เอกสารประกอบการย้ายครู ไฟล์เอกสาร พร้อมไฟล์ปก แก้ไขได้

0

สวัสดีค่ะคุณครูทุกท่าน ช่วงนี้เข้าใกล้ การเขียนย้ายรอบปกติเต็มที ครูอัพเดตดอทคอม จึงมี แจกไฟล์ เอกสารประกอบการย้าย ไฟล์เอกสาร พร้อมไฟล์ปก แก้ไขได้  มาฝากคุณครูทุกท่านค่ะ

เอกสารประกอบการย้ายครู ไฟล์เอกสาร พร้อมไฟล์ปก แก้ไขได้

ซึ่งเมื่อคุณครูเข้าไปดาวน์โหลดจะพบเอกสาร ดังภาพเลยค่ะ

เอกสารประกอบการย้ายครู ไฟล์เอกสาร พร้อมไฟล์ปก แก้ไขได้

 

เอกสารประกอบการย้ายครู ไฟล์เอกสาร พร้อมไฟล์ปก แก้ไขได้

ซึ่งไฟล์เอกสารประกอบการย้ายในครั้งนี้ได้รับความอนุเคราะห์จากคุณครู เกด Kedsumaporn Tongphakultiwong ครูอัพเดตดอทคอม ต้องขอขอบคุณ ครูเกดเป็นอย่างสูงนะคะที่แบ่งปันเอกสารประกอบ
การย้ายให้กับเพื่อนครูในครั้งนี้  คุณครูสามารถดาวน์โหลดไฟล์ได้ที่ลิงค์ด้านล่างเลยค่ะ

 

ดาวน์โหลดไฟล์เอกสารประกอบการย้ายครู

 

ครูอัพเดตดอทคอม หวังว่า บทความนี้ จะเป็นประโยชน์กับคุณครูที่ กำลังวางแผนเขียนย้ายนะคะ และขอให้คุณครูทุกท่านสมหวังดังใจ ปรารถนานะคะ

กำหนดการ จ่ายเงินเดือน ข้าราชการ เงินเดือน ครู ประจำปี พ.ศ. 2563

0

สวัสดีค่ะคุณครูทุกท่าน วันนี้ครูอัพเดตดอทคอม มี กำหนดการ จ่ายเงินเดือน ข้าราชการ ประจำปี พ.ศ. 2563 จาก กรมบัญชีกลาง มาฝากคุณครูทุกท่านค่ะ ซึ่งเป็นกำหนดการจ่ายเงินเดือนของปีหน้า ผ่านไปแป๊บเดียวก็จะขึ้นปีใหม่แล้วนะคะ คุณครูสามารถดูกำหนด การจ่าย เงินเดือน ได้จากภาพด้านล่างเลยค่ะ

 

กำหนดการ จ่ายเงินเดือน ข้าราชการ เงินเดือน ครู ประจำปี พ.ศ. 2563

กำหนดการ จ่ายเงินเดือน ข้าราชการ เงินเดือน ครู ประจำปี พ.ศ. 2563

กำหนดการ จ่ายเงินเดือน ข้าราชการ เงินเดือน ครู ประจำปี พ.ศ. 2563

เดือน วันที่เงินเข้าบัญชีธนาคาร
มกราคม 28
กุมภาพันธ์ 25
มีนาคม 26
เมษายน 27
พฤษภาคม 26
มิถุนายน 25
กรกฎาคม 27
สิงหาคม 26
กันยายน 25
ตุลาคม 27
พฤศจิกายน 25
ธันวาคม 25

ครูอัพเดตดอทคอม หวังว่า กำหนดการ จ่ายเงินเดือน ข้าราชการ ประจำปี พ.ศ. 2563 ที่นำมาฝากคุณครูจะเป็นประโยชน์กับคุณครูทุกท่านนะคะ ขอให้ปีหน้าเป็นปีที่เงินเข้าทุกวัน ร่ำรวย กันทุกท่านเลยนะคะ คุณครู

 

ปฏิทินการจ่ายเงินเดือน ข้าราชการและลูกจ้างประจำ ปี 2563

เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2562 กรมบัญชีกลาง ได้เผยแพร่กำหนดวันและวิธีการปฏิบัติงานสำหรับงบบุคลากรและเงินอื่นที่กำหนดจ่ายสิ้นเดือน  โดยมีรายละเอียดการกำหนด ปฏิทินการจ่ายเงินเดือน ข้าราชการและลูกจ้างประจำ ปี 2563 ครูอัพเดตดอทคอมขอนำเสนอข้อมูลดังนี้ครับ

ปฏิทินการจ่ายเงินเดือนเข้าบัญชีข้าราชการและลูกจ้าง เดือน มกราคม 2563 >>

วันที่ 28 มกราคม 2563

ปฏิทินการจ่ายเงินเดือนเข้าบัญชีข้าราชการและลูกจ้าง เดือน กุมภาพันธ์ 2563 >>

วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2563

ปฏิทินการจ่ายเงินเดือนเข้าบัญชีข้าราชการและลูกจ้าง เดือน มีนาคม 2563 >>

วันที่ 26 มีนาคม 2563

ปฏิทินการจ่ายเงินเดือนเข้าบัญชีข้าราชการและลูกจ้าง เดือน เมษายน 2563 >>

วันที่ 27 เมษายน 2563

ปฏิทินการจ่ายเงินเดือนเข้าบัญชีข้าราชการและลูกจ้าง เดือน พฤษภาคม 2563 >>

วันที่ 26 พฤษภาคม 2563

ปฏิทินการจ่ายเงินเดือนเข้าบัญชีข้าราชการและลูกจ้าง เดือน มิถุนายน 2563 >>

วันที่ 25 มิถุนายน 2563

ปฏิทินการจ่ายเงินเดือนเข้าบัญชีข้าราชการและลูกจ้าง เดือน กรกฎาคม 2563 >>

วันที่ 27 กรกฎาคม 2563

ปฏิทินการจ่ายเงินเดือนเข้าบัญชีข้าราชการและลูกจ้าง เดือน สิงหาคม 2563 >>

วันที่ 26 สิงหาคม 2563

ปฏิทินการจ่ายเงินเดือนเข้าบัญชีข้าราชการและลูกจ้าง เดือน กันยายน 2563 >>

วันที่ 25 กันยายน 2563

ปฏิทินการจ่ายงินเดือนเข้าบัญชีข้าราชการและลูกจ้าง เดือน ตุลาคม 2563 >>

วันที่ 27 ตุลาคม 2563

ปฏิทินการจ่ายเงินเดือนเข้าบัญชีข้าราชการและลูกจ้าง เดือน พฤศจิกายน 2563 >>

วันที่ 25 พฤศจิกายน 2563

ปฏิทินการจ่ายเงินเดือนเข้าบัญชีข้าราชการและลูกจ้าง เดือน ธันวาคม 2563 >>

วันที่ 25 ธันวาคม 2563

ปฏิทินการจ่ายเงินเดือน ข้าราชการและลูกจ้างประจำ ปี 2563
ปฏิทินการจ่ายเงินเดือนข้าราชการและลูกจ้างประจำ ปี 2563
ปฏิทินการจ่ายเงินเดือน ข้าราชการและลูกจ้างประจำ ปี 2563
ปฏิทินการจ่ายเงินเดือน ข้าราชการและลูกจ้างประจำ ปี 2563

