com/thaiobec
Youtube OBEC Channel
https://www.youtube.com/channel/UC3FAoTkjypzAvHgcB2ZUEHQ
OBEC TV
https://www.obec.go.th/obectv

ขอบคุณเนื้อหาจาก ผอ.สวก. สพฐ.ศธ. 

เรื่องราวที่น่าสนใจเพิ่มเติม ประชุมวิชาการออนไลน์ของคุรุสภา ประจำปี 2565 ในรูปแบบ Webinar จำนวน 16 EP ระหว่างวันที่ 22 สิงหาคม – 16 กันยายน 2565 พร้อมรับเกียรติบัตร

ศธ.จับมือกองทุน กบข.จัดโครงการ สินเชื่อ กบข. ช่วยลดหนี้สินครู

ศธ.จับมือกองทุน กบข.จัดโครงการ สินเชื่อ กบข. ช่วยลดหนี้สินครู

0

ศธ.จับมือกองทุน กบข.จัดโครงการ สินเชื่อ กบข. ช่วยลดหนี้สินครู

“ตรีนุช” จัดโครงการสินเชื่อ กบข. เพื่อช่วยเหลือข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ผู้ถูกฟ้องร้อง-มีหนี้สินวิกฤติ-เงินเดือนเหลือไม่ถึง 30% ที่เป็นสมาชิก กบข. สามารถกู้เงิน กบข. มาลดยอดหนี้ ชำระเฉพาะดอกเบี้ยร้อยละ 0.50-1.00 บาท ต่อปี ยื่นกู้ได้ตั้งแต่กันยายน 2565

นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) เปิดเผยว่า คณะกรรมการแก้ไขปัญหาหนี้สินครูและบุคลากรทางการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้จัดทำ”โครงการสินเชื่อ กบข. เพื่อการแก้ไขปัญหาหนี้สินข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ของกระทรวงศึกษาธิการ” เพื่อช่วยเหลือข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา แก้ไขปัญหาหนี้สิน ผู้ถูกฟ้องร้อง ผู้มีหนี้สินวิกฤติ หรือมียอดเงินเดือนเหลือไม่ถึงร้อยละ 30 และเป็นสมาชิก กบข. สามารถกู้เงิน กบข. ในส่วนของเงินสะสม เงินสมทบ และผลประโยชน์ตอบแทน มาลดยอดหนี้ได้
“ กลุ่มเป้าหมายของโครงการนี้ คือ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา และข้าราชการพลเรือน สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ที่เป็นสมาชิก กบข. และเป็นผู้ลงทะเบียนแก้ไขปัญหาหนี้สินครู ผ่านเว็บไซต์ td.moe.go.th และลงทะเบียนเพิ่มเติมผ่านสถานีแก้หนี้ครู ซึ่งเป็นผู้ถูกฟ้องร้อง ทั้งในฐานะผู้กู้และผู้ค้ำประกัน หรือผู้มีปัญหาหนี้สินวิกฤต คือ มียอดเงินเดือนคงเหลือไม่ถึงร้อยละ 30 ทั้งนี้จากการสำรวจ พบว่า ผู้เข้าข่ายที่ลงทะเบียนรอบที่ 1 มีจำนวน 14,142 ราย และผู้เข้าข่ายลงทะเบียนรอบที่ 2 มีจำนวน 10,000 ราย “ รมว.ศธ.กล่าว

น.ส.ตรีนุช กล่าวต่อไปว่า การใช้สิทธิเข้าร่วมโครงการ ผู้ลงทะเบียนรอบที่ 1 สามารถยื่นกู้ได้ตั้งแต่เดือนกันยายน 2565 – ธันวาคม 2565 ส่วนผู้ลงทะเบียนรอบที่ 2 สามารถยื่นกู้ได้ตั้งแต่เดือนกันยายน 2565 – มกราคม 2566 โดยมีเงื่อนไขและวงเงินกู้ยืมไม่เกินร้อยละ 90 ของยอดเงินรวมของเงินสะสม เงินสมทบ และผลประโยชน์ตอบแทนคิดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ ร้อยละ 0.50 – 1.00 บาท ต่อปี ทั้งนี้หลังจากปรับโครงสร้างหนี้แล้ว ต้องไม่ก่อหนี้สินเพิ่มภายในระยะเวลา 12 เดือน สำหรับผู้กู้ชำระเฉพาะดอกเบี้ยรายเดือน กำหนดระยะเวลาผ่อนผันการชำระคืนเงินต้นไปจนใกล้เกษียณอายุราชการ และจะหักชำระหนี้เงินกู้ทั้งหมดตามสัญญาเมื่อสมาชิกสิ้นสุดภาพ หรือ ออกจากราชการ และขอรับเงินจาก กบข.

