คู่มือการลา การได้รับเงินเดือน และการเลื่อนเงินเดือนระหว่างลา สำหรับข้าราชการ

0

สวัสดีครับทุกท่านวันนี้เว็บไซต์ครูอัพเดตดอทคอมมีเรื่องราวดีดีมานำเสนอเช่นเคยครับ โดยวันนี้ขอนำเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับข้ราชการ คือ คู่มือการลา การได้รับเงินเดือน และการเลื่อนเงินเดือนระหว่างลา สำหรับข้าราชการ ที่ทางสำนักงาน ก.พ. ได้จัดทำขึ้นโดยมีรายละเอียดดังนี้ครับ

คู่มือการลา การได้รับเงินเดือน และการเลื่อนเงินเดือนระหว่างลา สำหรับข้าราชการ

การลาของข้าราชการจัดเป็นสวัสดิการประเภทหนึ่ง ที่ข้าราชการได้รับนอกเหนือจากเงินเดือนซึ่งเป็นค่าตอบแทนในการปฏิบัติงาน และเพื่อให้ข้าราชการของกรมบัญชีกลางมีความรู้ความเข้าใจและทราบถึงเรื่องดังกล่าว กองการเจ้าหน้าที่จึงได้จัดท าคู่มือการลา การได้รับเงินเดือน และการเลื่อนเงินเดือนระหว่างลา ส าหรับข้าราชการ ซึ่งเป็นการรวบรวมกฎหมาย ระเบียบ คำสั่ง หนังสือเวียนที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนแนวทางการตอบข้อหารือของส านักนายกรัฐมนตรีที่ได้วางแนวทางการวินิจฉัยไว้

กองการเจ้าหน้าที่ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าคู่มือนี้จะเป็นแนวทางให้ข้าราชการของกรมบัญชีกลาง ในการศึกษา ทำความเข้าใจ และรับทราบถึงสิทธิของตนเองเกี่ยวกับการลา การได้รับเงินเดือน และการเลื่อนเงินเดือนระหว่างลาได้ดียิ่งขึ้น รวมทั้งยังเป็นคู่มือสำหรับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในเรื่องดังกล่าวเพื่อให้เกิดความเข้าใจและปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง ทั้งนี้ กองการเจ้าหน้าที่ยินดีและพร้อมที่จะรับฟังข้อเสนอแนะ ติชมทุกประการ เพื่อจะได้พิจารณาดำเนินการปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้นต่อไป

กรมบัญชีกลาง
กองการเจ้าหน้าที่
กรกฎาคม 2560

ดาวน์โหลดไฟล์ : คู่มือการลา การได้รับเงินเดือน และการเลื่อนเงินเดือนระหว่างลา สำหรับข้าราชการ คลิกที่นี่ , ลิงก์สำรอง

ขอบคุณที่มา : สำนักงาน ก.พ.

วิธีการตั้งค่าหมายเลขหน้าในเอกสารวิชาการอย่างถูกต้อง

0

สวัสดีค่ะ วันนี้ครูอัพเดตดอมคอมมีเทคนิค วิธีการตั้งค่าหมายเลขหน้าของเอกสารทางวิชาการ มาฝากคุณครูทุกท่านค่ะ คุณครูหลายท่านคงเคยเจอปัญหาการแทรกเลขหน้าในโปรแกรม Microsoft Word ซึ่งหมายเลขหน้าก็มีความสำคัญขาดไม่ได้เลยใช่ไหมคะ

การแทรกหมายเลขหน้าแบบทั่วไปจากโปรแกรม  เลขหน้าจะปรากฏขึ้นตั้งแต่หน้าแรกเลย ซึ่งอาจจะเป็นปัญหาสำหรับคุณครูที่ต้องการรวมเล่มเอกสารทางวิชาการเป็นเล่มเดียวกัน ซึ่งประกอบไปด้วย ปกหน้า (ไม่ต้องการแทรกเลขหน้า) คำนำ สารบัญ และเนื้อหาในเอกสาร วันนี้ปัญหานี้จะหมดไป เรามาดูวิธีการแทรกหมายเลขหน้าแบบกำหนดเองในโปรแกรม Microsoft Word กันเลยค่ะ

1.เปิดไฟล์เอกสารในโปรแกรม Microsoft Word ของคุณครูเลยค่ะ จากนั้นให้คุณครูคลิกที่บรรทัดสุดท้ายของหน้าแรก ซึ่งหน้านี้เราไม่ต้องการที่จะแทรกเลขหน้าค่ะ อาจจะเป็นหน้าปกของเอกสารเป็นต้นค่ะ

2. คุณครูคลิกเลือกที่เค้าโครง (Page Layout) แล้วเลือก ว่าง (Breaks) จากนั้นเลือกที่คำสั่ง หน้าถัดไป (Next Page) เมื่อคลิกแล้วโปรแกรมจะสร้างหน้าถัดไปให้โดยอัตโนมัติค่ะ

3.คุณครูคลิกเลือกที่แทรก (Insert) จากนั้นคลิกที่เลขหน้า (Page Number) และเลือกรูปแบบมุมขวาบนของหน้า

4. คุณครูทำการลากเมาส์คลุมที่เลขหน้าที่ได้ทำการแทรก ซึ่งในที่นี้คือ เลข2 หมายถึงต้องการนับ 1 ที่หน้า 2 ซึ่งหน้านี้เป็นหน้าที่ทำได้ทำการตั้ง Next Page ไว้เรียบร้อยจากขั้นตอนที่ 3 แล้ว จากนั้นให้คุณครูคลิกที่คำสั่งเชื่อมโยงไปก่อนหน้า (Link to Previous )

5. คุณครูคลิกที่เมนูคำสั่ง แทรก (Insert) จากนั้นเลือก หมายเลขหน้า (Page Number)และเลือกจัดรูปแบบหมายเลขหน้า (Format Page Numbers)

6.แถบการจัดรูปแบบรูปภาพจะปรากฏ ให้คุณครูเลือกที่ Start at และป้อนข้อมูลหรือเลือกเลข 1 จากนั้นกดตอบตกลง

7.จากนั้นให้คุณครูเลื่อนขึ้นมาที่หน้าแรก ลากเมาส์คลุมหมายเลขหน้า และทำการลบเลขหน้าออก ก็จะได้หน้าแรกที่ไม่ปรากฏหมายเลขหน้า แต่หากคุณครูต้องการให้เป็นหน้า ก ข ค ก็ให้ทำตามขั้นตอนที่ 5 (เลือกที่หมายเลขหน้า (Page Number)และเลือกจัดรูปแบบหมายเลขหน้า (Format Page Numbers) เลือกเริ่มที่ ก )

