บัตรคำ พื้นฐาน ป 1 สำหรับใช้ ฝึกอ่าน และ สะกดคำ มากกว่า 720คำ

0

สวัสดีค่ะคุณครูทุกท่าน วันนี้ ครูอัพเดทดอทคอม มีบทความเกี่ยวกับ การฝึกอ่านของนักเรียน มาฝากคุณครูทุกท่านค่ะ ซึ่งบัตรภาพคำบัญชีพื้นฐานการฝึกอ่าน สำหรับนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาที่ ครูอัพเดตดอทคอม ได้นำมาฝากคุณครูในวันนี้ จะเป็นลักษณะของคำ มีรูปภาพประกอบและมีคำอ่าน ที่นักเรียนสามารถฝึกสะกด ได้เลยค่ะ ซึ่งในลักษณะของบัตรคำเอง จะเรียงลำดับพยัญชนะสำหรับการฝึกอ่าน โดยไฟล์ที่
ครูอัพเดตดอทคอม นำมาฝากคุณครูนั้นมี ทั้งหมดถึง 180 หน้าเลยนะคะ หรือมากกว่า 720 คำ เลยนะคะ

เมื่อนักเรียนฝึกอ่านบัตรคำพื้นฐาน แล้วจะสามารถเรียนรู้ พยัญชนะ สระ และ สามารถ อ่านสะกดออกเสียง ได้อย่างถูกต้อง หากคุณครูสนใจ ดาวน์โหลดไฟล์ เพื่อนำไปใช้เป็นสื่อประกอบการอ่านสำหรับนักเรียนประถมศึกษา เพื่อจัดการเรียนการสอน สามารถดาวน์โหลดได้ที่ลิงค์ ด้านล่างเลยค่ะ

ดาวน์โหลดบัตรคำ

ครูอัพเดตดอทคอม หวังว่าบทความสื่อบัตรภาพคำบัญชีพื้นฐานที่นำมาฝากคุณครูในวันนี้จะเป็นประโยชน์กับคุณครูนะคะไว้พบกันใหม่บทความหน้าค่ะ

อาชีพครู ในอดีต และปัจจุบัน  ความเหมือนที่แตกต่าง

0

อาชีพครู ในอดีต และปัจจุบัน  ความเหมือนที่แตกต่าง

สวัสดีครับ   ครูอัพเดตดอทคอม   มีสิ่งดีๆมานำเสนอเช่นเคยครับ  จากสภาพปัจจุบันวงการศึกษาในประเทศไทย
รู้สึกว่าจะมีแต่ความไม่แน่นอน อะไรก็เกิดขึ้นได้ในทุกวันเวลา ทุกชั่วโมง  นาที  แอดมิน จึงหวนคิดถึงเมื่อประมาณ 30 ปีก่อน ว่ามีอะไรที่เหมือน หรือแตกต่างกับปัจจุบันนี้บ้าง ในการประกอบ อาชีพครู

โดยที่แน่นอนที่สุดคือ อาชีพครู คือ วิศกรในการสร้างคน  การมุ่งเน้นพัฒนานักเรียน ให้มีความรู้ มีทักษะ  เป็นคนดี
เพื่อพัฒนาประเทศชาติ  และนี่คือความเหมือนกันของ อาชีพครู ในทุกยุคทุกสมัย

ในส่วนที่มีความแตกต่างนี้ ครูอัพเดตดอทคอม  ขอนำเสนอเป็นตารางเปรียบเทียบเพื่อให้เห็นภาพชัดเจนครับ..

ครูในอดีต ครูในปัจจุบัน
การผลิตครู เรียน 4  ปี  เรียน 5 ปี (มีเรียน 4 ปีบางหลักสูตร )
บทบาทครู เนื้อหาอยู่กับครู  ครูเป็นศูนย์กลาง
ความรู้ต่างๆ (ครูคือแม่พิมพ์)
เนื้อหาอยู่กับสื่อต่างๆ  ครูคือผู้คอย
อำนวยความสะดวก การในการเรียนรู้
เตรียมสื่อ  อุปกรณ์ (ครูคือโค้ช)
สื่อการเรียนการสอน หนังสือเรียน   กระดานดำ คอมพิวเตอร์  ทีวี  กระดานไวท์บอร์ด
แท็ปเล็ต  ชุดทดลอง ชุดฝึกทักษะ
วงจรอิเล็กทรอนิกส์ (คิดส์ไบร์ ,ไมโครบิต) หนังสือเรียน ฯลฯ
กิจกรรมการเรียนรู้ อ่าน เขียน  คัด  ท่องจำ เป็นหลัก ลดการท่องจำ  เรียนรู้ออนไลน์
ชมวีดีทัศน์   เรียนสื่อ DLIT/TV
ใช้มือถือ  แท็ปเล็ต  คอมพิวเตอร์
ในการทำกิจกรรมการเรียนรู้
ความสัมพันธ์นักเรียนกับครู เคารพ  อ่อนน้อม  เชื่อฟัง  เกรงกลัว ครูคือเพื่อน (ส่วนมากมัธยม)
มีความเป็นตัวเองไม่ค่อยเชื่อฟัง
(ด้านพฤติกรรม)  แข็งกระด้าง(บางคน)  คอยจับผิด (แอบถ่ายคลิป)
เด็กบกพร่องการเรียนรู้ เด็กพิการ (ร่างกายชัดเจน) เด็กบกพร่องฯมีอยู่  9   แบบ
ความสัมพันธ์ผู้ปกครองกับครู ให้ความเคารพยำเกรงครู
เจอกันผู้ปกครองยิ้มไหว้ทักทายก่อน
ผู้ปกครองมักใช้socialมากกว่าถามครูโดยตรง   ครูคือผู้บริการ
เจอกันครูยิ้มไหว้ทักทายก่อน
งานเอกสาร แผนการสอน   ตรวจการบ้าน
ธุรการชั้น
แผนการสอน   ตรวจการบ้าน
ธุรการชั้น   SAR  เล่มรายงานการอบรม   เอกสารรายงานข้อมูลเขต
ID แพลน   เอกสารวิทยฐานะ
วิจัยในชั้นเรียน
ตำแหน่งครูในโรงเรียน ครู  ครูใหญ่ ผอ.   ครูประจำการ     ครูธุรการ
ครูพนักงานราชการ
ครูพี่เลี้ยงเด็กพิการ   ครูขั้นวิกฤติฯ