ขอบคุณที่มาจาก : กรมบัญชีกลาง

ประดิษฐ์หมวกวันคริสต์มาส ระบายสีได้ เด็กๆทำได้ง่ายมาก!

 

วันคริสต์มาส

ใกล้เข้ามาแล้วจ้าา  สำหรับเทศกาลวันคริสต์มาสที่กำลังจะมาถึง  วันนี้ครูอัพเดตดอทคอม มีสื่อเกี่ยวกับวันคริสต์มาสมาฝากคุณครูและเด็กๆทุกคนจ้า  คุณครูสามารถบันทึกไฟล์รูปภาพและโหลดเป็นไฟล์Word ด้านล่างได้เลยค่ะ

ความหมายของวันคริสต์มาส

วันคริสต์มาส คือ การฉลองวันประสูติของพระเยซูผู้เป็นศาสดาสูงสุดของชาวคริสต์ทั่วโลก เป็นวันฉลองที่มีความสำคัญ และมีความหมายมากที่สุดวันหนึ่ง เพราะชาวคริสต์ถือว่า พระเยซูมิใช่เป็นแต่เพียงมนุษย์ธรรดาๆ ที่มาเกิดเหมือนเด็กทั่วไป แต่พระองค์เป็นบุตรของพระเจ้าผู้สูงสุด และมีพระธรรมชาติเป็นพระเจ้า และเป็นมนุษย์ในพระองค์เอง การบังเกิดของพระองค์ จึงเป็นเหตุการณ์พิเศษ ที่ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือนด้วย

ทำไมจึงฉลองคริสต์มาสวันที่ 25 ธันวาคม

ตามหลักฐานในพระคัมภีร์ (ลก.2:1-3) บันทึกไว้ว่าพระเยซูเจ้าบังเกิด ในสมัยที่จักรพรรดิซีซ่าร์ออกัสตัส ให้จดทะเบียนสำมะโนครัวทั่วทั้งแผ่นดิน โดยมีคีรินิอัสเป็นเจ้าครองเมืองซีเรีย ซึ่งในพระคัมภีร์ไม่ได้บอกว่า เป็นวัน หรือเดือนอะไร แต่นักประวัติศาสตร์ให้เหตุผลว่า ทื่คริสตชน เลือกเอาวันที่ 25 ธันวาคม เป็นวันฉลองคริสต์มาส ตั้งแต่ ศตวรรษที่ 4 เป็นต้นมา เนื่องจาก ในปี ค.ศ. 274 จักรพรรดิเอาเรเลียน ได้กำหนดให้วันที่ 25 ธันวาคม เป็นวันฉลอง วันเกิดของสุริยเทพผู้ทรงพลัง ชาวโรมันฉลองวันนี้อย่างสง่า และถือเสมือนว่าเป็นวันฉลองของพระจักรพรรดิไปในตัวด้วย เพราะพระจักรพรรดิก็เปรียบเสมือน ดวงอาทิตย์ ที่ให้ความสว่างแก่ชีวิตมนุษย์

คริสตชนที่อยู่ในจักรวรรดิ โรมันรู้สึกอึดอัดใจที่จะฉลองวันเกิดของสุริยเทพตามประเพณีของชาวโรมัน จึงหันมาฉลองการบังเกิดของพระเยซูเจ้าแทน จนถึงวันที่ 25 ธันวาคม ค.ศ. 330 จึงเริ่มมีการฉลองคริสต์มาสอย่างเป็นทางการ และอย่างเปิดเผย เนื่องจากก่อนนั้นมีการเบียดเบียนศาสนาอย่างรุนแรง (ตั้งแต่ ปี ค.ศ. 64-313) ทำให้คริสตชนไม่มีโอกาสฉลองอะไรอย่างเปิดเผย

ความสำคัญของวันคริสต์มาส

คริสต์มาส เป็นวันที่มีความสำคัญอย่างยิ่งวันหนึ่งในศาสนาคริสต์ มิใช่เป็นวันสำคัญฝ่ายร่างกายจัดงาน รื่นเริงภายนอกเท่านั้น ซึ่งเป็นแต่เพียงเปลือกนอกของการฉลองคริสต์มาส แต่แก่นแท้อยู่ที่ความรัก ของพระเจ้าที่ มีต่อโลกมนุษย์ นั่นคือ พระเจ้าทรงรักมนุษย์ มากจน ถึงกับยอมส่งพระบุตรแต่องค์เดียว ของพระองค์ ให้มาเกิดเป็น มนุษย์ มีเนื้อหนังมังสา ชื่อว่า “เยซู”

การที่พระเจ้าได้ถ่อมองค์ และเกียรติ ลงมาเกิดเป็นมนุษย์ เพื่อช่วยมนุษย์ให้รอดพ้นจากการเป็นทาส ของความชั่ว และบาปต่างๆ นั่นเอง ดังนั้นความสำคัญของวันคริสต์มาสจึงอยู่ที่การฉลองความรักที่พระเจ้ามีต่อโลกมนุษย์ อย่างเป็นจริง เป็นจัง และเห็นตัวตนในพระเยซูคริสต์ที่มาเกิดเป็นมนุษย์ มากกว่าสิ่งอื่นใดทั้งสิ้น

ประวัติวันคริสต์มาส

คริสต์มาส คือการฉลองการบังเกิดของพระเยซูเจ้า เราเฉลิมฉลองกันในวันที่ 25 ธันวาคม คำว่า คริสต์มาส เป็นคำทับศัพท์ภาษาอังกฤษ Christmas ซึ่งมาจากภาษาอังกฤษ โบราณว่า Christes Maesse ที่แปลว่า บูชามิสซาของพระคริสตเจ้า เพราะการร่วมพิธีมิสซาเป็นประเพณีสำคัญที่สุดที่ชาวคริสต์ ถือปฎิบัติกันในวันคริสต์มาส