ขอบคุณเนื้อหาจาก สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา

เรื่องราวที่น่าสนใจเพิ่มเติม สินเชื่อสวัสดิการ สู้ภัยโควิด สำหรับสมาชิก กบข. จากธนาคารออมสิน ช่วยลดภาระค่าใช้จ่าย หนี้สินและเพื่อการอุปโภคบริโภคให้สมาชิกหลังวิกฤตโควิด-19

สินเชื่อวิทยะฐานะครู สินเชื่อวิทยฐานะเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้สิน เพื่อข้าราชการครู สินเชื่อหน่วยงานภาครัฐ

ประชุมวิชาการออนไลน์ของคุรุสภา ประจำปี 2565 ในรูปแบบ Webinar จำนวน 16 EP ระหว่างวันที่ 22 สิงหาคม – 16 กันยายน 2565 พร้อมรับเกียรติบัตร

ประชุมวิชาการออนไลน์ของคุรุสภา ประจำปี 2565 ในรูปแบบ Webinar จำนวน 16 EP ระหว่างวันที่ 22 สิงหาคม – 16 กันยายน 2565 พร้อมรับเกียรติบัตร

เชิญชวนผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา นักการศึกษา และผู้ที่สนใจ ร่วมประชุมวิชาการออนไลน์ของคุรุสภา ประจำปี 2565 ภายใต้แนวคิด “Learning Back to the Future: Reimagining Thai Education”ในรูปแบบ Webinar จำนวน 16 EP ระหว่างวันที่ 22 สิงหาคม – 16 กันยายน 2565

ประชุมวิชาการออนไลน์ของคุรุสภา ประจำปี 2565 ในรูปแบบ Webinar จำนวน 16 EP ระหว่างวันที่ 22 สิงหาคม – 16 กันยายน 2565 พร้อมรับเกียรติบัตร

ลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรมได้ที่นี่

รศ.ดร.ประวิต เอราวรรณ์ เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) รักษาการเลขาธิการคุรุสภา กล่าวว่า ขณะนี้สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา ร่วมกับหน่วยงานด้านการศึกษาทั้งหน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชน กำหนดจัดประชุมทางวิชาการออนไลน์ของคุรุสภา ประจำปี 2565 (KSP Webinar 2022) ภายใต้ theme “Learning Back to the Future: Reimagining Thai Education” ระหว่างวันที่ 22 สิงหาคม – 16 กันยายน 2565 เพื่อเป็นเวทีทางวิชาการพัฒนาคุณภาพการศึกษาและการพัฒนาวิชาชีพ เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้แนวคิด แนวปฏิบัติ หรือองค์ความรู้ทางวิชาการและทางวิชาชีพทางการศึกษา และเพื่อสร้างเครือข่ายความร่วมมือในการพัฒนาวิชาชีพทางการศึกษาทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยมีเลขาธิการคุรุสภา เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมทางวิชาการออนไลน์ของคุรุสภาฯ เริ่มลงทะเบียนร่วมกิจกรรมฟรี ตั้งแต่วันที่ 19 สิงหาคม 2565 เป็นต้นไป ผ่านทาง Line ID: @kspwebinar2565

วิธีการลงทะเบียน
ตอนนี้ระบบยังไม่เปิดให้ลงทะเบียน แต่เมื่อระบบเปิดวันที่ 19 ส.ค. 2565 เวลา 09.00 น. จะปรากฎปุ่ม “คลิกลงทะเบียน” ตรงแถบเมนู และมีขั้นตอนการลงทะเบียนดังนี้ค่ะ
1. กดที่ปุ่ม “คลิกลงทะเบียน” จะมีแบบฟอร์มให้กรอก
2. กรอกข้อมูลของท่านให้ถูกต้อง
3. กดส่งแบบฟอร์ม

ลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรมได้ที่นี่

สำหรับการประชุมทางวิชาการออนไลน์ของคุรุสภาฯ ในปีนี้ จัดประชุมแบบออนไลน์ (Online) โดยใช้วิธีการประชุมสัมมนาออนไลน์ในรูปแบบ Webinar (Web – based – seminar) เข้าร่วมประชุม ผ่านระบบ Zoom Cloud Meetings ซึ่งเป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ผ่านการเสวนา และอภิปราย โดยวิทยากรทั้งในประเทศและต่างประเทศ ที่มีความรู้และความเชี่ยวชาญด้านการศึกษาวิชาชีพ และเทคโนโลยีดิจิทัล ผ่านช่องทางออนไลน์ทั้งหมด จำนวน 16 EP รับ EP ละ 5,000 คน ดังนี้

EP. 1 : เร่งเครื่องพัฒนาทักษะอ่าน เขียนผ่านนวัตกรรม

EP. 2 : เมื่อเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาเขย่าห้องเรียน

EP. 3 : พลิกโฉมโรงเรียนสุขภาวะ

EP. 4 : การพัฒนางานประจำสู่งานวิจัย

EP. 5 : พลิกโฉมการจัดการเรียนรู้ผ่านนวัตกรรม

EP. 6 : เปิดห้องเรียน เปิดอาชีพแห่งอนาคต

EP. 7 : มุมมองการพัฒนาทักษะชีวิต ช่วง Learning Loss

EP. 8 : จะพัฒนาศักยภาพผู้เรียนอย่างไร ในยุคการเปลี่ยนแปลงรอบด้าน

EP. 9 : มุมมองการพัฒนา EF ในช่วง Learning Loss

EP. 10 : Learning Back to the Future: Reimagining Thai Education

EP. 11 : มาตรการฟื้นฟูความรู้ถดถอยในเด็ก (Learning Loss)

EP. 12 : ทักษะการเรียนรู้ที่หดหาย ประเด็นท้าทายความสามารถของครู

EP. 13 : หลากหลายนวัตกรรมที่ช่วยลดช่องว่างของห้องเรียนในยุคโควิด

EP. 14 : การจัดการเรียนรู้ที่เสริมสร้างสมรรถนะทางวิทยาศาสตร์สำหรับนักเรียน

EP. 15 : อนาคตภาพวิชาชีพครู: ความหวัง ความท้าทาย และความอยู่รอด

EP. 16 : ฟื้นฟูการศึกษาหลังโควิด: สุขภาวะทางอารมณ์ สังคม และปัญญาของผู้เรียน

ลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรมได้ที่นี่

เปิดรับสมัครเป็นช่วงเวลา สำหรับ EP 1 – EP 4 นี้ เปิดรับลงทะเบียน ตั้งแต่วันที่ 19 สิงหาคม 2565 เป็นต้นไป ผ่านทาง Line ID: @kspwebinar2565 และร่วมกิจกรรมอบรมได้ระหว่างวันที่ 22 สิงหาคม – 16 กันยายน 2565 ซึ่งผู้เข้าร่วมกิจกรรมจะได้รับเกียรติบัตรออนไลน์ตามที่คุรุสภากำหนด นับเป็นกิจกรรมการพัฒนาตนเองทางวิชาชีพเพื่อการต่ออายุใบอนุญาตประกอบวิชาชีพได้ โดยเกียรติบัตรที่ได้รับจะแยกตามหัวข้อที่เข้าร่วมประชุม ต้องเข้าร่วมประชุมไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 และต้องส่งแบบสอบถามในแต่ละหัวข้อที่เลือกเข้าร่วมประชุม

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์คุรุสภา www.ksp.or.th และติดตามการลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรมหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมผ่านทางไลน์ @kspwebinar2565

ขอบคุณเนื้อหาจาก คุรุสภา

เรื่องราวที่น่าสนใจเพิ่มเติม สพฐ.เปิดตัว คลังข้อมูลดิจิทัลครู-บุคลากร ระบบ HRMS.OBEC สพฐ.นำมาใช้จัดเก็บฐานข้อมูลครูและบุคลากรทางการศึกษา

ระบบวัดแววความสามารถพิเศษออนไลน์ ลิงค์ระบบสำรวจแววความสามารถพิเศษ ด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ สํานักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา สพฐ.