 

แต่อย่างไรก็ตาม  แม้สิ่งต่างๆจะเปลี่ยนไปตามกาลเวลา   แต่ขอให้คุณครูทุกท่าน  อย่าได้ท้อนะครับ ครูอัพเดตดอทคอม
ขอเป็นกำลังใจ  ไม่ว่าระบบจะเป็นอย่างไร   การที่ได้อบรมสั่งนักเรียนให้เป็นคนดี มีความรู้  ก็คือ  สุดยอดครู   แล้วครับ

สำหรับข้อมูลที่นำเสนอ  ก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น  ยังมีอีกหลายเรื่องที่แอดมินอาจมองข้าม  คุณครูท่านใด
ที่อยากแลกเปลี่ยนเรียนรู้  ก็นำเสนอมาได้ครับ   ผ่านทาง เพจ ครูอัพเดตดอทคอม

ตัวอย่าง  สูตร การคำนวณ เงินปันผล และ เงินเฉลี่ยคืน ของ สหกรณ์ออมทรัพย์ครู

ตัวอย่าง  สูตร การคำนวณ เงินปันผล และ เงินเฉลี่ยคืน ของ สหกรณ์ออมทรัพย์ครู

 

สวัสดีครับ  ครูอัพเดตดอทคอม  มีสาระดีๆมาฝากทุกท่านเช่นเคยครับ   ช่วงปลายปีแบบนี้ท่านใดที่เป็นสมาชิกสหกรณ์
ออมทรัพย์ครูอยู่คงกำลังรอรับ  เงินปันผลและเงินเฉลี่ยคืน  ของตนเองอยู่ ใช่ไหมครับ  ระหว่างรอนะครับ  เรามาลองคิด
เงินที่เราน่าจะได้  ตามตัวอย่างที่จะขอแนะนำต่อไปนี้ครับ

สมมติว่า  
แอดมิน  มีหุ้นสะสมของตั้งแต่เป็นสมาชิกทั้งหมด 200,000 บาท จากรอบปีที่ผ่านมา  และรอบปีนี้ 12 เดือนล่าสุด
จ่ายหุ้นเดือนละ 1,000 บาท  เพื่อจะคิดเงินปันผล  และ ปีนี้จ่ายดอกเบี้ยเงินกู้ไปทั้งหมด  72,000 บาท  เพื่อคิด
เงินเฉลี่ยคืน  มาลองคำนวณกันดูครับ…

1.ตัวอย่างการคิด เงินปันผล

-ยอดหุ้นยกมาทั้งหมด (หุ้นสะสม) 200,000 บาท

-ยอดหุ้นส่งหักรายเดือนๆ ละ 1,000 บาท

-อัตราเงินปันผล 6.00%  ( ในแต่ละปีอาจจะไม่เท่ากันนะครับ )

1.1 ยอดปันผลหุ้นยกมาทั้งหมด 200,000 x 6.00% = 12,000.00 บาท

1.2 ยอดปันผลหุ้นหักรายเดือนๆ ละ 1,000 บาท

ต.ค. 61         1,000 x (11/12) x 6.00% = 55

พ.ย.61          1,000 x (10/12) x 6.00% = 50

ธ.ค.61           1,000 x (9/12) x 6.00% = 45

ม.ค.62          1,000 x (8/12) x 6.00% = 40

ก.พ.62          1,000 x (7/12) x 6.00% = 35

มี.ค.62          1,000 x (6/12) x 6.00% = 30

เม.ย.62         1,000 x (5/12) x 6.00% = 25

พ.ค.62          1,000 x (4/12) x 6.00% = 20

มิ.ย.62          1,000 x (3/12) x 6.00% = 15

ก.ค.62         1,000 x (2/12) x 6.00% = 10

ส.ค.62         1,000 x (1/12) x 6.00% = 5

ก.ย.62         1,000 x (0/12) x 6.00% = 0

รวมปันผลหุ้นรายเดือนเป็นเงิน 330  บาท

รวมเงินปันผลทั้งหมด  12,000 + 330 = 12,330 บาท

 

2. ตัวอย่างการคิด เงินเฉลี่ยคืน
-ดอกเบี้ยเงินกู้ทั้งปี 72,000 บาท
-อัตราเงินเฉลี่ยคืน 11.50 %  ( ในแต่ละปีอาจจะไม่เท่ากันนะครับ )
เงินเฉลี่ยคืนที่ได้รับ คือ 72,000 x 11.50 % = 8,280  บาท

สรุปรวม เงินปันผล+เงินเฉลี่ยคืน = 12,330+8,280 =20,610 บาท  และนี่คือเงินที่แอดมินจะได้รับครับ…

จากที่กล่าวมาก็เป็นเพียงตัวอย่างเท่านั้นนะครับ  อาจมีบางสหกรณ์ได้มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบวิธีการ  ไปตามยุคสมัย
ก็ขอให้ท่านได้ตรวจสอบกับทางสหกรณ์ที่ท่านเป็นสมาชิกอยู่ด้วยนะครับ  หวังว่าบทความนี้คงเป็นประโยชน์กับทุกท่านไม่มากก็น้อยนะครับ  แล้วพบกันบทความต่อไปครับ…

หมายเหตุ   อัตราเงินปันผล (เปอเซ็นต์)  และอัตราเงินเฉลี่ยคืน (เปอเซ็นต์)  ที่นำมาคำนวณให้แก่สมาชิก
ของแต่ละสหกรณ์ และแต่ละปีจะไม่เท่ากัน