คำว่า Christes Maesse พบครั้งแรก ในเอกสารโบราณ เป็นภาษาอังกฤษ ในปี ค.ศ. 1038 และคำนี้ก็แปรเปลี่ยนมาเป็นคำว่า Christmas คำทักทายที่เราได้ฟังบ่อย ๆ ในเทศกาลนี้คือ Merry Christmas คำว่า Merry ในภาษาอังกฤษโบราณ แปลว่า สันติสุข และความสงบทางใจ

 

วันคริสต์มาส

 

คลิกเพื่อดาวน์โหลดหมวกวันคริสต์มาสไฟล์ WORD 

สื่อดีดีจาก  ครูอัพเดตดอทคอม

แบบบันทึกกิจกรรมเดินทางไกลลูกเสือสำรอง

ลูกเสือสำรอง
ลูกเสือสำรอง

สวัสดีค่ะ  คุณครูผู้สอนลูกเสือสำรองทุกท่าน  วันนี้ครูอัพเดตดอทคอม  มีแบบบันทึกกิจกรรมเดินทางไกลของลูกเสือสำรองมาฝากกันจ้า เป็นแบบบันทึกที่ครูอัพเดตสร้างขึ้นเอง คุณครูสามารถนำไปแก้ไขให้เข้ากับบริบทโรงเรียนและการสอนของคุณครูได้  ฝากกดติดตามและกดไลด์กดแชร์เพจด้วยนะคะ  ขอบคุณค่ะ

ประวัติการลูกเสือโลก เกิดขึ้นแห่งแรกของโลกโดย ลอร์ด เบเดน โพเอลล์ (Lord Baden Powell) ในประเทศอังกฤษเมื่อปีพ.ศ. 2450 จากการรบกับพวกบัวร์ (Boar) ในการรักษาเมืองมาฟอีคิง(Mafeking) ที่แอฟริกาใต้ในปี พ.ศ. 2442 ลอร์ด เบเดน โพเอลล์ ได้ตั้งกองทหารเด็กช่วยสอดแนมการรบจนรบชนะข้าศึก เมื่อกลับไปยังประเทศอังกฤษในปี พ.ศ. 2450 จึงได้ทดลองนำเด็กชาย 20 คนไปฝึกทหารอยู่ค่ายพักแรมที่เกาะบราวน์ซี ปี พ.ศ. 2451 ลอร์ด เบเดน โพเอลล์ จึงได้ตั้งกองลูกเสือขึ้นเป็นครั้งแรกของโลกที่ประเทศอังกฤษ โดยมีจุดประสงค์เพื่อเตรียมคนไว้เป็นทหารและฝึกให้คนบำเพ็ญประโยชน์เพื่อสังคม ท่านลอร์ด เบเดน โพเอลล์ จึงได้แต่งหนังสือฝึกอบรมลูกเสือขึ้นเพื่อเป็นประโยชน์ในการเรียนการสอน โดยหนังสือเล่มดังกล่าวมีชื่อว่า Scouting for Boys และคำว่า Scout ซึ่งใช้เรียกแทนลูกเสือมีความหมายตามตัวอักษรคือ

S : Sincerity หมายถึง ความจริงใจ มีน้ำใสใจจริงต่อกัน
C : Courtesy หมายถึง ความสุภาพอ่อนโยน เป็นผู้มีมารยาทดี
O : Obedience หมายถึง การเชื่อฟังอ่อนน้อมถ่อมตนอยู่ในโอวาท
U : Unity หมายถึง ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน รู้รักสามัคคี
T : Thrifty หมายถึง ความมัธยัสถ์ ใช้ทรัพยากรอย่างประหยัด

          การจัดตั้งลูกเสือในประเทศไทย ถือกำเนิดเมื่อพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทราบเรื่องของลอร์ด เบเดน โพเอลล์ (Lord Baden Powell) ในประเทศอังกฤษ เมื่อพระองค์เสด็จนิวัติสู่ประเทศไทยได้ทรงจัดตั้งกองเสือป่าขึ้นเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2454 มีจุดมุ่งหมายเพื่อฝึกหัดให้ข้าราชการและพลเรือนได้เรียนรู้วิชาทหารเพื่อเป็นคุณประโยชน์ต่อบ้านเมือง รู้จักระเบียบวินัยมีความจงรักภักดีต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์
ต่อมาใน พ.ศ. 2454 พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัวได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ดังนั้นในวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2454 จึงมีพระบรมราชโองการจัดตั้งลูกเสือขึ้นในประเทศไทยนับเป็นประเทศที่สามของโลกรองจากสหรัฐอเมริกา โดยทรงมีพระราชปรารภว่า เห็นควรที่จะมีการฝึกเด็กชายประถมวัยให้มีความรู้ทางเสือป่าด้วย เมื่อเติบโตขึ้นจะได้รู้จักหน้าที่และประพฤติตนให้เป็นประโยชน์ต่อชาติบ้านเมือง ลูกเสือกองแรกของไทย ตั้งขึ้นที่โรงเรียนมหาดเล็กหลวง โรงเรียนวชิราวุธในปัจจุบัน และได้จัดตั้งกองลูกเสือตามโรงเรียนต่างๆ ให้กำหนดข้อบังคับลักษณะปกครองลูกเสือขึ้นรวมทั้งพระราชทานคำขวัญให้ลูกเสือว่า เสียชีพอย่าเสียสัตย์ ผู้ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นลูกเสือไทยคนแรก คือนายชัพน์ บุนนาค ในสมัยนั้นกิจการลูกเสือไทยเลื่องลือไปยังนานาชาติ ส่งผลให้กองลูกเสือที่ 8 ของประเทศอังกฤษ ได้มีหนังสือขอพระราชทานนามลูกเสือกองนี้ว่า กองลูกเสือในพระบาทสมเด็จพระเจ้าแผ่นดินสยาม พระองค์ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าพระราชทานให้ตามความประสงค์ ลูกเสือกองนี้ติดเครื่องหมายช้างเผือกที่แขนเสื้อทั้ง 2 ข้างและยังปรากฏอยู่ตราบเท่าทุกวันนี้

ตัวอย่างจ้าาา

 

ลูกเสือสำรอง

 

 

 

 

 

 

 

 

 