8.จะได้หน้าแรกที่ไม่ปรากฏหมายเลขหน้า และหน้าต่อไปที่เริ่มนับที่เลข 1 หรือ ก ข ค ตามที่เราต้องการค่ะ

จะเห็นได้ว่าการแทรกหมายเลขหน้าตามรูปแบบเอกสารทางวิชาการ แบบที่เราสามารถกำหนดเลขหน้าที่ต้องการได้เองไม่ยากเลยใช่ไหมคะ ไว้พบกันกับครูอัพเดตดอทคอมที่จะมาแชร์บทความเทคโนโลยีในคราวหน้านะคะ

-ขอบคุณค่ะ-

แผนการสอน แผนการจัดการเรียนรู้ ประวัติศาสตร์ ป.1 – ป.6 คลิกที่นี่

0

แผนการจัดการเรียนรู้ ประวัติศาสตร์ ป.1 – ป.6 ซึ่งเว็บไซต์ครูอัพเดตดอทคอม ต้องขอขอบคุณทางสำนักพิมพ์ ศึกษาภัณฑ์พานิชย์ที่เปิดโอกาสให้ทุกท่านได้ดาวน์โหลด  แผนการสอน แผนการจัดการเรียนรู้ ประวัติศาสตร์ ป.1 – ป.6 ในครั้งนี้

แผนการสอน แผนการจัดการเรียนรู้ ประวัติศาสตร์ ป.1 - ป.6 คลิกที่นี่

แผนการสอนหรือแผนจัดการเรียนรู้ คือ เครื่องมือสำคัญอย่างหนึ่งสำหรับการจัดการเรียนการสอนของครูผู้สอนในทุกระดับชั้น เปรียบเสมือนแผนที่นำทางที่ช่วยให้ครูสามารถดำเนินกิจกรรมการเรียนการสอนให้กับผู้เรียนได้เหมาะสม ตรงตามเป้าหมายและมีประสิทธิภาพ

 การจัดทำแผนการสอนนั้น ครูผู้สอน จำเป็นต้องมีความรู้ความเข้าใจในเรื่องของหลักสูตรแกนกลางและหลักสูตรสถานศึกษาอย่างถ่องแท้ เพื่อให้สามารถออกแบบแผนการสอนได้อย่างเหมาะสมและถูกต้องครบถ้วน ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อการจัดการศึกษาทั้งกับตัวผู้เรียนและตัวครูผู้สอนเอง โดยอาศัย โดยองค์ประกอบที่สำคัญของการออกแบบแผนการสอนนั้น จะต้องประกอบด้วย

              1. หัวเรื่อง คือ ส่วนที่ต้องกำหนด ชื่อของเรื่องหรือหน่วยการเรียนรู้  ขั้นที่สอนและเวลาที่ใช้สอน

              2. สาระสำคัญ คือ มโนทัศน์หลักหรือความคิดรวบยอดของการจัดการเรียนรู้ในเรื่องนั้น ๆ ซึ่งกำหนดเป็นภาพกว้างให้เห็นการเชื่อมโยงข้อมูลของสิ่งที่กำลังจะสอน

              3. มาตรฐานและตัวชี้วัด คือ คุณลักษณะสำคัญของผู้เรียนที่กำหนดไว้ในหลักสูตร โดยในแต่ละแผนการจัดการเรียนรู้ จะหยิบยกมาเฉพาะส่วนที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาและคาดว่าจะเกิดกับผู้เรียน ซึ่งการที่ลักษณะของผู้เรียนเป็นไปตามมาตรฐานและตัวชี้วัดนี้ จะช่วยให้ผู้เรียนเกิดสมรรถนะสำคัญและคุณลักษณะที่พึงประสงค์ ตามที่กำหนดไว้ในหลักสูตรแกนกลางและส่วนที่เพิ่มเติมให้หลักสูตรสถานศึกษา

              4. จุดประสงค์การเรียนรู้ คือ เป้าหมายที่ต้องการให้เกิดกับตัวผู้เรียนหลังจากที่เราได้ดำเนินการจัดการเรียนรู้ตามแผนที่ได้วางไว้แล้ว โดยในการกำหนดจุดประสงค์การเรียนรู้นั้นจะต้องเกิดจากการวิเคราะห์มาตรฐานและตัวชี้วัดตามตารางวิเคราะห์หลักสูตร

              5. สาระการเรียนรู้ คือเนื้อเรื่อง หรือองค์ความรู้ ทักษะ กระบวนการของผู้เรียนที่จะต้องเรียนรู้ในรายวิชานั้น ๆ

              6. การบวนการการเรียนรู้ คือ การระบุกิจกรรมการเรียนรู้ที่จัดขึ้น เพื่อให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ โดยแบ่งเป็น ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน ขั้นสอน และขั้นสรุป

              7. สื่อ/อุปกรณ์/แหล่งการเรียนรู้ คือ เครื่องมือในการส่งเสริมการเรียนรู้ที่ใช้ตามที่กำหนดในกิจกรรมการเรียนรู้

              8. การวัดและประเมินผล คือ การประเมินผลผู้เรียนตามจุดประสงค์การเรียนรู้ ซึ่งควรระบุเครื่องมือวัดและเกณฑ์การให้คะแนน ซึ่งสามารถศึกษาได้จากคู่มือหลักสูตร

              9. บันทึกผลหลังการจัดการเรียนรู้ คือการบันทึกของครูผู้สอนจากสิ่งที่พบในการนำแผนจัดการเรียนรู้มาใช้ โดยแบ่งเป็น ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ปัญหาและอุปสรรค์ และ ข้อเสนอแนะ

วิธีการดาวน์โหลด คลิกที่นี่ 

ดาวน์โหลดที่ลิ้งค์นี้  http://www.aksorn.com/download/

ลิงก์ดาวน์โหลดแผนประวัติศาสตร์จากศึกษาภัณฑ์พานิช 

ขอขอบคุณที่มา   สำนักพิมพ์ อจท.