ประกาศรายชื่อ ผู้สมัครเข้ารับการประเมินสมรรถนะ ครั้งที่ 1 (สอบข้อเขียน) เพื่อเลือกสรรเป็นพนักงานราชการทั่วไป (ส่วนกลาง)

0

 

ประกาศรายชื่อ ผู้สมัครเข้ารับการประเมินสมรรถนะ ครั้งที่ 1 (สอบข้อเขียน) เพื่อเลือกสรรเป็นพนักงานราชการทั่วไป (ส่วนกลาง)

ประกาศ สพฐ. เรื่อง รายชื่อผู้สมัครเข้ารับการประเมินสมรรถนะ ครั้งที่ 1 (สอบข้อเขียน) เพื่อเลือกสรรเป็นพนักงานราชการทั่วไป (ส่วนกลาง)

ประกาศรายชื่อ ผู้สมัครเข้ารับการประเมินสมรรถนะ ครั้งที่ 1 (สอบข้อเขียน) เพื่อเลือกสรรเป็นพนักงานราชการทั่วไป (ส่วนกลาง)

ประกาศรายชื่อ ผู้สมัครเข้ารับการประเมินสมรรถนะ ครั้งที่ 1 (สอบข้อเขียน) เพื่อเลือกสรรเป็นพนักงานราชการทั่วไป (ส่วนกลาง)

รายละเอียดเพิ่มตามลิงค์ด้านล่าง

>>> ประกาศ สพฐ. ลงวันที่ 10 ส.ค. 65

>>> เอกสาร 1) รายชื่อ

>>> เอกสาร 2) สถานที่สอบ

>>> เอกสาร 3) ระเบียบเกี่ยวกับการเข้าสอบ

>>> เอกสาร 4) แผนฯป้องกัน COVID-19

>>> คำร้องขอมีชื่อเป็นผู้สมัครเข้ารับการประเมินสมรรถนะ ครั้งที่ 1

>>> ใบรับรองการตรวจหาเชื้อ COVID-19

ขอบคุณเนื้อหาจาก สพฐ.

เรื่องราวที่น่าสนใจเพิ่มเติม สพฐ.เปิดตัว คลังข้อมูลดิจิทัลครู-บุคลากร ระบบ HRMS.OBEC สพฐ.นำมาใช้จัดเก็บฐานข้อมูลครูและบุคลากรทางการศึกษา

คอร์สอบรม สุขภาวะ/โภชนาการโรงเรียน(อาหารกลางวัน) ลงทะเบียนเข้าร่วมคอร์สอบรม สุขภาวะ/โภชนาการโรงเรียน(อาหารกลางวัน) 

คอร์สอบรม สุขภาวะ/โภชนาการโรงเรียน(อาหารกลางวัน) ลงทะเบียนเข้าร่วมคอร์สอบรม สุขภาวะ/โภชนาการโรงเรียน(อาหารกลางวัน) 

คอร์สอบรม สุขภาวะ/โภชนาการโรงเรียน(อาหารกลางวัน) วันเสาร์ที่ 20 สิงหาคม 2565 เวลา 10:00 – 12:00 น. มุมมองหรือความสำคัญ ในการจัดการอาหารกลางวัน ให้นักเรียน การบริหารจัดการงบประมาณ จัดสรรยังไง ในมุมมองของผู้บริหาร และหลักการคิดออกแบบอาหาร แต่ละมื้อ คุณค่าทางโภชนาการ ของอาหาร เชิญทุกท่านมาร่วมเรียนรู้ด้วยกันผ่านระบบ zoom วันเสาร์ที่ 20 สิงหาคม 2565 เวลา 10:00 – 12:00 น.