ปกแฟ้ม 13 ตัวชี้วัด ตามเกณฑ์ว.21 ไฟล์แก้ไขได้ พร้อมปริ้น

0

สวัสดีค่ะคุณครูทุกท่านวันนี้ ครูอัพเดตดอทคอม มี หน้าปก13แฟ้ม ที่ใช้สำหรับประเมินวิทยฐานะ ตามเกณฑ์ ว.21 มาฝากคุณครูทุกท่านค่ะ  ครูอัพเดตดอทคอม เชื่อว่ามีคุณครูหลายท่านกำลังตามหาอยู่จริงไหมคะ

ซึ่งหน้าปก13แฟ้ม ที่ใช้สำหรับประเมินวิทยฐานะ ตามเกณฑ์ ว.21 ที่ได้นำมาฝากคุณครูในครั้งนี้มีองค์ประกอบตามเกณฑ์การประเมินวิทยฐานะว.21เลยค่ะไปดูตัวอย่างหน้าปกแฟ้มและองค์ประกอบต่างๆ
กันเลยค่ะ

1.ด้านการจัดการเรียนการสอน

1.1 การสร้างและหรือพัฒนาหลักสูตร

1.2 การจัดการเรียนรู้

1.2.1 การออกแบบหน่วยการเรียนรู้

1.2.2 การจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้

1.2.3 กลยุทธ์ในการจัดการเรียนรู้

1.2.4 คุณภาพผู้เรียน

1.3 การสร้างและการพัฒนา สื่อ นวัตกรรม เทคโนโลยีทางการศึกษา และแหล่งเรียนรู้

1.4 การวัดและประเมินผลการเรียนรู้

1.5 การวิจัยเพื่อพัฒนาการเรียนรู้

2.ด้านการบริหารจัดการชั้นเรียน

2.1 การบริหารจัดการชั้นเรียน

2.2 การจัดระบบดูแลช่วยเหลือผู้เรียน

2.3 การจัดทำข้อมูลสารสนเทศ และเอกสารประจำชั้นเรียนหรือประจำวิชา

3.ด้านการพัฒนาตนเอง และพัฒนาวิชาชีพ

3.1 การพัฒนาตนเอง

3.2 การพัฒนาวิชาชีพ

ซึ่งคุณครูสามารถดาวน์โหลด ได้ที่ลิงค์ด้านล่าง

ดาวน์โหลดไฟล์

และทำการแก้ไข ไฟล์ word โดยสามารถตัดภาพของคุณครูมาใส่ในรายงานได้เลยค่ะ ซึ่งครูอัพเดตดอทคอม ขอแนะนำเว็บไซต์สำหรับลบพื้นหลัง www.remove.bg โดยภาพที่นำไปลบพื้นหลังควรเป็นภาพที่มีสีพื้นหลังเป็นสีเดียว การลบจะมีประสิทธิภาพมากค่ะ

ครูอัพเดตดอทคอม ขอขอบคุณ โรงเรียนนาน้อย จังหวัดน่าน นะคะที่ได้แบ่งปันไฟล์ปกในครั้งนี้และหวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์กับคุณครูนะคะ ไว้พบกันใหม่คราวหน้าค่ะ

ดาวน์โหลด งานวิจัยในชั้นเรียน มากกว่า 100เรื่อง ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ ไฟล์ word

0

สวัสดีค่ะคุณครูทุกท่าน วันนี้ครูอัพเดตดอทคอม มี ตัวอย่างงานวิจัยในชั้นเรียน ไฟล์ word มาฝากคุณครู ซึ่งคุณครูสามารถ ดาวน์โหลดเพื่อนำไปศึกษาและพัฒนาการจัดการเรียนการสอนของคุณครูได้เลยค่ะ

ก่อนนจะดาวน์โหลดไฟล์ เรามาคุยกันเกี่ยวกับ ความหมายของงานวิจัยในชั้นเรียนกันก่อนนะคะ จริงๆแล้วความหมายของงานวิจัยในชั้นเรียนก็มีหลายท่านให้คำนิยามไว้มากมายเลยค่ะ

การวิจัยในชั้นเรียน  เป็นการวิจัยเพื่อหานวัตกรรมสำหรับแก้ปัญหาหรือเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ของผู้เรียน ซึ่งเน้นในลักษณะการวิจัยเชิงปฏิบัติการ (Action Research) โดยมีปัญหาการเรียนรู้เป็นจุดเริ่มต้น ผู้สอนหาวิธีการ หรือนวัตกรรมเพื่อแก้ปัญหา มีการสังเกตและตรวจสอบผลของการแก้ปัญหา/การพัฒนา แล้วจึงบันทึกและสะท้อนการแก้ปัญหาหรือการพัฒนานั้นๆ การวิจัยในชั้นเรียนมักเป็นการวิจัยขนาดเล็ก (Small scale) ที่ดำเนินการโดยผู้สอน เป็นกระบวนการที่ผู้สอนสะท้อนการปฏิบัติงาน และเสริมพลังอำนาจให้ครูผู้สอน ( Field ,1997  อ้างถึงในสุภัทรา เอื้อวงศ์  ออนไลน์  2554)

การวิจัยในชั้นเรียน  เป็นการแก้ปัญหาและ/หรือพัฒนางานที่เกี่ยวกับการเรียนการสอนในชั้นเรียนโดยอาศัยกระบวนการวิจัยในการดำเนินงานทั้งนี้มีเป้าหมายสำคัญที่อยู่ที่การเรียนรู้ที่สำคัญของผู้เรียนให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ในหลักสูตรการศึกษาในแต่ละระดับ   (รัตนะ  บัวสนธ์,2544)

ซึ่งเราอาจกล่าวโดยสรุปว่า การวิจัยในชั้นเรียนเป็นการแก้ไขปัญหาในชั้นเรียน รวมทั้งการพัฒนานวัตกรรมที่ส่งเสริมการเรียนรู้ของนักเรียนนั่นเองค่ะ

ดาวน์โหลดที่นี่ ตัวอย่างงานวิจัยในชั้นเรียน มากกว่า 100เรื่อง ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ ไฟล์ word