แผนการสอน ภาษาอังกฤษ ป.1 – ป.6 รวบรวมไว้ที่นี่

0

สวัสดีครับวันนี้เว็บไซต์ครูอัพเดตดอทคอม ขอนำสิ่งดีดีมาฝากคุณครูเช่นเคยครับ โดยวันนี้แอดมิน มี แผนการสอน
เป็น แผนการสอน ภาษาอังกฤษ ป.1 – ป.6 ที่ใช้ประกอบการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน กับหนังสือเรียนหลายๆ
ชุดที่ทาง ศึกษาภัณฑ์พาณิชย์ออนไลน์ได้จัดทำขึ้นเพื่อให้คุณครูได้นำไปปรับใช้ครับ

แผนการจัดการเรียนรู้สังคม ป.1-ป.6  หน้าที่ พุทธศาสนา แผนการสอนสังคมศึกษา ป.1-ป.6

แผนการสอนหรือแผนจัดการเรียนรู้ คือ เครื่องมือสำคัญอย่างหนึ่งสำหรับการจัดการเรียนการสอนของครูผู้สอนในทุกระดับชั้น เปรียบเสมือนแผนที่นำทางที่ช่วยให้ครูสามารถดำเนินกิจกรรมการเรียนการสอนให้กับผู้เรียนได้เหมาะสม ตรงตามเป้าหมายและมีประสิทธิภาพ

 การจัดทำแผนการสอนนั้น ครูผู้สอน จำเป็นต้องมีความรู้ความเข้าใจในเรื่องของหลักสูตรแกนกลางและหลักสูตรสถานศึกษาอย่างถ่องแท้ เพื่อให้สามารถออกแบบแผนการสอนได้อย่างเหมาะสมและถูกต้องครบถ้วน ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อการจัดการศึกษาทั้งกับตัวผู้เรียนและตัวครูผู้สอนเอง โดยอาศัย โดยองค์ประกอบที่สำคัญของการออกแบบแผนการสอนนั้น จะต้องประกอบด้วย

              1. หัวเรื่อง คือ ส่วนที่ต้องกำหนด ชื่อของเรื่องหรือหน่วยการเรียนรู้  ขั้นที่สอนและเวลาที่ใช้สอน

              2. สาระสำคัญ คือ มโนทัศน์หลักหรือความคิดรวบยอดของการจัดการเรียนรู้ในเรื่องนั้น ๆ ซึ่งกำหนดเป็นภาพกว้างให้เห็นการเชื่อมโยงข้อมูลของสิ่งที่กำลังจะสอน

              3. มาตรฐานและตัวชี้วัด คือ คุณลักษณะสำคัญของผู้เรียนที่กำหนดไว้ในหลักสูตร โดยในแต่ละแผนการจัดการเรียนรู้ จะหยิบยกมาเฉพาะส่วนที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาและคาดว่าจะเกิดกับผู้เรียน ซึ่งการที่ลักษณะของผู้เรียนเป็นไปตามมาตรฐานและตัวชี้วัดนี้ จะช่วยให้ผู้เรียนเกิดสมรรถนะสำคัญและคุณลักษณะที่พึงประสงค์ ตามที่กำหนดไว้ในหลักสูตรแกนกลางและส่วนที่เพิ่มเติมให้หลักสูตรสถานศึกษา

              4. จุดประสงค์การเรียนรู้ คือ เป้าหมายที่ต้องการให้เกิดกับตัวผู้เรียนหลังจากที่เราได้ดำเนินการจัดการเรียนรู้ตามแผนที่ได้วางไว้แล้ว โดยในการกำหนดจุดประสงค์การเรียนรู้นั้นจะต้องเกิดจากการวิเคราะห์มาตรฐานและตัวชี้วัดตามตารางวิเคราะห์หลักสูตร

              5. สาระการเรียนรู้ คือเนื้อเรื่อง หรือองค์ความรู้ ทักษะ กระบวนการของผู้เรียนที่จะต้องเรียนรู้ในรายวิชานั้น ๆ

              6. การบวนการการเรียนรู้ คือ การระบุกิจกรรมการเรียนรู้ที่จัดขึ้น เพื่อให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ โดยแบ่งเป็น ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน ขั้นสอน และขั้นสรุป

              7. สื่อ/อุปกรณ์/แหล่งการเรียนรู้ คือ เครื่องมือในการส่งเสริมการเรียนรู้ที่ใช้ตามที่กำหนดในกิจกรรมการเรียนรู้

              8. การวัดและประเมินผล คือ การประเมินผลผู้เรียนตามจุดประสงค์การเรียนรู้ ซึ่งควรระบุเครื่องมือวัดและเกณฑ์การให้คะแนน ซึ่งสามารถศึกษาได้จากคู่มือหลักสูตร

              9. บันทึกผลหลังการจัดการเรียนรู้ คือการบันทึกของครูผู้สอนจากสิ่งที่พบในการนำแผนจัดการเรียนรู้มาใช้ โดยแบ่งเป็น ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ปัญหาและอุปสรรค์ และ ข้อเสนอแนะ

ดาวน์โหลดไฟล์แผนการสอนคลิกที่นี่ 

ขอบคุณที่มาจาก ศึกษาภัณฑ์พาณิชย์ออนไลน์

เอกสารหลักฐาน สมัครสอบครูผู้ช่วย กรณีพิเศษ สพฐ. 2562 เช็กที่นี่!!

สวัสดีครับวันนี้เว็บไซต์ครูอัพเดตดอทคอมมีสาระความรู้มาฝากเช่นเคย สำหรับวันนี้มีเรื่องราวเกี่ยวกับ เอกสารหลักฐาน สมัครสอบครูผู้ช่วย กรณีพิเศษ สพฐ. 2562 มาฝากครับ โดยข้อมูลชุดนี้อ้างอิงจากประกาศรับสมัครสอบครูผู้ช่วย กรณีพิเศษ ของสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดพิษณุโลก ปี พ.ศ. 2562 ครับ

เอกสารหลักฐาน สมัครสอบครูผู้ช่วย กรณีพิเศษ สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีพ.ศ. 2562 จะต้องใช้เอกสารอะไรบ้างนั้น เรามาตรวจสอบไปพร้อมกันเลยครับ

โปรดอ่าน!! เอกสารที่แสดงในการสมัครคัดเลือกรายการที่ 2 – 9 ให้มีฉบับจริงแสดง และฉบับสําเนา อย่างละ 1 ฉบับ พร้อมรับรองสําเนาถูกต้องด้วยตนเองทุกฉบับ เว้นแต่เอกสารรายการที่ 12 – 15 ให้ ผู้อํานวยการสถานศึกษาเป็นผู้รับรอง และสําเนาเอกสารทุกรายการ ต้องเรียบร้อยสมบูรณ์ ในวันสมัคร ดังนี้

1. ใบสมัครคัดเลือกตามแบบที่กําหนด  โดยมี ผู้บังคับบัญชาชั้นต้นของผู้สมัครคัดเลือก ลงนามให้ความเห็นประกอบการสมัครท้ายใบสมัครคัดเลือก