ลงทะเบียนเข้าร่วม คอร์สอบรม คลิกที่นี่

คอร์สอบรม สุขภาวะ/โภชนาการโรงเรียน(อาหารกลางวัน) ลงทะเบียนเข้าร่วมคอร์สอบรม สุขภาวะ/โภชนาการโรงเรียน(อาหารกลางวัน) 

มุมมองหรือความสำคัญ ในการจัดการอาหารกลางวัน ให้นักเรียน การบริหารจัดการงบประมาณ จัดสรรยังไง ในมุมมองของผู้บริหาร และหลักการคิดออกแบบอาหาร แต่ละมื้อ คุณค่าทางโภชนาการ ของอาหาร เชิญทุกท่านมาร่วมเรียนรู้ด้วยกันผ่านระบบ zoom วันเสาร์ที่ 20 สิงหาคม 2565 เวลา 10:00 – 12:00 น. คอร์สอบรม สุขภาวะ/โภชนาการโรงเรียน(อาหารกลางวัน)

ลงทะเบียนเข้าร่วม คอร์สอบรม คลิกที่นี่

ขอบคุณเนื้อหาจาก Starfish Academy

เรื่องราวที่น่าสนใจเพิ่มเติม สพฐ.เปิดตัว คลังข้อมูลดิจิทัลครู-บุคลากร ระบบ HRMS.OBEC สพฐ.นำมาใช้จัดเก็บฐานข้อมูลครูและบุคลากรทางการศึกษา

เกณฑ์การย้ายครู 2565 คุณสมบัติการเขียนย้ายครู ปรับปรุงใหม่ เกณฑ์การเขียนย้ายครู 2565เขียนได้ 2 ครั้ง ต่อปี

สพฐ.เปิดตัว คลังข้อมูลดิจิทัลครู-บุคลากร ระบบ HRMS.OBEC สพฐ.นำมาใช้จัดเก็บฐานข้อมูลครูและบุคลากรทางการศึกษา

0

 

สพฐ.เปิดตัว คลังข้อมูลดิจิทัลครู-บุคลากร ระบบ HRMS.OBEC สพฐ.นำมาใช้จัดเก็บฐานข้อมูลครูและบุคลากรทางการศึกษา

เมื่อวันที่ 11 ส.ค. ที่โรงแรมบางกอกพาเลส กรุงเทพฯ น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ กล่าวตอนหนึ่งในการเป็นประธานเปิดระบบ HRMS.OBEC ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ว่า รัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต้องการขับเคลื่อนการปฏิรูประบบราชการ และแนวทางการปฏิบัติงานในภาครัฐให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ด้วยการนำระบบเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกต์ใช้ในการบริหารจัดการหรือที่เรียกว่ารัฐบาล 4.0 และตั้งแต่ตนเข้ามารับตำแหน่ง รมว.ศธ.ก็มีนโยบายให้พัฒนาประสิทธิภาพการบริหารและการจัดการศึกษาของประเทศ ด้วยการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ รวมถึงการพัฒนาการจัดเก็บข้อมูล หรือ Big Data อย่างเป็นระบบ เพื่อให้ได้ข้อมูลภาพรวมการศึกษาของประเทศที่มีความครบถ้วน สมบูรณ์ ถูกต้องเป็นปัจจุบันและสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้อย่างแท้จริง โดยกำหนดเป็นหนึ่งใน 7 วาระเร่งด่วนของ ศธ.และวันนี้เป็นเรื่องน่ายินดี ที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้ยกระดับการบริหารจัดการระบบฐานข้อมูลของครูและบุคลากรในสังกัด สพฐ.ทั่วประเทศ โดยจัดทำระบบ HRMS.OBEC (เอช-อาร์-เอ็ม-เอส-ดอท-โอ-เบค) ได้สำเร็จ ตามที่ ดร.อัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) ได้นำเสนอไว้ และนำมาใช้งานอย่างเป็นรูปธรรมแล้วในปีการศึกษานี้

รมว.ศึกษาธิการ กล่าวอีกว่า HRMS.OBEC เป็นระบบการจัดเก็บข้อมูลในรูปแบบดิจิทัล ที่ สพฐ.นำมาใช้จัดเก็บฐานข้อมูลครูและบุคลากรทางการศึกษาของ สพฐ. โดยมีเจ้าหน้าที่สำนักเขตพื้นที่การศึกษาเป็นผู้รับผิดชอบในการจัดเก็บรักษาข้อมูล ควบคุมการเข้าถึงข้อมูล สามารถนำข้อมูลไปใช้ประโยชน์ในการคาดการณ์และวิเคราะห์ที่แม่นยำมากขึ้น ทำให้ส่วนราชการมีข้อมูลสารสนเทศเพื่อการบริหารงานบุคคลที่เป็นปัจจุบันแบบ Real Time ประหยัดเวลาในการรายงานและสืบค้นข้อมูล ลดกระบวนการที่ซ้ำซ้อน ช่วยลดภาระการทำงานของครูและบุคลากรทางการศึกษา ทำให้ครูได้มีเวลาในการจัดการเรียนการสอนอย่างเต็มประสิทธิภาพ