หลังจากที่ทราบความหมายของ งานวิจัยในชั้นเรียน แล้ว เรามาดาวน์โหลดงานวิจัยในชั้นเรียน เพื่อนำไปศึกษา พัฒนาการจัดการเรียนรู้กันเลยค่ะ  โดยงานวิจัยที่ครูอัพเดตดอทคอม ได้นำมาฝากคุณครูในวันนี้ มีมากกว่า 100 เรื่องเลยทีเดียวค่ะ คุณครูสามารถดาวน์โหลดไฟล์ โดยคลิกที่ลิงค์ ด้านล่างได้เลยค่ะ

ดาวน์โหลดไฟล์

 

ครูอัพเดตดอทคอม ต้องขอขอบคุณที่มาจาก กลุ่ม ร่วม PLC วิทยฐานะเกณฑ์ใหม่ ว.21 by ครูมนตรี นันไชย, ครูดอย ปนางฐิติ เป็นอย่างสูงนะคะ

เรื่องจริง 4 ข้อของครูไทย ที่หลายคนอาจยังไม่รู้

สวัสดีครับวันนี้เว็บไซต์ครูอัพเดตดอทคอมมีเรื่องราวในแวดวงการศึกษามาเล่าให้ทุกๆท่านได้อ่านผ่านตัวอักษรนะครับ หลังจากที่เว็บไซต์ครูอัพเดตได้จัดทำเพจและรวบรวมข้อมูลจากการแสดงความเห็นของคุณครูของเราในโลกออนไลน์เกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในการปฏิบัติหน้าที่ของคุณครู หรือ การจัดกิจกรรมต่างๆของคุณครู ประกอบกับครูอัพเดตเองก็เป็นคุณครูในโรงเรียนเช่นกัน เลยพอจะมองเห็นภาพของคุณครูไทยที่มาความละม้ายคล้ายคลึงกันในทุกๆโรงเรียน จึงที่มาของบทความที่ว่า ” เรื่องจริง 4 ข้อของครูไทย ที่หลายคนอาจยังไม่รู้ ” 

เรื่องจริง 4 ข้อของครูไทย ที่หลายคนอาจยังไม่รู้
เรื่องจริง 4 ข้อของครูไทย ที่หลายคนอาจยังไม่รู้

1. ครูไทยไม่มีได้มีหน้าที่สอนอย่างเดียว

การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนคือหน้าที่หลักของคุณครู แต่แน่นอนการทำงานในโรงเรียนไม่มีแค่การสอนเท่านั้นครับ ยังมีงานอื่นๆอีกมากมายที่คุณครูต้องทำ เช่น การเงิน พัสดุ ทะเบียน งานนโยบายเร่งด่วน ทำเอกสารด้านงานทะเบียน กรอกข้อมูลออนไลน์ เป็นต้น

2. ครูไทยจัดหาและพัฒนาสื่อด้วยเงินตนเอง

หลายท่านจะเห็นว่าในห้องเรียนของคุณครูจะมีสื่อการสอนมากมาายทั้งสื่อที่จัดทำเองหรือสื่อที่จัดหามา หลายคนเข้าใจว่าคุณครูใช้เงินของโรงเรียนในการจัดหามาแต่ ความจริงแล้วเงินของโรงเรียนที่จัดสรรให้นั้นไม่พอครับ หรือ บางครั้งสื่อการสอนที่กระทรวงจัดสรรมาให้ยังไม่ตรงกบบริบทของนักเรียน คุณครูจึงต้องควักกระเป๋าใช้เงินตนเองจัดหาและจัดทำสื่อขึ้นมาตามกำลังทรัพย์ เพราะอยากให้ลูกๆนักเรียนได้รับความรู้อย่างเต็มศักยภาพครับ

3. ครูไทยไปติดต่อราชการใช้รถและน้ำมันเชื้อเพลิงส่วนตัว

หลายครั้งที่คุณครูไปติดต่อราชการ จะเห็นว่าคุณครูจะใช้รถยนต์ส่วนตัวเนื่องจากไม่รถโรงเรียนหรือถ้าจะให้ขึ้นรถโดยสารไปคงใช้เวลาเดินค่อนข้างมากและยากลำบากในการเดินทาง และค่าใช้จ่ายในการเดินทางไม่ว่าจะเป็นค่าน้ำมันเชื้อเพลิง คุณครูก็จะเป็นออกค่าใช้จ่ายเองครับ ถึงแม้ทางโรงเรียนจะมีการตั้งงบประมาณรองรับในส่วนนี้ แต่โรงเรียนเล็กหรือกลาง งบประมาณไม่เพียงครับ ทำให้ค่าใช้จ่ายส่วนนี้คุณครูต้องรับผิดชอบครับ

4. ครูไทยทำงานล่วงเวลา

จากระเบียบกระทรวงศึกษาธิการที่กำหนดเวลาทำงานของคุณครู ในวันทำการอยู่ระหว่าง 08.30 – 16.30 น. โดยให้มาก่อน 15 นาที และ กลับหลัง 15 นาที แต่ในความจริงแล้วการมาทำงานเป็นคุณครูนั้น ไม่สามารถทำตามระเบียบดังกล่าวได้ เพราะเมื่อนักเรียนมา  ครูก็ต้องมา เมื่อนักเรียนยังไม่กลับคุณครูก็กลับไม่ได้ เพราะนี่คือความรับผิดชอบของคุณครู เช่น

นักเรียนมาโรงเรียน 6 โมงเช้า ครูจะมา 08.15 ได้อย่างไรครับ ต้องมา 6 โมงเช้าเหมือนนักเรียนครับ เพราะต้องมาดูแลนักเรียนครับ

บางครั้งผู้ปกครองนักเรียนติดธุระมารับตอน 6 โมงเย็น คุณครูก็ต้องอยู่กับนักเรียนจนกว่าผู้ปกครองจะมารับกลับบ้าน