กดดาวน์โหลดแบบบันทึกกิจกรรมเดินทางไกลลูกเสือสำรองที่นี่

ผลงานโดย  ครูอัพเดตดอทคอม

ครูให้นักเรียนติด 0 จำนวน 21 คน มีความผิดวินัย ถูกตัดเงินเดือน 5% 3 เดือน

เมื่อ “ครู” ถูกร้องเรียนว่าขาดจริยธรรม ทําให้นักเรียนเกือบครึ่งห้อง … สอบตก

ครู คือ แม่พิมพ์ของชาติ คํากล่าวนี้ไม่ว่าเวลาจะผ่านมานานแค่ไหนก็ยังคงใช้ได้อยู่เสมอ เพราะครูเป็นผู้มีบทบาทสําคัญในการสั่งสอนและถ่ายทอดความรู้ให้แก่ศิษย์ ส่งเสริมการเรียนรู้ของศิษย์ ด้วยวิธีการต่าง ๆ ในสถานศึกษา

ข้าราชการครูทุกคนต้องประพฤติและปฏิบัติตนให้อยู่ภายในกรอบของวินัย ทั้งที่เป็นข้อห้าม และข้อปฏิบัติตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547 ที่บัญญัติไว้ โดยเคร่งครัดอยู่เสมอ เช่น ต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เสมอภาค และเที่ยงธรรม มีความวิริยะ อุตสาหะ ขยันหมั่นเพียร ดูแลเอาใจใส่ รักษาประโยชน์ของทางราชการ ปฏิบัติตนตามมาตรฐานและจรรยาบรรณ วิชาชีพอย่างเคร่งครัด (มาตรา 84 วรรคหนึ่ง) ตรงต่อเวลา อุทิศเวลาของตนให้แก่ทางราชการและผู้เรียน ไม่ละทิ้งหรือทอดทิ้งหน้าที่ราชการโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร (มาตรา 87 วรรคหนึ่ง) เป็นต้น และหาก ข้าราชการครูผู้ใดฝ่าฝืนข้อห้ามหรือไม่ปฏิบัติตามข้อปฏิบัติทางวินัยข้อหนึ่งข้อใด ย่อมถือได้ว่ากระทําผิดวินัย

ครูให้นักเรียนติด 0 จำนวน 21 คน มีความผิดวินัย ถูกตัดเงินเดือน 5% 3 เดือน
ครูให้นักเรียนติด 0 จำนวน 21 คน มีความผิดวินัย ถูกตัดเงินเดือน 5% 3 เดือน ครูให้นักเรียนติด 0

ทั้งนี้ … พฤติกรรมหรือการทําหน้าที่สอนหนังสือของข้าราชการครูในลักษณะเช่นใด ที่จะถือเป็นการฝ่าฝืนข้อห้ามหรือเป็นการไม่ปฏิบัติตามข้อปฏิบัติทางวินัยอันเป็นการกระทําผิดวินัย “อย่างร้ายแรงหรืออย่างไม่ร้ายแรง” นั้น ย่อมขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริงในแต่ละกรณี

คดีปกครองที่นํามาเล่าเป็นอุทาหรณ์ในคอลัมน์รายงานพิเศษฉบับนี้ เป็นข้อพิพาทที่เกิดจาก การทําหน้าที่สอนหนังสือและประเมินผลการเรียนของข้าราชการครูซึ่งไม่ปฏิบัติหน้าที่ราชการตาม หลักเกณฑ์และวิธีการที่สถานศึกษากําหนด ปล่อยปละละเลยให้นักเรียนมีผลการเรียนต่ํากว่าความคาดหวัง ซึ่งไม่เป็นไปตาม “คู่มือแนะนํานักเรียนเกี่ยวกับการประเมินผลการเรียนระดับมัธยมศึกษาของงานทะเบียน วัดผล” จนกระทั่งถูกผู้ปกครองนักเรียนร้องเรียน ทําให้โรงเรียนได้รับความเสียหาย

คดีนี้ แม้จะเป็นคดีเก่า แต่ศาลปกครองสูงสุดได้วินิจฉัยวางหลักปฏิบัติราชการไว้อย่างน่าสนใจ จึงน่าจะเป็นประโยชน์ต่อสถานศึกษาและส่วนราชการอื่นในการที่จะนําไปใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติ ราชการที่ดีและเป็นอุทาหรณ์สําหรับข้าราชการครูผู้มีหน้าที่สอนหนังสือจะได้ตระหนักต่อการทําหน้าที่ของตน

มูลเหตุของคดีเกิดจากผู้ปกครองนักเรียนโรงเรียนแห่งหนึ่งร้องเรียนขอให้มีการตรวจสอบ การประเมินผลการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาห้องหนึ่ง ในภาคเรียนที่ 1 ของปีการศึกษา 2548 เนื่องจากครูสมชายซึ่งได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่สอนวิชาเสริมทักษะคณิตวิทย์ของนักเรียน ชั้นดังกล่าวมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในการปฏิบัติหน้าที่ครู ทําให้นักเรียนมีผลการเรียนสอบได้ระดับคะแนน เป็น 0 จํานวน 21 คน จากนักเรียนทั้งหมด 47 คน

ผู้อํานวยการโรงเรียนจึงแต่งตั้งคณะกรรมการสืบหาข้อเท็จจริงเรื่องดังกล่าว เมื่อคณะกรรมการฯ ดําเนินการแล้วเห็นว่า กรณีมีมูลว่าครูสมชายกระทําผิดวินัยอย่างร้ายแรง ผู้อํานวยการโรงเรียนจึงแต่งตั้ง คณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรง คณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรงดําเนินการแล้ว เห็นว่า การกระทําของครูสมชายเป็นความผิดวินัยไม่ร้ายแรง สมควรลงโทษตัดเงินเดือน 5% เป็นเวลา 1 เดือน และเสนอความเห็นให้ย้ายครูสมชายไปสอนในโรงเรียนอื่น แต่ผู้อํานวยการโรงเรียนเห็นว่า เมื่อการกระทําดังกล่าว เป็นความผิดวินัยไม่ร้ายแรงและเป็นความผิดครั้งแรก จึงให้ลดโทษเป็นให้ว่ากล่าวตักเตือน (ทําทัณฑ์บน เป็นหนังสือ) และต่อมาครูสมชายได้ขอย้ายไปสอนที่โรงเรียนอื่น ซึ่งเป็นโรงเรียนในสังกัดเขตพื้นที่การศึกษา เดียวกัน