“HRMS.OBEC เป็นผลงานของข้าราชการสำนักพัฒนาระบบบริหารงานบุคคลและนิติการ (สพร.) สพฐ. ที่ได้พัฒนาโปรแกรมขึ้นมาด้วยความรู้ความสามารถของข้าราชการในสังกัด สพฐ.เอง ดิฉันขอชื่นชมผลงานที่เป็นที่ประจักษ์อีกครั้ง ซึ่งระบบฐานข้อมูลนับเป็นหัวใจ และเป็นรากฐานที่สำคัญในการบริหารงานราชการ ไม่เพียงประโยชน์จะเกิดภายใน สพฐ. แต่สามารถนำมาขยายผล และต่อยอดกับหลายส่วนงานใน ศธ.เพื่อสร้างประโยชน์สูงสุดต่อระบบการบริหารการศึกษา โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเชื่อมต่อข้อมูลกับระบบ DPA (Digital Performance Appraisal) ของทางสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ที่ใช้ในการประเมินวิทยฐานะของครูผ่านระบบดิจิทัล สร้างความโปร่งใส ความเป็นธรรมต่อระบบการประเมินวิทยฐานะ และเป็นการยกระดับวิชาชีพครูให้ได้รับการยอมรับมากขึ้น และจะมีส่วนสำคัญต่อการยกระดับการบริหารจัดการฐานข้อมูลของศธ.ให้เป็นหนึ่งเดียว” น.ส.ตรีนุช กล่าว

รมว.ศธ. กล่าวต่อไปว่า ขณะเดียวกันฐานข้อมูลในระบบ HRMS.OBEC จะเป็นฐานข้อมูลที่สำคัญ ในการส่งต่อให้แก่สถาบันอุดมศึกษา เพื่อการวางแผน และเตรียมการในการผลิตบุคลากรด้านการศึกษาของประเทศ ได้ในปริมาณที่ตรงกับความต้องการ สอดรับกับการแผนอัตรากำลัง รวมถึงการวางแผนพัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ทั้งในภาพของ ศธ. และการบริหารจัดการในระดับพื้นที่ได้อย่างถูกต้อง เพื่อให้สามารถได้ครู และบุคลากรทางการศึกษาที่มีประสิทธิภาพ และส่งผลต่อการยกระดับคุณภาพทางการศึกษาให้กับเด็กนักเรียนในทุกพื้นที่ได้ดียิ่งขึ้น จากนี้ไปข้อมูลที่เป็นประโยชน์จากระบบ HRMS.OBEC จะกลายเป็น big data ที่สำคัญของ ศธ.ที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ และสามารถบอกกล่าวได้ว่า การบริหารทรัพยากรบุคคลของ ศธ.เป็นการวางแผนเพื่อยกระดับคุณภาพทางการศึกษา และนำไปสู่การพัฒนาประเทศได้อย่างแท้จริง

ขอบคุณเนื้อหาจาก At HeaR

เรื่องราวที่น่าสนใจเพิ่มเติม ศึกษาธิการ ถูกหั่นงบปี 66 กว่า 737 ล้านบาท รมว.ศึกษาธิการ รับกระทบหลายโครงการ

ระบบการตัดเงินเดือน แก้หนี้ครู โครงการแก้ไขปัญหาหนี้สินครู “สร้างโอกาสใหม่ ให้ครูไทย” การตัดเงินเดือน เพื่อชําระห์นี้โดยข้าราชการต้องเหลือเงินเดือนไม่น้อยกว่าร้อยละ 30

เกณฑ์การย้ายครู 2565 คุณสมบัติการเขียนย้ายครู ปรับปรุงใหม่ เกณฑ์การเขียนย้ายครู 2565เขียนได้ 2 ครั้ง ต่อปี