และคุณครูยังต้องตรวจงาน ทำงานอื่นๆอีก คุณครูบางท่านกลับบ้าน 1-2 ทุ่มทุกวันครับ

นี่เป็นเพียงความจริงบางตอนของชีวิตครูไทยเท่านั้นครับ ยังมีอีกมากมายที่หลายท่านอาจจะยังไม่รู้ หลายคนบอกว่าเป็นครูและสบายสอนๆไปก็จบ แต่ความจริงไม่ใช่ ถ้าใครอยากจะรู้ว่าเป็นอย่างไรลองมาเป็นครูซัก 1 เดือน แล้วจะรู้ว่ามีอะไรอีกมากมายที่เรายังไม่รู้เกี่ยวกับอาชีพครูของไทย

ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามครูอัพเดตดอทคอมตลอดมานะครับ

ทีมงานครูอัพเดตดอทคอม

หลักการโพสต์เฟซบุ๊กสำหรับครูมืออาชีพ

0

facebookสำหรับครู

ปัจจุบันเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันเรามากมาย เป็นปัจจัยที่ 5 สำหรับการดำรงชีวิตเลยก็ว่าได้  บางคนตื่นขึ้นมาอันดับแรกจับโทรศัพท์ก่อนเลย อาจดูเวลา หรือดูข่าว ข้อมูลต่างๆ จากโปรแกรมในมือถือนั่นก็คือ เฟซบุ๊กนั่นเอง

เฟซบุ๊กถือเป็นโปรแกรมยอดนิยมอันดับต้นในสื่อสังคมออนไลน์ เพราะสามารถทำกิจกรรมอะไรต่างๆมากมายในนั้น เช่น โพสต์รูปกิจกรรมต่างๆ ดูหนัง ดูละคร ดูข้อมูลข่าวสาร หรือแม้กระทั่งขายของออนไลน์

ในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนในโรงเรียน ครูหลายท่านใช้เฟซบุ๊กสำหรับทำกิจกรรมและเป็นสื่อการสอนสำหรับเด็กๆ เช่น  โฟสต์ทัศนคติที่มีต่อโรงเรียน เด็กๆ ผู้ปกครอง หรือโพสต์รูปเด็กๆในการทำกิจกรรมต่างๆ ซึ่งบางครั้งบางทีอาจมีดราม่าหรือมีปัญหาได้  วันนี้  ครูอัพเดตดอทคอม มีบทความเรื่อง หลักการโฟสต์เฟซบุ๊กอย่างไรให้เป็นครูมืออาชีพ มานำเสนอ ไปดูกันเลย….

  1. ควรใช้เฟซบุ๊กให้ตรงกับคุณสมบัติ เช่น เฟซบุ๊กส่วนตัว  เฟซบุ๊กโรงเรียน แฟนเพจ  กรุ๊ปต่างๆ กล่าวคือ ถ้าเป็นคนดูแลเฟซบุ๊กโรงเรียน ชื่อเฟซบุ๊กเป็นชื่อโรงเรียน ก็ไม่ควรโพสต์เรื่องราวส่วนตัวของตัวลงไป เพราะนั่นคือเฟซโรงเรียน ควรเป็นเรื่องหรือกิจกรรมต่างๆของโรงเรียนเท่านั้น (สำหรับแอดมินที่ดูแลเฟซบุ๊กโรงเรียน)
  2. การใช้คำหรือข้อความควรเขียนให้ถูกต้อง  เพราะคนเป็นครูควรเป็นแบบอย่างที่ดีในการเขียนหนังสือให้ถูก การใช้คำหรือการสะกดคำต่างๆ เช่น  อนุญาต นะคะ หรือคำอื่นๆอีกมากมาย
  3. ข้อมูลส่วนตัว  ไม่ควรเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวมากเกินไป เช่น ที่อยู่บ้าน หมายเลขบัตรต่างๆ เบอร์โทรศัพท์ ทะเบียนรถยนต์  ควรเปิดเผยเฉพาะที่จำเป็นเพื่อให้เพื่อนๆในเฟซรู้ว่าเรามีตัวตนอยู่จริงเท่านั้น เพราะข้อมูลที่สำคัญต่างๆ อาจทำให้บุคคลที่ไม่หวังดีนำข้อมูลไปใช้ในทางที่ไม่ดี
  4. การโพสต์รูปภาพ  ซึ่งแน่นอนรูปภาพของครูส่วนใหญ่จะเป็นรูปกิจกรรมที่ถ่ายกับเด็กนักเรียน  ซึ่งถ้าโพสต์รูปเด็กนักเรียนควรขออนุญาตจากเด็กหรือผู้ปกครองของเด็กก่อน  เพราะอาจเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลได้  การโพสต์รูปเด็กควรเป็นรูปที่สุภาพ และไม่เป็นรูปที่ทำให้เด็กอับอาย ไม่ควรเปิดเผยชื่อ ที่อยู่  และข้อมูลสำคัญของเด็ก การโพสต์รูปภาพส่วนตัวหรือครูท่านอื่นๆก็เช่นกัน ควรขออนุญาตบุคคลที่มีในรูปก่อน และไม่ควรแท็กบุคคลอื่นที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อในรูป
  5. การโพสต์ข้อความแสดงความคิดเห็น  จริงแล้วเฟซบุ๊กคือพื้นที่ส่วนบุคคล ที่บางคนอาจมองว่า พื้นที่ส่วนตัวของฉันก็จะโพสต์อย่างไรก็ได้ แต่ถ้าข้อมูลนั้นได้โพสต์ออกไปแล้วมันจะไม่เป็นส่วนตัวแน่นอน ครูบางท่านอาจโพสต์แสดงความรู้สึกต่อ โรงเรียน เพื่อนร่วมงาน เด็กๆ หรือ ผอ. ถ้าเป็นความรู้สึกที่ดีดีก็คงจะไม่มีปัญหาอะไร แต่ถ้าเป็นความรู้สึกในด้านลบ อาจไม่ดีแน่ เพราะสมาชิกที่อยู่ในโรงเรียนทุกท่านเปรียบเสมือนคนในครอบครัว  เรื่องไม่ดีก็ไม่ควรจะนำไปโพสต์ระบายให้คนภายนอกได้รับรู้ มีอะไรที่ไม่เข้าใจ ควรมาพูด อธิบายกันตรงๆจะดีกว่า  เพราะมันจะไม่ดีกับตัวคุณและกับคนที่คุณโพสต์ถึงด้วยเช่นกัน