2. ปริญญาบัตรหรือหนังสือรับรองคุณวุฒิที่ระบุว่าได้ศึกษาสําเร็จครบตามหลักสูตรและ สภามหาวิทยาลัยอนุมัติให้จบการศึกษาแล้ว ซึ่ง ก.ค.ศ. กําหนดเป็นคุณวุฒิสําหรับข้าราชการครู ไม่หลังวันเปิดรับสมัคร คัดเลือกวันสุดท้าย ฉบับจริง พร้อมสําเนา จํานวน 1 ฉบับ

3. ระเบียนแสดงผลการเรียน (Transcript) ระบุสาขาวิชาเอกที่จะสมัคร ซึ่งได้รับอนุมัติ จากผู้มีอํานาจไม่หลังวันเปิดรับสมัครคัดเลือกวันสุดท้าย ฉบับจริง พร้อมสําเนา จํานวน 1 ฉบับ

4. ประกาศนียบัตรบัณฑิตวิชาชีพครูและระเบียนแสดงผลการเรียน (ถ้ามี) ฉบับจริง พร้อมสําเนา จํานวน ๑ ฉบับ

5. ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู หรือใบอนุญาตปฏิบัติการสอน หรือหนังสือรับรองสิทธิ ที่ยังไม่หมดอายุ และจะต้องได้รับอนุมัติจากผู้มีอํานาจไม่หลังวันเปิดรับสมัครคัดเลือกวันสุดท้าย ฉบับจริง พร้อมสําเนา จํานวน 1 ฉบับ

6. บัตรประจําตัวประชาชน (ที่ยังไม่หมดอายุ) ฉบับจริง พร้อมสําเนา จํานวน 1 ฉบับ

7. ทะเบียนบ้าน ฉบับจริง พร้อมสําเนา จํานวน 1 ฉบับ

8. หลักฐานอื่น ๆ เช่น หนังสือสําคัญการเปลี่ยนชื่อ ชื่อสกุล หรือทะเบียนสมรส (ถ้ามี) ฉบับจริง พร้อมสําเนา จํานวน 1 ชุด

9. ใบรับรองแพทย์ ฉบับจริง ซึ่งออกให้โดยสถานพยาบาลของทางราชการ หรือ สถานพยาบาลของเอกชน ที่ออกให้ไม่เกิน 1 เดือน นับตั้งแต่วันรับการตรวจร่างกายถึงวันรับสมัครวันสุดท้าย และแสดงว่าไม่เป็นโรคตามที่กําหนดในกฎ ก.ค.ศ. ว่าด้วยโรค พ.ศ. 2549

10. รูปถ่ายหน้าตรง ไม่สวมหมวกและแว่นตาดํา ขนาด 1 นิ้ว ซึ่งถ่ายไม่เกิน 5 เดือน และถ่ายครั้งเดียวกัน จํานวน 3 รูป

11. หนังสือรับรองจากผู้อํานวยการสถานศึกษาว่าได้ปฏิบัติงานจริง (ตามแบบที่แนบท้าย ประกาศ) ฉบับจริง จํานวน 1 ฉบับ

12. ตารางสอน หรือเอกสารอื่นที่แสดงถึงภาระงานสอนไม่น้อยกว่า 5 คาบหรือ 5 ชั่วโมง ต่อสัปดาห์ ซึ่งรับรองโดยผู้อํานวยการสถานศึกษา จํานวน 1 ฉบับ

13. แบบรายงานระยะเวลาการปฏิบัติหน้าที่สอน ตามแบบที่กําหนด พร้อมสําเนาคําสั่งหรือ สําเนาสัญญาจ้าง ที่แสดงว่ามีระยะเวลาปฏิบัติหน้าที่สอนตามคําสั่งหรือสัญญาจ้างอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือรวมกัน แล้วไม่น้อยกว่าสามปี เท่านั้น นับถึงวันรับสมัครคัดเลือกวันสุดท้าย โดยมีผู้บริหารสถานศึกษารับรองสําเนา จํานวน 1 ชุด

14. กรณีจ้างจากเงินรายได้ของสถานศึกษา ให้แนบหนังสือรับรองของสถานศึกษาที่จ้าง (ตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินรายได้สถานศึกษาของรัฐไม่เป็นนิติบุคคล พ.ศ. 2546 ระเบียบสํานักงาน คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานว่าด้วยการบริหารจัดการเกี่ยวกับเงินรายได้สถานศึกษาขั้นพื้นฐานที่เป็นนิติบุคคล ในสังกัดสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษา พ.ศ. 2549 และประกาศสํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานว่าด้วย หลักเกณฑ์ อัตรา และวิธีการนําเงินรายได้สถานศึกษาไปจ่ายเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษาของสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ที่เป็นนิติบุคคลในสังกัดสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษา พ.ศ. 2551) ประกอบคําสั่งจ้างหรือสัญญาจ้าง จํานวน 1 ชุด

15 แบบประเมินประวัติและผลงานเพื่อใช้ประกอบการประเมิน ซึ่งได้รับการรับรอง จากผู้บริหารสถานศึกษาพร้อมหลักฐาน ตามองค์ประกอบการประเมิน ตัวชี้วัด และคะแนนการประเมินประวัติ และผลงาน ตามที่สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานกําหนด แนบท้ายประกาศนี้ จํานวน 3 เล่ม

16. แบบประเมินพฤติกรรมการปฏิบัติงาน (ข้อ 9) ตามองค์ประกอบการประเมิน ตัวชี้วัด และคะแนนการประเมินความเหมาะสมกับตําแหน่งและวิชาชีพ (ภาค ค) โดยผู้อํานวยการสถานศึกษาเป็นผู้ประเมิน ให้นําฉบับจริงใส่ซองปิดผนึกประทับตราลับพร้อมลงลายมือชื่อกํากับ ยื่นพร้อมใบสมัคร

ทั้งนี้ ผู้สมัครเข้ารับการคัดเลือกจะต้องรับผิดชอบความถูกต้องของเอกสารและหลักฐานที่นํามายื่น สมัครและต้องรับรองตนเองว่าเป็นผู้มีคุณสมบัติตรงตามประกาศรับสมัครจริง และต้องกรอกรายละเอียดต่าง ๆ ใน ใบสมัครพร้อมทั้งแนบหลักฐานในการสมัครให้ถูกต้องครบถ้วน และหากตรวจสอบพบว่า ผู้สมัครคัดเลือกรายงาน ข้อมูลในเอกสารการสมัครโดยเป็นเท็จ เพื่อให้คณะกรรมการประเมินให้คะแนน สํานักงานศึกษาธิการจังหวัดพิษณุโลก จะไม่พิจารณาให้เป็นผู้มีสิทธิเข้ารับการคัดเลือก และจะเรียกร้องสิทธิใด ๆ มิได้