มาแล้ว หลักเกณฑ์ และ วิธีการย้าย ข้าราชการครู และบุคคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู 2565 ว 18/2565 สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ

สวัสดีครับทุกท่านเมื่อเร็วๆนี้ได้มีข่าวเกี่ยวกับ การปรับปรุงหลักเกณฑ์การย้ายครูแบบใหม่ ซึ่งเป็น ร่าง หลักเกณฑ์และวิธีการย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู ผลการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ครั้งที่ 7/2565 โดยครูอัพเดตจะสรุป เกณฑ์การย้ายครู 2565 คุณสมบัติการเขียนย้ายครู ปรับปรุงใหม่ เพื่อให้คุณครูสามารถทำความเข้าได้ง่ายไว้ดังนี้ครับ

เกณฑ์การย้ายครู 2565 คุณสมบัติการเขียนย้ายครู ปรับปรุงใหม่ เกณฑ์การเขียนย้ายครู 2565เขียนได้ 2 ครั้ง ต่อปี

* การย้ายของคุณครูมี 3 แบบ ในกรณีที่คุณครูมีความประสงค์ที่จะย้ายสถานศึกษาจะมีรูปแบบในการเขียนย้ายอยู่ 3 กรณี ได้แก่ การย้ายกรณีปกติ การย้ายกรณีพิเศษ และการย้ายเพื่อประโยชน์ของทางราชการ

* คุณสมบัติของคุณครูที่ย้าย กรณีปกติ เมื่อคุณครูมีความประสงค์ที่จะย้ายสถานศึกษาต้องมีคุณสมบัติ ครบทุกข้อ ดังนี้

  1. จะต้องดำรงตำแหน้งครู (เป็นครู คศ.1-คศ.5) หรือ ถ้าเป็นครูผู้ช่วย ต้องผ่านการประเมินอย่างเข้ม และ มีคำสั่งให้ดำรงตำแหน่ง ครู (คศ.1)

หมายเหตุ : จะต้องไม่ติดเงื่อนไขในการบรรจุแต่งตั้ง กรณีตัวอย่าง

ครู A ได้รับทุนครูคืนถิ่น โดยมีเงื่อนไขให้บรรจุแต่งตั้งเป็นครูผู้ช่วย ในโรงเรียน AA เป็นเวลา 4 ปี อย่างนี้จะต้องรอครบ 4 ปี ตั้งแต่วันบรรจุแต่งตั้ง ถึงจะสามารถยื่นคำร้องขอย้ายได้

ครู B สอบบรรจุแต่งตั้งเป็นครูผู้ช่วย (รอบทั่วไป) ไม่ได้มีเงื่อนไขในบรรจุแต่งตั้งด้านเวลา อย่างนี้เมื่อครบ 2 ปี ผ่านการประเมินอย่างเข้มและแต่งตั้งเป็นครู (คศ.1) ก็จะสามารถยื่นคำร้องขอย้ายได้

2. ปฏิบัติงานในโรงเรียนปัจจุบัน ไม่น้อยกว่า 24 เดือน (2 ปี)

* รอบในการส่งคำร้องขอย้าย กรณีปกติ จะมีอยู่ 2 รอบ ดังนี้

รอบที่ 1 ยื่นคำร้องเดือนมกราคม ให้ใช้พิจารณาย้ายระหว่างวันที่ 15 ก.พ. – 30 เม.ย.

รอบที่ 2 ยื่นคำร้องเดือนกรกฎาคม ให้ใช้พิจารณาย้ายระหว่างวันที่ 1 ก.ย. – 31 ต.ค.