แต่เมื่อมีการรายงานการดําเนินการทางวินัยดังกล่าวไปยังคณะกรรมการศึกษาธิการ จังหวัดฯ คณะกรรมการดังกล่าวเห็นว่า แม้จะเป็นการกระทําผิดวินัยไม่ร้ายแรง แต่มีมติให้ลงโทษตัดเงินเดือน ครูสมชาย 5% เป็นเวลา 3 เดือน ผู้อํานวยการโรงเรียนแห่งใหม่ในฐานะผู้บังคับบัญชาจึงมีคําสั่งลงโทษ ตัดเงินเดือนครูสมชายตามมติดังกล่าว

ครูสมชายไม่พอใจคําสั่งลงโทษตัดเงินเดือน จึงอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) แต่ผลการพิจารณาอุทธรณ์ “มีมติให้ยกอุทธรณ์” หลังจากนั้นครูสมชาย จึงนําคดีมาฟ้องต่อศาลปกครองขอให้มีคําพิพากษาเพิกถอนคําสั่งลงโทษทางวินัยและเรียกค่าเสียหาย

คดีนี้เป็นคดีพิพาทเกี่ยวกับการฟ้องความชอบด้วยกฎหมายในการดําเนินการทางวินัย ครูสมชาย (ผู้ฟ้องคดี) ซึ่งจากคําพิพากษาของศาลปกครองชั้นต้น มีประเด็นพิพาทจากการโต้แย้งของคู่กรณี ที่ศาลปกครองได้เข้าไปตรวจสอบ ดังนี้

  1. การแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่
  2. การแจ้งและรับทราบข้อกล่าวหาและสรุปพยานหลักฐานที่สนับสนุนข้อกล่าวหาชอบด้วย กฎหมายหรือไม่
  3. การสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานของคณะกรรมการสอบสวนเป็นการดําเนินการ โดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่
  4. การรายงานผลการสอบสวนและการเสนอความเห็นของคณะกรรมการสอบสวน และ การใช้ดุลพินิจลงโทษของผู้อํานวยการโรงเรียนชอบด้วยกฎหมายหรือไม่
  5. การรายงานการดําเนินการทางวินัยและการพิจารณากําหนดโทษที่เป็นการเพิ่มโทษ ของคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัดฯ แก่ผู้ฟ้องคดี เป็นการกระทําโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่

ซึ่งศาลปกครองชั้นต้นพิจารณาพยานหลักฐานต่าง ๆ ในสํานวนคดีแล้วเห็นว่า การดําเนินการ ทางวินัยในขั้นตอนดังกล่าวและการใช้ดุลพินิจในการกําหนดโทษแก่ผู้ฟ้องคดีชอบด้วยกฎหมายแล้ว จึงพิพากษายกฟ้อง

สําหรับในชั้นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุด ผู้ฟ้องคดีอุทธรณ์ใน 2 ประเด็น คือ

ประเด็นแรก กระบวนการพิจารณาทางปกครองก่อนออกคําสั่งลงโทษทางวินัย (ในชั้นสืบสวน ข้อเท็จจริงและในชั้นสอบสวนทางวินัย) ได้ดําเนินการตามรูปแบบ ขั้นตอนและวิธีการอันเป็นสาระสําคัญ ตามที่พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547 กําหนดไว้หรือไม่ ? (ซึ่งในขณะเกิดเหตุพิพาทได้นํากฎ ก.พ. ฉบับที่ 18 (พ.ศ. 2540) ออกตามความในพระราชบัญญัติระเบียบ ข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2535 ว่าด้วยการสอบสวนพิจารณา มาใช้โดยอนุโลมตามนัยมาตรา 133 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547) โดยในประเด็นนี้ ศาลปกครองสูงสุดวินิจฉัยว่า การมีคําสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรงและการดําเนินการ สอบสวนของคณะกรรมการสอบสวน เป็นการดําเนินการตามขั้นตอนและวิธีการอันเป็นสาระสําคัญ ที่กฎหมายกําหนดไว้แล้ว โดยคณะกรรมการสืบหาข้อเท็จจริงได้รวบรวมข้อเท็จจริง และเห็นว่ากรณีมีมูล ที่ควรกล่าวหาว่ากระทําผิดวินัยอย่างร้ายแรง ผู้อํานวยการโรงเรียนที่เกิดเหตุร้องเรียน (ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1) จึงมีอํานาจแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนความผิดวินัยอย่างร้ายแรงตามมาตรา 98 วรรคสอง แห่ง พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547 และการสอบสวนได้ดําเนินการ ตามข้อ 14 ของกฎ ก.พ. ฉบับที่ 18 (พ.ศ. 2540)ฯ โดยคณะกรรมการสอบสวนได้เรียกผู้ฟ้องคดีมาชี้แจง หรือให้ถ้อยคําหรือให้ส่งเอกสาร และบันทึกการแจ้งและรับทราบข้อกล่าวหาและสรุปพยานหลักฐาน ที่สนับสนุนข้อกล่าวหา และผู้ฟ้องคดีได้รับบันทึกดังกล่าวไปแล้ว จึงได้เสนอความเห็นให้ลงโทษตัดเงินเดือน

ประเด็นที่ต้องพิจารณาต่อมาเกิดจาก เมื่อมีการรายงานการดําเนินการทางวินัยผู้ฟ้องคดี ไปยังคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัดฯ คณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัดฯ เห็นว่า ผู้ฟ้องคดีกระทําผิดวินัย อย่างไม่ร้ายแรงและมีมติให้ลงโทษตัดเงินเดือน ผู้อํานวยการโรงเรียนแห่งใหม่จึงมีคําสั่งลงโทษตัดเงินเดือน ตามมติของคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัดฯ

ศาลจึงต้องวินิจฉัยว่า การมีคําสั่งลงโทษตัดเงินเดือนผู้ฟ้องคดีชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ? ซึ่งศาลปกครองสูงสุดวินิจฉัยในประเด็นนี้ว่า การเสนอความเห็นของคณะกรรมการสอบสวนไม่มีผลผูกพัน ในการใช้ดุลพินิจวินิจฉัยของผู้บังคับบัญชา และคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัดฯ มีอํานาจตามมาตรา 104 วรรคสาม แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547 ในการพิจารณา ข้อเท็จจริงตามรายงานการสอบสวนทางวินัยโดยไม่ต้องผูกพันอยู่กับดุลพินิจการพิจารณากําหนดโทษของ ผู้อํานวยการของโรงเรียนแห่งแรกแต่อย่างใด

ประเด็นที่สอง พฤติการณ์หรือการกระทําของผู้ฟ้องคดีถือเป็นการกระทําที่มีความผิดทางวินัย หรือไม่ ?