** อย่างไรก็ตามขอให้ทุกท่านตรวจสอบประกาศรับสมัครสอบครูผู้ช่วย กรณีพิเศษ ปี พ.ศ. 2562 ของสำนักงานศึกษาธิการที่ท่านประสงค์จะสมัครสอบอีกครั้ง เพื่อตรวจสอบเอกสารที่ใช้ในการสมัครสอบครูผู้ช่วย กรณีพิเศษ พ.ศ. 2562 ให้ถูกต้องและครบถ้วนครับ

ทีมงานครูอัพเดตดอทคอม

คุณสมบัติของผู้มีสิทธิ์สมัครสอบครูผู้ช่วย กรณีพิเศษ สพฐ. 2562 เช็กที่นี่!!

สวัสดีครับวันนี้เว็บไซต์ครูอัพเดตดอทคอมมีสาระความรู้มาฝากเช่นเคย สำหรับวันนี้มีเรื่องราวเกี่ยวกับ คุณสมบัติของผู้มีสิทธิ์สมัครสอบครูผู้ช่วย กรณีมีความจำเป็นและมีเหตุพิเศษมาฝากครับ โดยข้อมูลชุดนี้อ้างอิงจากประกาศรับสมัครสอบครูผู้ช่วย กรณีพิเศษ ของสำรักงานศึกษาธิการจังหวัดพิษณุโลก ปี พ.ศ. 2562 ครับ

คุณสมบัติของผู้มีสิทธิ์สมัครสอบครูผู้ช่วย กรณีพิเศษ สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีพ.ศ. 2562 จะมีคุณสมับติอย่างไรบ้างนั้นตรวจสอบไปพร้อมกันเลยครับ

1. ผู้สมัครคัดเลือกต้องมีคุณสมบัติทั่วไปตามมาตรา 30 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ดังนี้

มาตรา 30 ระบุคุณสมบัติผู้ซึ่งจะเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาได้ต้องมีคุณสมบัติทั่วไป ดังต่อไปนี้

(1) มีสัญชาติไทย

(2) มีอายุไม่ต่ำกว่าสิบแปดปีบริบูรณ์

(3) เป็นผู้เลื่อมใสในการปกครองและระบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ครองเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย

(4) ไม่เป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น

(5) ไม่เป็นคนไร้ความสามารถ หรือจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ หรือเป็นโรคตามที่กำหนดในกฎ ก.ค.ศ.

(6) ไม่เป็นผู้อยู่ในระหว่างถูกสั่งพักราชการ ถูกสั่งออกจากราชการไว้ก่อนตามพระราชบัญญัตินี้

(7) ไม่เป็นผู้บกพร่องในศีลธรรมอันดีสำหรับการเป็นผู้ประกอบวิชาชีพครูและบุคลากรทางการศึกษา

(8) ไม่เป็นกรรมการบริหารพรรคการเมืองหรือเจ้าหน้าที่ในพรรคการเมือง

(9) ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย

(10) ไม่เป็นผู้เคยต้องโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก เว้นแต่เป็นโทษสำหรับความคิดที่ได้กระทำโดยประมาทหรือความลหุโทษ

(11) ไม่เป็นผู้เคยถูกลงโทษให้ออก ปลดออก หรือไล่ออกจารัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชนหรือหน่วยงานอื่นของรัฐ หรือองค์การระหว่างประเทศ

(12) ไม่เป็นผู้เคยถูกลงโทษให้ออก ปลดออก หรือไล่ออกเพราะกระทำผิดวินัยตามพระราชบัญญัตินี้ หรือตามกฎหมายอื่น

(13) ไม่เป็นผู้เคยกระทำการทุจริตในการสอบเข้ารับราชการหรือเข้าปฏิบัติงานในหน่วยงานของรัฐ

2. มีคุณวุฒิปริญญาตรีทางการศึกษา หรือทางอื่นที่ ก.ค.ศ.กําหนดเป็นคุณสมบัติเฉพาะ สําหรับตําแหน่งครูผู้ช่วยในกลุ่มวิชา หรือทาง หรือสาขาวิชาเอกฯ ที่กําหนดท้ายประกาศ

3. มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู หรือใบอนุญาตปฏิบัติการสอน หรือหนังสือรับรองสิทธิ ที่ยังไม่หมดอายุ และจะต้องได้รับอนุมัติจากผู้มีอํานาจไม่หลังวันเปิดรับสมัครคัดเลือกวันสุดท้าย

4. ปัจจุบันดํารงตําแหน่งพนักงานราชการ ลูกจ้างประจํา ครูสอนศาสนาอิสลาม หรือวิทยากร อิสลามศึกษา พนักงานจ้างเหมาบริการ ครูอัตราจ้าง หรือลูกจ้างชั่วคราว จากเงินงบประมาณ หรือเงินรายได้ของ สถานศึกษา และได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่สอนในโรงเรียนสังกัดสํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ตามคําสั่งหรือสัญญาจ้างอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือรวมกันไม่น้อยกว่า 3 ปี นับถึงวันรับสมัครคัดเลือกวันสุดท้าย (การนับระยะเวลาในการปฏิบัติหน้าที่สอนให้นับระยะเวลาที่ได้ปฏิบัติหน้าที่สอนในโรงเรียนสังกัดสํานักงาน คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานเท่านั้น)

* เงินรายได้ของสถานศึกษา หมายความว่า เงินบริจาค ค่าธรรมเนียม ค่าบริการ ค่าตอบแทน จากการให้บริการ การลงทุน การใช้ทรัพย์สินของสถานศึกษา โดยมีการนําเข้าระบบบัญชีของสถานศึกษา และนําไปใช้จ่ายตามกฎหมายหรือระเบียบที่ทางราชการกําหนด หรือเงินรายได้อื่นตามกฎหมาย หรือระเบียบ ว่าด้วยการนั้น

5. มีภาระงานการสอนตามที่สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานกําหนดต้องมี ตารางสอนไม่น้อยกว่า 5 ชั่วโมง หรือ 5 คาบต่อสัปดาห์ ทั้งนี้ การนับระยะเวลาปฏิบัติการสอน ให้นับตั้งแต่วันที่ ได้รับวุฒิปริญญาตรี โดยผู้มีอํานาจอนุมัติให้สําเร็จการศึกษาแล้ว