หมายเหตุ : การพิจารณาจะพิจารณาเป็นรอบ ในกรณีที่ท่านไม่ได้รับพิจารณาในรอบที่ส่งเอกสารเดือนมกราคม ท่านจะต้องยื่นเอกสารใหม่ ในรอบเดือนกรกฎาคม

ดาวน์โหลดคำร้องขอย้ายครู ได้ที่นี่

* องค์ประกอบในการจัดทำเอกสารประกอบการพิจารณา จะปรับให้สอดคล้องกับมาตรฐานตำแหน่งฯ ว 3/2564 ดาวน์โหลดเอกสาร ว3/2564 ที่นี่

การย้ายกรณีพิเศษ ยื่นคำร้องได้ตลอด และให้เพิ่มเติมรายละเอียดเหตุของการย้ายให้ชัดเจนขึ้น และกำหนดให้ผู้ขอย้ายระบุอำเภอในจังหวัดที่ประสงค์ขอย้ายไปดำรงตำแหน่ง เพื่อให้ผู้ขอย้ายได้รับการช่วยเหลือโดยเร็ว โดยให้ สพท. ที่รับย้าย เป็นผู้พิจารณาสถานศึกษาให้ไปดำรงตำแหน่ง และต้องดำเนินการนำเสนอ กศจ. พิจารณาให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ภายใน 45 วัน

การย้ายกรณีเพื่อประโยชน์ของทางราชการ กำหนดเหมือนเดิม เนื่องจากหลักเกณฑ์และวิธีการฯ เดิมได้กระจายอำนาจให้ สพท. หรือส่วนราชการอื่นเป็นผู้พิจารณาย้ายได้ตามความเหมาะสมโดยคำนึงถึงประโยชน์ของทางราชการ ในกรณี ดังนี้

1. การย้ายเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษา

2. การย้ายเพื่อแก้ไขปัญหาการบริหารจัดการในสถานศึกษา

3.การย้ายเพื่อเกลี่ยอัตรากำลังของสถานศึกษา

อ้างอิงข้อมูลจาก : ผลการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ครั้งที่ 7/2565 https://otepc.go.th/th/content_page/item/3992-7-2565.html

ผลการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ครั้งที่ 8/2565

0

ผลการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ครั้งที่ 8/2565 วันพฤหัสบดีที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2565 โดยมีนางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานการประชุม และมี รศ.ดร.ประวิต เอราวรรณ์ เลขาธิการ ก.ค.ศ. เป็นเลขานุการการประชุม ซึ่งที่ประชุมได้มีการพิจารณาเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาและมีมติที่สำคัญ คือ

ผลการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ครั้งที่ 8/2565

อนุมัติการบรรจุและแต่งตั้งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ผู้ได้รับการคัดเลือกและผ่านการพัฒนาก่อนการแต่งตั้งฯ ให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 2 ราย

เรื่องราวที่น่าสนใจ : วPA ลดเอกสาร เลิกทำแฟ้ม ประเมินการสอนในห้องเรียน เลขาธิการ ก.ค.ศ. เน้นย้ำเขตพื้นที่ ลดเอกสาร เลิกทำแฟ้ม

สืบเนื่องจากปัจจุบัน ตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา ว่างเพิ่มใหม่จากผู้ดำรงตำแหน่งเดิมได้รับคำสั่งรับโอนมาแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทอำนวยการระดับสูง สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 2 ตำแหน่ง ดังนั้น สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน จึงขออนุมัติบรรจุและแต่งตั้งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้ที่ได้รับการคัดเลือกและผ่านการพัฒนาก่อนแต่งตั้งฯ ให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ตามลำดับที่ที่ได้รับการคัดเลือกและตามจำนวนตำแหน่งว่าง (2 ตำแหน่ง) จำนวน 2 ราย

ซึ่ง ก.ค.ศ. พิจารณาแล้วเห็นว่าเพื่อให้การบริหารงานของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน มีผู้ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเพื่อขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาล กระทรวงศึกษาธิการ และสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน นำไปสู่การปฏิบัติและการบริหารจัดการศึกษาในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาได้อย่างคล่องตัวเกิดผลสัมฤทธิ์และมีประสิทธิภาพ จึงอนุมัติบรรจุและแต่งตั้งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้ได้รับการคัดเลือกและผ่านการพัฒนาก่อนการแต่งตั้งฯ ให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 2 ราย โดยคงให้ได้รับเงินเดือนและได้รับวิทยฐานะตามที่ได้รับอยู่เดิม ทั้งนี้ ให้มีผลการแต่งตั้ง ตั้งแต่วันที่ 11 สิงหาคม 2556 ตามที่ สพฐ.เสนอ

ขอบคุณที่มาจาก : https://otepc.go.th/th/content_page/item/4031-8-2565.html