โดยคดีนี้ศาลรับฟังข้อเท็จจริงได้ว่า

  • คู่มือการปฏิบัติงานครูงานวิชาการโรงเรียน ประจําปีการศึกษา 2548-2549 ที่ใช้อยู่ ในขณะเกิดข้อพิพาทกําหนดว่า ผู้สอนจะต้องพิจารณาผลการประเมินผู้เรียนระหว่างภาคเรียนว่า ผู้เรียน มีผลการประเมินในระดับใด หากผลการประเมินต่ํากว่าเกณฑ์หรือไม่ผ่านเกณฑ์ จะต้องดําเนินการให้มี การสอนเสริมและสอบซ่อมแก้ตัวให้กับนักเรียนที่ไม่ผ่านเกณฑ์ ให้ผ่านการประเมิน หรือจัดกิจกรรมพัฒนา ผู้เรียน อันจะมีผลถึงผลการประเมินปลายภาคเรียน ซึ่งเป็นหน้าที่โดยตรงของผู้ฟ้องคดีในฐานะเป็นผู้สอนและ สอบรายวิชาดังกล่าว และรู้ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการประเมินผลผู้เรียนเป็นอย่างดี โดยจะต้องปรับปรุงแก้ไข นักเรียนที่มีข้อบกพร่อง เพื่อให้นักเรียนมีผลการประเมินเป็นคะแนนกลางภาคที่มีสัดส่วนคะแนนสูงกว่า ปลายภาค โดยมีคะแนนระหว่างภาคที่เหมาะสมอันจะมีผลถึงผลคะแนนรวมปลายภาค และในการสอน ซ่อมเสริมและสอบแก้ตัวก็จะต้องกําหนดวันเวลาที่เหมาะสมเพื่อให้นักเรียนมาพร้อมกัน โดยทําเป็นหนังสือ หรือประกาศแจ้งให้นักเรียนทราบ
  • จากใบแสดงคะแนนที่ผู้ฟ้องคดีจัดทําขึ้น ผลการสอบก่อนสอบกลางภาค คะแนนรวม 25 คะแนน มีผู้ได้คะแนนไม่ถึง 50% จํานวน 8 คน ผลการสอบกลางภาค มีคะแนน 10 คะแนน ซึ่งจากผลการสอบ ไม่ปรากฏว่านักเรียนแต่ละคนได้คะแนนเท่าใด ปรากฏเพียงว่าซ่อมผ่านทุกคน ผลการสอบหลังกลางภาค คะแนนเต็ม 30 คะแนน มีผู้สอบได้คะแนนไม่ถึง 50% จํานวน 39 คน และในจํานวนดังกล่าวมีผู้ได้คะแนน 0 คะแนน จํานวน 8 คน

ประเด็นนี้ศาลปกครองสูงสุดวินิจฉัยว่า จากคู่มือการปฏิบัติงานครูงานวิชาการโรงเรียน ที่ใช้อยู่ในขณะเกิดข้อพิพาทและตามใบแสดงคะแนนที่ผู้ฟ้องคดีจัดทําปรากฏว่า การประเมินผลหลังเรียน มีผู้สอบได้คะแนนไม่ถึง 50% (15 คะแนน) จํานวน 39 คน และในจํานวนดังกล่าวมีผู้ได้คะแนน 0 คะแนน จํานวน 8 คน อันเป็นข้อเท็จจริงที่ปรากฏอย่างชัดแจ้งว่า ผลการเรียนรู้ในเรื่องดังกล่าวไม่เป็นไปตามผลการเรียนรู้ ที่คาดหวัง ซึ่งผู้ฟ้องคดีจะต้องนําข้อมูลดังกล่าวมาปรับปรุง แก้ไข ซ่อมเสริมผู้เรียนให้บรรลุผลการเรียนที่คาดหวัง การไม่ดําเนินการดังกล่าวย่อมส่งผลโดยตรงทําให้นักเรียนมีผลการเรียนเป็น 0 จํานวน 21 คน จากนักเรียน ทั้งหมด 47 คน จึงเป็นการละเว้นไม่ปฏิบัติตามแนวทางที่กําหนดในเอกสารคู่มือการปฏิบัติงานครู งานวิชาการโรงเรียนที่ใช้อยู่ในขณะเกิดข้อพิพาท

การกระทําของผู้ฟ้องคดีถือได้ว่านักเรียนจํานวนดังกล่าวได้รับความเสียหายโดยตรง และ เสียหายต่อภาพลักษณ์ของครูและองค์การ (โรงเรียน) โดยส่วนรวม ทําให้สังคมเสื่อมศรัทธาต่อวิชาชีพครู พฤติการณ์จึงเป็นความผิดวินัยไม่ร้ายแรง กรณีไม่ปฏิบัติหน้าที่ราชการด้วยความวิริยะ อุตสาหะ ขยันหมั่นเพียร ดูแลเอาใจใส่ รักษาประโยชน์ของทางราชการตามมาตรา 84 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติ ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547

ดังนั้น การที่คณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัดฯ เห็นว่า การกําหนดโทษของผู้บริหาร สถานศึกษาของโรงเรียนแห่งแรกยังไม่เหมาะสมแก่การกระทําความผิด จึงมีมติให้ลงโทษตัดเงินเดือน ผู้ฟ้องคดี 5% เป็นเวลา 3 เดือน จึงเป็นการใช้ดุลพินิจโดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว เมื่อโรงเรียนแห่งใหม่

โดยผู้อํานวยการได้มีคําสั่งลงโทษตัดเงินเดือนผู้ฟ้องคดี 5% เป็นเวลา 3 เดือน ตามมติของคณะกรรมการ ศึกษาธิการจังหวัดฯ จึงเป็นการกระทําโดยชอบด้วยกฎหมาย และเมื่อคณะกรรมการข้าราชการครูและ บุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) มีมติให้ยกอุทธรณ์จึงเป็นการกระทําโดยชอบด้วยกฎหมายเช่นกัน