เทคโนโลยีก็เปรียบเสมือนดาบสองคม มีประโยชน์ย่อมมีโทษเช่นกัน  ฉะนั้นเราจะใช้งานอย่างไรให้มีประโยชน์มากที่สุด  ควรมีสติทุกครั้งในการพิมพ์หรือโพสต์ข้อความต่างๆ   การให้ร้ายผู้อื่น พูดถึงข้อเสียของผู้อื่น ท้ายที่สุดคือกระจกเงาสะท้อนตัวคุณนั่นเอง… สรุปแล้ว ไม่ว่าจะโลกออนไลน์หรือโลกความเป็นจริงเราก็ควรที่จะพูดหรือโพสต์ให้เกียรติบุคคลอื่น  คิดก่อนโพสต์ทุกครั้งนะคะ^_^  

บทความโดย  ครูอัพเดตดอทคอม

เปิด 5 ตำแหน่งในโรงเรียน ที่ใครเป็นแล้ว จะกลายเป็นสุดยอดคุณครู

สวัสดีครับทุกท่านวันนี้เว็บไซต์ครูอัพเดตดอทคอมมีบทความเกี่ยวกับวงการครูไทยมาฝากครับ โดยปกติแล้วคุณครูในโรงเรียนทุกท่านก็จะมีหน้าที่หลักในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ให้กับลูกๆนักเรียนอยู่แล้ว ซึ่งเชื่อเหลือเกินว่าในการสอนของคุณครูแต่ละท่าน มีความตั้งใจจัดกิจกรรมการเรียนรู้อย่างเต็มที่แน่นอน

แต่นอกจากกิจกรรมการสอนในห้องเรียนแล้วยังมีกิจกรรมอื่นๆที่นอกเหนือจากการสอนที่คุณครูจะได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบดำเนินการ ซึ่งในโรงเรียนก็จะมีมากมายหลายตำแหน่ง แต่วันนี้ขอแนะนำเฉพาะตำแหน่งที่ถือว่าเป็นสุดยอดตำแหน่งที่คุณครูหลายๆท่านถวิลหาอยากจะลองสัมผัสซักครั้ง ส่วนท่านที่สัมผัสแล้วต้องขอบอกเลยว่า “ไม่มาเป็นไม่รู้หรอกว่าสุดยอดแค่ไหน” จึงเป็นที่มาของบทความที่ว่า ” เปิด 5 ตำแหน่งในโรงเรียน ที่ใครเป็นแล้ว จะกลายเป็นสุดยอดคุณครู ”

ตำแหน่งนายทะเบียน

สำหรับตำแหน่งนายทะเบียนก็จะมีการดำเนินการต่างๆ ของนักเรียน ไม่ว่าจะเป็น การลงทะเบียนนักเรียนใหม่ การย้ายนักเรียนเข้าและออก รวมถึงดำเนินการในส่วนต่างๆที่เกี่ยวกับนักเรียน แต่ช่วงที่ถือว่าเป็นจุดพีคของตำแหน่งนี้คือ ช่วงสิ้นปีการศึกษา จัดทำ ปพ.1 ปพ.2 และ ปพ.3 ช่วงนี้ถือว่าเป็นช่วงที่นักเรียนมาติดต่อมากสุดๆ ครับ

ตำแหน่งเจ้าหน้าที่บันทึกข้อมูล (DMC และ ระบบ E ต่างๆ)

สำหรับตำแหน่งนี้ต้องบอกเลยครับว่าเป็นตำแหน่งที่มีความสนุกอยู่ 3 ช่วงด้วยกันคือ ช่วง 10 มิ.ย. และ 10 พ.ย. และสิ้นปีการศึกษา ของทุกปี ซึ่งเป็นช่วงที่ระบบ DMC หรือ ระบบข้อมูลนักเรียนรายบุคคล เปิดระบบให้บันทึกข้อมูล ซึ่งถ้าเป็นนักเรียนใหม่ (เช่นอนุบาล) จะต้องกรอกข้อมูลใหม่ทั้งหมด แต่ถ้าเป็นนักเรียนเดิมต้องการบันทึกน้ำหนักส่วนสูง ความขาดแคลน ฯลฯ บางโรงเรียนนักเรียนมีเป็นร้อยเป็นพันคน ซึ่งคุณครูที่รับผิดชอบจะรู้ว่า ไม่สามารถคาดเดาเหตุการณ์ล่วงหน้าได้เลย บางทีระบบเกิดมีปัญหา ย้าย server หรือ มีนักเรียนย้ายเข้าออกในช่วงใกล้ครับกำหนดส่งข้อมูล เป็นต้น ส่วนในะระบบอื่นๆก็จะมาเป็นช่วงๆและแต่โอกาสครับ

ตำแหน่งเจ้าหน้าที่การเงิน หรือ ครูการเงิน

สำหรับตำแหน่งคุณครูการเงินมีภาระกิจมากมาบ เช่น รับและจ่ายเงิน เรียนฟรี 15 ปี สรุปยอดรายรับประจำวันและนำฝากธนาคารและนำเอกสารส่งงานบัญชี  ตรวจสอบเอกสารการวางบิล จัดทำใบสำคัญจ่ายเงิน ติดตาม การใช้เงิน งาน / โครงการ ต่างๆ  เป็นต้น ซึ่งในการดำเนินการของคุณครูการเงินต้องมีเอกสารหลักฐานที่ถูกต้องและชัดเจน และเป็นไปตามกฏระเบียบที่กำหนด ที่มักมีคำกล่าวว่า ขาข้างหนึ่งเหยียบเข้าไปในคุกแล้ว ถ้าคุณครูไม่ตรวจสอบให้ถูกต้องครบถ้วนอาจจะมีปัญหาในภายหลังได้ ซึ่งช่วงเวลาสำคัญที่งานของคุณครูการเงินค่อนข้างชุกคือช่วงสิ้นปีงบประมาณ(ปีการศึกษา)นั้นเอง ที่ต้องสรุปการใช้จ่ายเงินต่างๆครับ