กรณีคุณวุฒิที่ผู้สมัครนํามาใช้สมัครเข้ารับการคัดเลือกเป็นคุณวุฒิซึ่งไม่ตรงตามประกาศ รับสมัคร หรือกรณีหลักฐานการศึกษามิได้ระบุสาขาวิชาเอกที่ศึกษาไว้ หรือระบุไว้แตกต่างจากประกาศรับสมัคร ให้พิจารณานับหน่วยกิตใน Transcript ของผู้สมัคร ตามแนวปฏิบัติการนับหน่วยกิต ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ ก.ค.ศ.กําหนด 

อนึ่ง เพื่อประโยชน์และสิทธิ์ของผู้สมัครในการพิจารณานับหน่วยกิต ให้ผู้สมัครดําเนินการ ประสานกับสถาบันการศึกษาที่ตนสําเร็จการศึกษา เพื่อขอให้สถาบันการศึกษาออกเอกสารหลักฐานที่ใช้แสดงหรือ ให้การรับรองว่าคุณวุฒิของผู้สมัครสอดคล้องกับคุณวุฒิ/และกลุ่มวิชา หรือทาง หรือสาขาวิชาเอก ตามที่ระบุไว้ใน ประกาศรับสมัคร นอกจากนี้ อาจให้สถาบันการศึกษาที่ผู้สมัครสําเร็จการศึกษาชี้แจงรายละเอียดใน Transcript เป็นรายวิชาว่า รายวิชาที่ผู้สมัครได้ศึกษามีรายวิชาใดบ้างที่สามารถนํามาประกอบการพิจารณานับหน่วยกิตได้ ทั้งนี้ รายวิชาที่นํามานับหน่วยกิต ต้องสอดคล้องกับกลุ่มวิชา หรือทาง หรือสาขาวิชาเอกที่ประกาศรับสมัคร

6. ไม่เป็นพระภิกษุสามเณร

** อย่างไรก็ตามขอให้ทุกท่านตรวจสอบประกาศรับสมัครสอบครูผู้ช่วย กรณีพิเศษ ปี พ.ศ. 2562 ของสำนักงานศึกษาธิการที่ท่านประสงค์จะสมัครสอบอีกครั้ง เพื่อตรวจสอบคุณสมบัติของผู้มีสิทธิ์สมัครสอบครูผู้ช่วย ให้ถูกต้องและครบถ้วนครับ

ทีมงานครูอัพเดตดอทคอม

ลบภาพพื้นหลังง่ายๆ ด้วยโปรแกรมMicrosoft Word

0

สวัสดีค่ะ พบกันอีกครั้งกับครูอัพเดตดอทคอมที่จะมาอัพเดตเทคนิคต่างๆเกี่ยวกับการใช้งานโปรแกรมเพื่อสร้างสื่อ การเรียนการสอนหรือส่งเสริมการเรียนรู้ให้กับเด็กในห้องเรียนของคุณครูกันนะคะ

วันนี้ครูอัพเดตดอทคอมมีเทคนิคการลบภาพพื้นหลังที่เราไม่ต้องการมาฝากคุณครูค่ะ ซึ่งเป็นเทคนิคการลบภาพพื้นหลังง่ายๆ จะสร้างสื่อการสอนทั้งที มีพื้นหลังสวยๆแต่รูปภาพที่จะนำมาตกแต่งคู่กับพื้นหลังสวยของเรานี่สิ มีพื้นหลังติดมาด้วยจะทำยังไงดี ?
อ๋อ ลืมบอกไปว่า เทคนิคนี้สามารถใช้กับโปรแกรม Microsoft Word Microsoft PowerPoint และ Microsoft Excel ด้วยนะคะ ว้าวมากเลยไม่ต้องใช้โปรแกรมอื่นให้ยุ่งยากเลยค่ะ ไปดูเทคนิคกันเลยนะคะ (ในที่นี้ครูอัพเดตดอทคอมขออนุญาตยกตัวอย่างในโปรแกรม Microsoft Word นะคะ)
1. คุณครูเปิดโปรแกรม Microsoft Word ขึ้นมาเลยค่ะ (ครูอัพเดตดอทคอมใช้โปรแกรม Microsoft Word 2010นะคะ)

2.เปิดไฟล์รูปภาพที่ต้องการลบพื้นหลังโดยไปที่คำสั่ง แทรกแล้วเลือกรูปภาพ  หรือ Insert  แล้วเลือก Pictures ค่ะ

 

3.คลิก2 ครั้งที่รูปภาพที่ต้องการลบ จะขึ้นขอบเขตของรูปภาพและแถบเครื่องมือการจัดการรูปภาพ หรือ Picture Format ซึ่งแถบคำสั่งจะปรากฏขึ้นโดยอัตโนมัติค่ะ

 

4. คลิกที่คำสั่งลบพื้นหลัง หรือ Remove Background ค่ะ

 

5. ให้คุณครูทำการปรับขอบเขตของรูปภาพและพื้นหลังที่ต้องการลบซึ่งพื้นหลังที่เป็นสีชมพู (เดิมสีขาว)
คือส่วนที่เราต้องการจะลบค่ะ

 

6.เมื่อได้ขอบเขตของรูปภาพที่ต้องการจะลบแล้ว ให้คุณครูทำการคลิกที่พื้นที่ว่าง 1 ครั้ง ก็จะได้รูปภาพที่ลบพื้นหลังเรียบร้อยแล้วค่ะ หากรูปภาพที่ต้องการลบยังไม่เป็นที่พึงพอใจ คุณครูสามารถย้อนกลับไปแก้ไขใหม่ โดยการกด Ctrl+Z นะคะ

 

7. โปรแกรมทำการลบพื้นหลังเรียบร้อยแล้วค่ะ

 

จะเห็นได้ว่าการลบพื้นหลังด้วยโปรแกรมMicrosoft Word ไม่ยากเลยใช่ไหมคะ ซึ่งวิธีการนี้สามารถประยุกต์ใช้ได้กับหลายๆงานเลยนะคะ ไม่ว่าจะเป็นการทำหน้าปกแฟ้มสะสมผลงาน การทำบัตรคำ
สื่อการเรียนการสอนต่างๆ ซึ่งไม่จำเป็นที่จะต้องใช้โปรแกรมอื่นๆร่วมด้วยเลยค่ะ ประหยัดเวลาและรวดเร็ว
อีกด้วยนะคะ ไว้คราวหน้ามาอัพเดตข้อมูลเทคนิคดีๆเกี่ยวกับการใช้งานโปรแกรมต่างๆกันอีกนะคะ