ในประเด็นที่ผู้ฟ้องคดีโต้แย้งว่าได้ทําการสอนโดยยึดถือคู่มือแนะนํานักเรียนเกี่ยวกับ การประเมินผลการเรียนฯ ในปีการศึกษา 2539 ที่ได้รับมาตั้งแต่ปฏิบัติหน้าที่ซึ่งไม่มีการระบุให้ต้อง ปรับปรุง แก้ไข หรือซ่อมเสริมผู้เรียนแต่อย่างใด โดยตนไม่เคยได้รับหรือรับทราบว่ามีคู่มือการปฏิบัติงานครู งานวิชาการโรงเรียน ปีการศึกษา 2548-2549 ที่ใช้บังคับในขณะเกิดข้อพิพาท ซึ่งศาลเห็นว่าข้ออ้างของ ผู้ฟ้องคดีไม่อาจรับฟังได้ เนื่องจากคู่มือการปฏิบัติงานครูงานวิชาการโรงเรียน ปีการศึกษา 2548-2549 ได้นํา แนวปฏิบัติการประเมินผลการเรียนการสอนตามหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2544 มากําหนดไว้ ซึ่งจัดทําขึ้นเพื่อประโยชน์สําหรับครูทุกคนอันจะช่วยสร้างความเข้าใจในการทํางานการสอน โดยได้กําหนดแนวทางและหน้าที่ในการประเมินผลการเรียนให้ครูผู้สอนไว้อย่างชัดเจน รวมทั้งมีการ กําหนดรายละเอียดดังกล่าวไว้ในเอกสารการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ด้วย เมื่อผู้ฟ้องคดีรับผิดชอบการสอนรายวิชาเสริมทักษะคณิตศาสตร์ จึงมีหน้าที่ต้องดําเนินการตามแนวทาง ที่กําหนดไว้ การที่ผู้ฟ้องคดีมิได้ดําเนินการจึงถือเป็นการละเว้นไม่ปฏิบัติตามคู่มือการปฏิบัติงานครู งานวิชาการโรงเรียน ปีการศึกษา 2548-2549

คดีนี้ศาลปกครองสูงสุดได้วางบรรทัดฐานการปฏิบัติราชการที่ดีสําหรับข้าราชการครูว่า

(1) การปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับการเรียนการสอน นอกจากครูจะมีหน้าที่โดยตรงในการ ให้ความรู้เพื่อให้นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจในรายวิชาที่ตนมีหน้าที่รับผิดชอบแล้ว การดําเนินการจัดให้มี การสอนเสริม การสอบซ่อมแก้ตัว หรือการจัดกิจกรรมเพื่อพัฒนาความรู้ความสามารถหรือทักษะให้กับนักเรียน ที่มีผลคะแนนจากการสอบต่ํากว่าเกณฑ์หรือไม่ผ่านเกณฑ์เพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจในรายวิชาดังกล่าวดียิ่งขึ้น ถือเป็นหน้าที่ที่สําคัญเช่นเดียวกัน เนื่องจากการสอบวัดระดับความรู้ของนักเรียนทั้งในระหว่างภาคเรียนและ หลังจบภาคเรียน นอกจากจะเป็นการประเมินความรู้ของนักเรียนแล้ว ยังเป็นการประเมินประสิทธิภาพและ ประสิทธิผลการสอนของครูผู้สอนอีกด้วย และหากข้าราชการครูคนใดละเว้นหน้าที่ไม่ทําการสอนเสริม การสอบซ่อมหรือจัดให้มีกิจกรรมที่เป็นการเพิ่มพูนและพัฒนาความรู้ จนส่งผลโดยตรงทําให้นักเรียนมีผลการสอบ หรือมีคะแนนต่ํากว่าเกณฑ์หรือไม่ผ่านเกณฑ์เป็นจํานวนมาก และทําให้โรงเรียนและครูท่านอื่นได้รับความเสียหาย ในทางชื่อเสียงและเสียภาพลักษณ์แล้ว ย่อมถือเป็นการไม่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความวิริยะ อุตสาหะ ขยันหมั่นเพียร ดูแลเอาใจใส่ รักษาประโยชน์ของทางราชการ อันเป็นการกระทําผิดวินัยไม่ร้ายแรงดังเช่นข้าราชการครูในคดีนี้ เป็นต้น

(2) กรณีมีการร้องเรียนกล่าวหาข้าราชการครูผู้ใดว่ากระทําผิดวินัย ผู้อํานวยการโรงเรียน ในฐานะผู้บังคับบัญซาย่อมมีอํานาจสั่งให้ดําเนินการสืบสวนเพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงว่ากรณีมีมูลตามที่กล่าวหาหรือไม่ ซึ่งถือเป็นขั้นตอนก่อนการดําเนินการสอบสวนทางวินัยเพื่อรวบรวมข้อเท็จจริงประกอบการพิจารณาของ ผู้อํานวยการโรงเรียน ส่วนการจะดําเนินการทางวินัยอย่างร้ายแรงหรือไม่ นั้น เป็นดุลพินิจของผู้บังคับบัญชา ที่จะพิจารณาตามข้อเท็จจริงที่ได้จากการสืบสวน ซึ่งหากเป็นกรณีที่มีมูลว่ากระทําผิดวินัยอย่างร้ายแรง ผู้อํานวยการโรงเรียนจะแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรงเพื่อสอบสวนทางวินัยต่อไป ทั้งนี้ ในการดําเนินการสอบสวนดังกล่าว คณะกรรมการสอบสวนมีดุลพินิจในการรับฟังพยานหลักฐานต่าง ๆ ซึ่งผลการสอบสวนผู้ถูกกล่าวหาอาจเป็นได้ทั้งไม่มีความผิดทางวินัย หรือเป็นความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง หรือไม่ร้ายแรง แล้วแต่กรณี แต่ในส่วนของการเสนอความเห็นไว้ในรายงานการสอบสวนนั้น ถือเป็นเพียง การเสนอความเห็นของคณะกรรมการสอบสวนซึ่งไม่มีผลผูกพันในการใช้ดุลพินิจวินิจฉัยของผู้ที่มีอํานาจ พิจารณาลงโทษข้าราชการครูผู้ถูกกล่าวหาแต่อย่างใด

(ผู้ที่สนใจรายละเอียดศึกษาเพิ่มเติมได้จากคําพิพากษาศาลปกครองสูงสุดที่ อ. 164/2560)

ขอบคุณที่มาของข้อมูลจาก : คอลัมน์รายงานพิเศษ หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ โดย นางสมฤดี ธัญญสิริ รองเลขาธิการสํานักงานศาลปกครอง

อ่านเรื่องราวอื่นๆได้ที่ : ครูอัพเดตดอทคอม

คุณครู(อาจ)ได้เลื่อนเงินเดือน ไม่ถึงร้อยละ 3ต่อรอบ เพราะอะไร?

0

คุณครู(อาจ)ได้เลื่อนเงินเดือน ไม่ถึงร้อยละ 3ต่อรอบ เพราะอะไร?