ตำแหน่งเจ้าหน้าที่พัสดุ หรือ ครูพัสดุ

ตำแหน่งคุณครูพัสดุก็จะมีความรับผิดชอบเกี่ยวกับครุภัณฑ์ วัสดุ ต่างๆที่ใช้ในโรงเรียน คุณครูในโรงเรียนต้องการสิ่งใด ขาดเหลืออะไรให้บอกครูพัสดุครับ นอกจากนี้คุณครูพัสดุยังต้องทำทะเบียนควบคุมครุภัณฑ์ในโรงเรียน ลงทะเบียนครุภัณฑ์ และมีการตรวจสอบครุภัณฑ์ประจำปี ว่าอยู่ครบหรือไม่ ชำรุดหรือเปล่า ถ้ามีครุภัณฑ์ใดชำรุดก็ให้แจ้งมาที่คุณครูพัสดุครับ ท่านก็จะซ่อมให้ครับ

ตำแหน่งครูอาหารกลางวัน

สำหรับตำแหน่งนี้จะมีอยู่เฉพาะโรงเรียนประถมศึกษา และ ขยายโอกาส ครับ เนื่องจากทางรัฐบาลได้จัดสรรเงินอุดหนุนค่าอาหารกลางวันมาให้นักเรียนชั้น อนุบาลถึงป.6 ครับ ดังนั้นคุณครูอาหารกลางวันจะต้องมีโครงการอาหารกลางวัน รวมถึงการจัดการทุกเรื่องเกี่ยวกับอาหารกลางวันในโรงเรียน ทั้งเรื่องคุณภาพ คุณค่าทางอาหาร เป็นต้น ถ้าเป็นโรงเรียนใหญ่ๆหรือโรงเรียนที่มีความพร้อมอาจจะมีการจ้างแม่ครัวมาช่วยในการทำอาหารกลางวัน แต่บางโรงเรียนที่เงินน้อยไม่พอจ้างแม่ครัว คุณครูอาจจะเป็นคนจ่ายตลาด ทำเองทุกอย่างก็มีครับ

ดังนั้นครูอัพเดตดอทคอมขอยกย่องให้ 5 ตำแหน่งนี้เป็นสุดยอดคุณครู ที่เสียสละเวลาอันมีค่าของทั้งตนเองและครอบครัวให้กับทางราชการ รวมถึงคุณครูทุกท่านที่ตั้งใจอบรมสั่งสอนศิษย์ให้เจริญเติบโตเป็นคนดีของสังคมและรับผิดชอบหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายตามคำสั่งของโรงเรียนครับ

ทีมงานครูอัพเดตดอทคอม

 

ใช้กรุ๊ปไลน์โรงเรียนอย่างไรให้งานเกิดประสิทธิภาพสูงสุด

0

มารยาทการใช้กรุ๊ปไลน์โรงเรียนเพื่อให้สื่อสารและทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ

สวัสดีค่ะวันนี้ทีมงาน ครูอัพเดตดอทคอม  มีบทความที่น่าสนใจ เกี่ยวกับการทำงานในโลกปัจจุบัน แน่นอนปัจจุบันเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในชีวิตเรามากมาย ตั้งแต่ตื่นนอนยันเข้านอนเลยทีเดียว  การสื่อสารต่างๆก็สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น บางอาชีพก็สามารถทำงานที่บ้านได้ ข้อมูลข่าวสารต่างๆกดแค่ปลายนิ้วก็สามารถไปถึงปลายทางได้อย่างรวดเร็วในเวลาแค่ไม่กี่วินาที

การทำงานที่โรงเรียนเราก็เช่นเดียวกัน การนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้งานในการส่งข้อมูลข่าวสารต่างๆก็สามารถทำได้อย่างรวดเร็ว  แต่แน่นอนว่าเทคโนโลยีก็เปรียบเสมือนดาบสองคม มีคุณอนันต์ย่อมมีโทษมหันต์เช่นเดียวกัน  และแน่นอนว่า ไม่ว่าจะพื้นที่ตรงไหน “มารยาท” ก็เป็นสิ่งทำคัญในการทำงาน โดยเฉพาะในไลน์กรุ๊ปโรงเรียน