 

-ขอบคุณค่ะ-

วิธีการตั้งค่าหน้ากระดาษเอกสารทางวิชาการ อย่างถูกต้อง

0

หลายท่านอาจเคยเจอปัญหา วิธีการตั้งค่าหน้ากระดาษเอกสารทางวิชาการ กันมาใช่ไหมคะ ไม่ว่าจะเป็น เปิดไฟล์งานในโปรแกรม Microsoft Word แล้วทำไมหน้ากระดาษเคลื่อนที่  ?  จะจัดทำเอกสารทางวิชาการขนาดกระดาษต้องใช้ขนาดใด  ?  อยากตั้งค่าหน้ากระดาษเอกสารทางวิชาการ อย่างถูกต้องจะทำได้อย่างไร ?  การตั้งค่าหน้ากระดาษขนาดเท่าใดที่เป็นมาตรฐานของเอกสารทางวิชาการ ? ทำไมตั้งค่าหน้ากระดาษไว้แล้วเปิดขึ้นมาเป็นแบบนี้?

วันนี้ครูอัพเดตดอทคอมมีคำตอบมาให้ทุกท่านได้หายปวดหัวกับปัญหานี้ค่ะ ไม่ว่าจะเป็นการทำวิทยานิพนธ์ วิจัย เอกสารงานวิชาการ บทความวิชาการ ฯลฯ วิธีการตั้งค่าหน้ากระดาษเอกสารทางวิชาการ อย่างถูกต้องก็มักจะมีความสำคัญอันดับแรกเสมอค่ะ สำหรับขนาดระยะขอบของกระดาษที่เป็นมาตรฐานของเอกสารทางวิชาการจะใช้กระดาษขนาด A4 เว้นระยะขอบ ดังนี้
ด้านบน 1.5 นิ้ว
ด้านซ้าย 1.5 นิ้ว
ด้านล่าง 1 นิ้ว
ด้านขวา 1 นิ้ว
โดยวิธีการเข้าไปตั้งค่า คุณครูสามารถเข้าไปตั้งค่าได้ตามขั้นตอนดังนี้เลยค่ะ
1. เปิดโปรแกรม Microsoft Word หรือไฟล์งานของคุณครูขึ้นมาเลยค่ะ (ในที่นี้ครูอัพเดตดอทคอมใช้โปรแกรม Microsoft Word 2010 หากคุณครูใช้เวอร์ชั่นต่างจากครูอัพเดตดอทคอมก็สามารถทำตามวิธีเดียวกันได้เลยค่ะ )

2.เลือกที่เมนูคำสั่ง เค้าโครงหน้ากระดาษ หรือ Layout

3. เลือก การตั้งค่าแบบกำหนดเอง Custom Margins

4.ตั้งค่าระยะขอบแบบกำหนดเองโดยพิมพ์ตัวเลขตามด้วยสัญลักษณ์ “ ฟันหนู
ด้านบน 1.5 “
ด้านซ้าย 1.5 “
ด้านล่าง 1”
ด้านขวา 1 “
แล้วคลิกที่ ตกลง ได้เลยค่ะ

5. ตั้งค่าหน้ากระดาษเอกสารทางวิชาการอย่างถูกต้องเป็นที่เรียบร้อยแล้วค่ะ

เพียงการตั้งค่าหน้ากระดาษง่ายๆเท่านี้ คุณครูก็จะได้หน้ากระดาษเอกสารทางวิชาการ อย่างถูกต้องแล้วค่ะไม่ว่าจะเป็น การขอผลงานระดับระดับครูชำนาญการ ครูชำนาญการพิเศษ ครูเชี่ยวชาญ หรือระดับครูเชี่ยวชาญพิเศษก็มีชัยไปกว่าครึ่งค่ะ การตั้งค่าหน้ากระดาษเอกสารทางวิชาการก็จะไม่เป็นปัญหาสำหรับเราอีกต่อไปค่ะ

ครูอัพเดตดอทคอมขออนุญาตฝากบทความทางด้านเทคโนโลยีไว้ให้คุณครูได้ติดตามกันด้วยนะคะ จะมีเทคนิคดีๆเกี่ยวกับการใช้งานโปรแกรมต่างๆเพื่อสร้างเอกสารทางวิชาการและผลิตสื่อการสอนต่างๆ หากคุณครูมีข้อสงสัยหรือติดขัดปัญหาอย่างใดสามารถฝากความคิดเห็นสอบถามได้เลยนะคะ ไว้คราวหน้ามาพบกันใหม่กับเทคนิคการใช้งานโปรแกรมต่างๆนะคะ

 

-ขอบคุณค่ะ-

 

แผนการสอนสุขศึกษาและพลศึกษา แผนการจัดการเรียนรู้ ป.1- ป.6

0

สวัสดีครับวันนี้ เว็บไซครูอัพเดตดอทคอมขอนำสิ่งดีดีมาฝากคุณครูเช่นเคย โดยในวันนี้ครูอัพเดตดอทคอม
ขอนำแผนการสอน แผนการจัดการเรียนรู้ สุขศึกษา ป.1- ป.6 ซึ่งเรามาดูกันก่อนว่าในสาระสุขศึกษาและพลศึกษา ต้องเรียนรู้อะไรบ้าง

แผนการสอน แผนการจัดการเรียนรู้ สุขศึกษาและพลศึกษา ป.1- ป.6

แผนการสอนหรือแผนจัดการเรียนรู้ คือ เครื่องมือสำคัญอย่างหนึ่งสำหรับการจัดการเรียนการสอนของครูผู้สอนในทุกระดับชั้น เปรียบเสมือนแผนที่นำทางที่ช่วยให้ครูสามารถดำเนินกิจกรรมการเรียนการสอนให้กับผู้เรียนได้เหมาะสม ตรงตามเป้าหมายและมีประสิทธิภาพ

 การจัดทำแผนการสอนนั้น ครูผู้สอน จำเป็นต้องมีความรู้ความเข้าใจในเรื่องของหลักสูตรแกนกลางและหลักสูตรสถานศึกษาอย่างถ่องแท้ เพื่อให้สามารถออกแบบแผนการสอนได้อย่างเหมาะสมและถูกต้องครบถ้วน ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อการจัดการศึกษาทั้งกับตัวผู้เรียนและตัวครูผู้สอนเอง โดยอาศัย โดยองค์ประกอบที่สำคัญของการออกแบบแผนการสอนนั้น จะต้องประกอบด้วย