ใช้กรุ๊ปไลน์โรงเรียนอย่างไรให้งานเกิดประสิทธิภาพสูงสุด

  1. ทำข้อตกลงในกลุ่ม  ปฐมนิเทศครูที่มาใหม่ให้รับทราบข้อตกลงก่อนที่จะเข้าไปในกลุ่มไลน์โรงเรียน และครูเก่าควรปฏิบัติตามกฎด้วย  เช่น รูปโปรไฟล์ ควรเป็นรูปที่สุภาพ, หรือเมื่อสั่งงานใคร คนนั้นต้องพิมพ์ตอบรับ รับทราบค่ะ/รับทราบครับ ได้รับแล้วค่ะ/ได้รับแล้วครับ  หรือบางข้อความก็ไม่ตอบรับก็ได้แล้วแต่ข้อตกลงของแต่ละกลุ่ม
  2. มารยาทการโพสต์  ไม่โพสต์สติ๊กเกอร์ย้ำๆเพื่อก่อกวน  ไม่โพสต์เรื่องส่วนตัว ไม่โพสต์เรื่องราวที่ทำให้องค์กรเกิดความแตกแยก  ควรโพสต์หรือแชร์เฉพาะบทความ  รูปภาพ และข่าวที่เป็นประโยชน์ต่อโรงเรียนเท่านั้น  การโพสต์ข้อความควรเป็นข้อความที่กระชับ เข้าใจง่าย แต่ถ้าเป็นเรื่องที่ยาวควรโทรหาเพื่อทำความเข้าใจจะดีกว่า
  3. ถ้าเป็นงานที่เร่งรีบ หรือเจาะจงเฉพาะบุคคล ให้โทรหาและติดต่อเจ้าตัวโดยตรง ไม่ควรไลน์ทิ้งไว้ เพราะคุณครูบางท่านอาจไม่สะดวกในการอ่านข้อความ ณ เวลานั้น
  4. เรื่องของสติ๊กเกอร์ ผู้รับสารอาจจะไม่เข้าใจความรู้สึกในข้อความ เนื่องจากเป็นการสื่อสารโดยไม่ได้ใช้น้ำเสียง หรืออาจเข้าใจผิดได้ ควรจะติดสติกเกอร์ไปด้วยได้ในบางข้อความ เช่นรับทราบค่ะ แล้วมีสติกเกอร์ตาม อาจทำให้น่ารักและเป็นกันเองขึ้น
  5. การโพสต์รูปกิจกรรมโรงเรียน ควรสร้างเป็นอัลบั้ม เพื่อสะดวกในการค้นหาและนำไปใช้งาน  ถ้าโพสต์เป็นรูปอาจก่อกวนคนอื่นที่ไม่ได้ปิดเสียงไลน์  หรือถ้าเป็นรูปภาพส่วนตัวควรส่งเป็นบุคคลจะดีกว่า
  6. การออกจากกลุ่ม  อาจด้วยสาเหตุใดๆก็ตาม เช่น ย้ายที่ทำงานใหม่ ก็ควรจะกล่าวลากลุ่ม  แล้วค่อยออกจากกลุ่ม ก็เป็นเรื่องที่เหมาะสมดี 

การใช้งานไลน์กลุ่ม ควรคิดก่อนกดส่งทุกครั้ง มีสติในการส่งข้อความในการสื่อสาร และตกลงกันให้เข้าใจ ก็จะทำให้งานเกิดประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น  นี่เป็นแต่การแนะนำเท่านั้นนะคะ ข้อไหนที่คิดว่าดีคุณครูสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้  บางโรงเรียน บางคน อาจมีคำแนะนำที่ดีกว่านี้ ก็สามารถแสดงความคิดเห็นกันมาได้เลยจ้า  พบกันใหม่บทความหน้านะคะ เรามีเรื่องดีๆมีนำเสนออีกมากมาย…

 

บทความโดย  ครูอัพเดตตอทคอม

ปิดเทอม นักเรียนหยุดพักผ่อน คุณครูหยุดด้วยหรือไม่

สวัสดีค่ะ วันนี้ทีมงาน  ครูอัพเดตดอทคอม  มีเรื่องมาไขข้อสงสัย  สำหรับท่านที่สงสัยว่า ปิดเทอมครูไม่ได้ทำงาน ไม่ได้ไปโรงเรียน แล้วทำไมยังได้รับเงินเดือนปกติ  หรือบางโรงเรียนทำไมได้หยุด บางโรงเรียนทำไมครูไม่ได้หยุดแล้วยังไปทำงานอยู่   ไปดูกันเลย>>>

ตาม ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยกำหนดเวลาทำงาน และวันหยุดราชการของสถานศึกษา พ.ศ.2547  ข้อที่ 6  กำหนดว่า วันปิดภาคเรียนคือวันหยุดพักผ่อนของนักเรียน ซึ่งสถานศึกษาอาจอนุญาตให้ข้าราชการหยุดพักผ่อนด้วยก็ได้ แต่ถ้ามีราชการจำเป็น ให้ข้าราชการมาปฏิบัติราชการ เหมือนการมาปฏิบัติราชการตามปกติ

ทั้งนี้แล้วนั้นก็ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้อำนวยการโรงเรียนในการสั่งให้ข้าราชการครูมาปฏิบัติราชการ แม้จะอยู่ในช่วงการปิดภาคเรียน การไม่มาปฏิบัติราชการตามคำสั่ง โดยไม่ยื่นใบลา ย่อมถือว่าเป็นการขาดราชการโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร.

>> ระบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยกำหนดเวลาทำงานและวันหยุดราชการของสถานศึกษา พ.ศ. 2547

สรุปก็คือ ปิดเทอมคือหยุดให้เด็กนักเรียนได้พักผ่อนค่ะ ไม่ได้หยุดให้ครูนะคะ เพียงแต่เมื่อไม่มีเด็กอยู่ในโรงเรียนครูก็เลยได้หยุดด้วย  แต่เมื่อมีงานราชการผู้บริหารก็สามารถสั่งให้ครูมาปฏิบัติหน้าที่ราชการได้ตลอดค่ะ  ดังนั้นในช่วงนี้ปิดเทอม ครูไม่ได้หยุดทำงานนะคะ มีกิจกรรมและหน้าที่อีกมากมายที่ต้องทำ เช่นตรวจข้อสอบ กรอกคะแนน รอนักเรียนบางกลุ่มส่งงาน แก้ 0 ร มส แล้วแต่ละช่วงชั้น บางคนได้รับมอบหมายตำแหน่งงานใหม่หรือ เปลี่ยนชั้นที่สอน ก็จะต้องตกแต่งห้องใหม่ ทำแผนการสอนและสื่อการเรียนรู้ใหม่เพื่อเตรียมการสอนในเทอมต่อไป  หรืออาจมีอบรมและประชุมด่วนก็ต้องไปตามคำสั่งผอ. และหน้าที่ที่ขาดไม่ได้อีกหน้าที่หนึ่ง คือการอยู่เวรยาม ซึ่งต้องมาโรงเรียนตามปกติ ดูแลอาคารสถานที่และความเป็นระเบียบเรียบร้อยของโรงเรียน ครูผู้ชายก็ต้องนอนเวรตามปกติ  สู้ๆนะคะคุณครูที่รักทุกท่าน…

บทความโดย  ครูอัพเดตดอทคอม