              1. หัวเรื่อง คือ ส่วนที่ต้องกำหนด ชื่อของเรื่องหรือหน่วยการเรียนรู้  ขั้นที่สอนและเวลาที่ใช้สอน

              2. สาระสำคัญ คือ มโนทัศน์หลักหรือความคิดรวบยอดของการจัดการเรียนรู้ในเรื่องนั้น ๆ ซึ่งกำหนดเป็นภาพกว้างให้เห็นการเชื่อมโยงข้อมูลของสิ่งที่กำลังจะสอน

              3. มาตรฐานและตัวชี้วัด คือ คุณลักษณะสำคัญของผู้เรียนที่กำหนดไว้ในหลักสูตร โดยในแต่ละแผนการจัดการเรียนรู้ จะหยิบยกมาเฉพาะส่วนที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาและคาดว่าจะเกิดกับผู้เรียน ซึ่งการที่ลักษณะของผู้เรียนเป็นไปตามมาตรฐานและตัวชี้วัดนี้ จะช่วยให้ผู้เรียนเกิดสมรรถนะสำคัญและคุณลักษณะที่พึงประสงค์ ตามที่กำหนดไว้ในหลักสูตรแกนกลางและส่วนที่เพิ่มเติมให้หลักสูตรสถานศึกษา

              4. จุดประสงค์การเรียนรู้ คือ เป้าหมายที่ต้องการให้เกิดกับตัวผู้เรียนหลังจากที่เราได้ดำเนินการจัดการเรียนรู้ตามแผนที่ได้วางไว้แล้ว โดยในการกำหนดจุดประสงค์การเรียนรู้นั้นจะต้องเกิดจากการวิเคราะห์มาตรฐานและตัวชี้วัดตามตารางวิเคราะห์หลักสูตร

              5. สาระการเรียนรู้ คือเนื้อเรื่อง หรือองค์ความรู้ ทักษะ กระบวนการของผู้เรียนที่จะต้องเรียนรู้ในรายวิชานั้น ๆ

              6. การบวนการการเรียนรู้ คือ การระบุกิจกรรมการเรียนรู้ที่จัดขึ้น เพื่อให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ โดยแบ่งเป็น ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน ขั้นสอน และขั้นสรุป

              7. สื่อ/อุปกรณ์/แหล่งการเรียนรู้ คือ เครื่องมือในการส่งเสริมการเรียนรู้ที่ใช้ตามที่กำหนดในกิจกรรมการเรียนรู้

              8. การวัดและประเมินผล คือ การประเมินผลผู้เรียนตามจุดประสงค์การเรียนรู้ ซึ่งควรระบุเครื่องมือวัดและเกณฑ์การให้คะแนน ซึ่งสามารถศึกษาได้จากคู่มือหลักสูตร

              9. บันทึกผลหลังการจัดการเรียนรู้ คือการบันทึกของครูผู้สอนจากสิ่งที่พบในการนำแผนจัดการเรียนรู้มาใช้ โดยแบ่งเป็น ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ปัญหาและอุปสรรค์ และ ข้อเสนอแนะ

ดาวน์โหลดไฟล์แผนการสอนวิชาสุขศึกษาและพลศึกษา คลิกที่นี่

เรื่องราวที่น่าสนใจ : แผนการสอนภาษาอังกฤษ ป.1 – ป.6

แผนการสอนการงานอาชีพ แผนการจัดการเรียนรู้ การงานอาชีพ ป.1-ป.6

0

สวัสดีครับวันนี้เว็บไซต์ครูอัพเดตดอทคอมขอนำสิ่งดีดีมาฝากคุณครูเช่นเคย โดยในวันนี้ครูอัพเดตดอทคอม ขอนำ
แผนการสอน แผนการจัดการเรียนรู้ การงานอาชีพ ป.1-ป.6

แผนการสอนการงานอาชีพ แผนการจัดการเรียนรู้ การงานอาชีพ ป.1-ป.6

แผนการสอนวิชาการงานนี้มีให้ตั้งแต่ระดับชั้นประถม 1 – 6 ให้คุณครูสามารถดาวน์โหลดนำไปใช้ได้เลย

วิชาการงานสำคัญอย่างไร? กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยีเป็นกลุ่มสาระที่ช่วยพัฒนาให้ผู้เรียน   มีความรู้  ความเข้าใจ   มีทักษะพื้นฐานที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต    และรู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลง     สามารถนำความรู้เกี่ยวกับการดำรงชีวิต   การอาชีพ  และเทคโนโลยี  มาใช้ประโยชน์ในการทำงานอย่างมีความคิดสร้างสรรค์ และแข่งขันในสังคมไทยและสากล   เห็นแนวทางในการประกอบอาชีพ   รักการทำงาน  และมีเจตคติที่ดีต่อการทำงาน   สามารถดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างพอเพียงและมีความสุข

โดยมีสาระสำคัญ  ดังนี้

  • การดำรงชีวิตและครอบครัว   เป็นสาระเกี่ยวกับการทำงานในชีวิตประจำวัน  ช่วยเหลือตนเอง   ครอบครัว   และสังคมได้ในสภาพเศรษฐกิจที่พอเพียง   ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม   เน้นการปฏิบัติจริงจนเกิดความมั่นใจและภูมิใจในผลสำเร็จของงาน  เพื่อให้ค้นพบความสามารถ  ความถนัด และความสนใจของตนเอง
  • การออกแบบและเทคโนโลยี   เป็นสาระการเรียนรู้ที่เกี่ยวกับการพัฒนาความสามารถของมนุษย์อย่างสร้างสรรค์   โดยนำความรู้มาใช้กับกระบวนการเทคโนโลยี  สร้างสิ่งของ  เครื่องใช้  วิธีการ  หรือเพิ่มประสิทธิภาพในการดำรงชีวิต
  • เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร  เป็นสาระเกี่ยวกับกระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศ   การติดต่อสื่อสาร  การค้นหาข้อมูล   การใช้ข้อมูลและสารสนเทศ    การแก้ปัญหาหรือการสร้างงาน  คุณค่าและผลกระทบของเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
  • การอาชีพ    เป็นสาระที่เกี่ยวข้องกับทักษะที่จำเป็นต่ออาชีพ   เห็นความสำคัญของคุณธรรม  จริยธรรม  และเจตคติที่ดีต่ออาชีพ  ใช้เทคโนโลยีได้เหมาะสม   เห็นคุณค่าของอาชีพสุจริต   และเห็นแนวทางในการประกอบอาชีพ

ดาวน์โหลดไฟล์แผนการจัดการเรียนรู้ ป.1-ป.6