สวัสดีครับวันนี้เว็บไซต์ครูอัพเดตดอทคอมมีประเด็นที่หลายท่านให้ความสนใจ และได้สอบถามเข้ามาทางแฟนเพจครูอัพเดตดอทคอมว่าการเลื่อนเงินเดือนแบบร้อยละของคุณครู ที่คุณครูทุกท่านกำลังใช้เลื่อนเงินเดือนกันอยู่ในปัจจุบัน ในอนาคตอันใกล้นี้จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง บางท่านบอกว่าเลื่อนเงินเดือนแบบร้อยละดีเพราะใช้งเินได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย บางก็บอกว่าไม่ดี เพราะคุณครูได้เลื่อนเงินเดือน ไม่ถึงร้อยละ 3 ต่อรอบ  ฯลฯ ดังนั้นวันนี้ครูจึงขออนุญาตนำเรียนทุกท่านในประเด็น “คุณครู(อาจ)ได้เลื่อนเงินเดือน ไม่ถึงร้อยละ 3ต่อรอบ เพราะอะไร?”

หมายเหตุ : นี้เป็นเพียงกรณีตัวอย่าง จัดทำเพื่อทำให้ทุกท่านเห็นภาพเท่านั้น ไม่ได้นำข้อมูลจากโรงเรียนหนึ่งโรงเรียนใด ดังนั้นโรงเรียนทุกโรงเรียนอาจจะมีปัจจัยที่ส่งผลต่อวงเงินที่ใช้เลื่อนเงินเดือนครูต่างกัน

เรามาเข้าสู่บทความ“คุณครู(อาจ)ได้เลื่อนเงินเดือน ไม่ถึงร้อยละ 3ต่อรอบ เพราะอะไร?”ในวันนี้กันครับ พร้อมแล้วมาเริ่มกันเลยครับ

วงเงินที่ใช้เลื่อนเงินเดือนคิดอย่างไร

สำหรับการคำนวณวงเงินที่ใช้ในการเลื่อนเงินเดือนครู จะคิดจากผลรวมของเงินเดือนคุณครูทั้งโรงเรียน คูณด้วย 3% ตัวอย่างเช่น

โรงเรียน ก. เงินเดือนครูรวมกันทั้งโรงเรียนได้ 100,000 บาท จะคำนวณเม็ดเงินได้ดังนี้

100,000 x 3% = 3,000

โรงเรียน ก. จะมีเม็ดเงินที่ใช้ในการเลื่อนเงินเดือนให้ครูทุกคนโรงเรียน ทั้งหมด 3,000 บาท

(แต่โรงเรียนอาจจะได้รับจัดสรรไม่ถึง 3% ครับ เพราะจะมีคณะกรรมการพิจารณาจัดสรรทั้งในระดับส่วนกลาง และ เขตพื้นที่ฯ)

วงเงินที่ใช้เลื่อนเงินเดือนจะลดลงเมื่อ?

ในกรณีที่วงเงินที่ใช้เลื่อนเงินเดือนจะลดลง มีหลายกรณี เช่น

  1. มีคุณครูเกษียณอายุราชการ(เงินเดือนสูง) และโรงเรียนได้บรรจุคุณครูใหม่
  2. โรงเรียนมีคุณครูย้ายออก

วงเงินที่ใช้เลื่อนเงินเดือนจะเพิ่มขึ้นเมื่อ?

ในกรณีที่วงเงินที่ใช้เลื่อนเงินเดือนจะเพิ่มขึ้นเมื่อโรงเรียนไม่มีคุณครูย้ายออก อาจจะมีแต่คุณครูย้ายเข้าครับ

แต่ไม่ว่าวงเงินที่ใช้เลื่อนจะเพิ่มหรือลดก็ไม่ได้สงผลให้คุณครูได้ร้อยละที่สูงขึ้นครับ

แล้วอะไรสิ่ง ที่ทำให้ได้เลื่อนเงินเดือนของคุณครู ไม่ถึงร้อยละ 3 ต่อรอบ

สิ่งที่จะทำให้การเลื่อนเงินเดือนของคุณครูได้รับการเลื่อนไม่ถึงร้อยละ 3 ต่อรอบ คือ เงินเดือนของคุณครู น้อยกว่าฐานในการคำนวณ ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น มาดูตัวอย่างกันครับ

คุณครู(อาจ)ได้เลื่อนเงินเดือน ไม่ถึงร้อยละ 3ต่อรอบ เพราะอะไร?

ตัวอย่าง
การคิดวงเงินที่ได้รับจัดสรรของครูเป็นรายบุคคล

ครู ก วิทยฐานครูชำนาญการพิเศษ (คศ.3)

เงินเดือน = 41,000 บาท

วงเงินที่ได้รับจัดสรร (3%) = 1,230 บาท

ฐานในการคำนวณ = 49,330 บาท

คิดร้อยละที่จะได้เลื่อนเงินเดือนจาก

(วงเงินที่ได้รับจัดสรร/ฐานในการคำนวณ)x100

(1,230/48,330)x100 =  2.55

ดังนั้น คุณครู ก จะได้เลื่อนเงินเดือนร้อยละ 2.55 แต่ในการเลื่อนจริง เขตพื้นที่ฯอาจไม่ได้จัดสรรวงเงินมาให้เต็มร้อยละ 3 แน่นอนซึ่งจะทำให้คุณครู ก ได้เลื่อนเงินเดือนร้อยละที่ต่ำลงไปอีก

ตอนนี้หลายๆโรงเรียนเริ่มเจอกับปัญหานี้แล้ว โดยเฉพาะโรงเรียนที่มีคุณครูบรรจุใหม่ และโรงเรียนที่มีคุณครูที่มีเงินเดือนน้อยกว่าฐานในการคำนวณเยอะๆ ครับ

อย่างไรก็ดีนี่เป็นเพียงแค่การคาดการณ์จากกรณีตัวอย่างเท่านั้น ในแต่ละโรงเรียนอาจจะมีปัจจัย เหตุการณ์ ที่แตกต่างกันออกไปครับ

หวังว่าบทความนี้คงเป็นประโยชน์และตอบข้อสงสัยของหลายๆท่านไม่มากก็น้อยครับ

ทีมงานครูอัพเดตดอทคอม

เกียรติบัตรวันChristmas ไฟล์PowerPoint แก้ไขได้

0

สวัสดีค่ะคุณครูทุกท่าน วันนี้ครูอัพเดตดอทคอม มีเกียรติบัตร วัน Christmas ไฟล์PowerPoint แก้ไขได้
ที่ครูอัพเดตดอทคอมได้จัดทำขึ้น มาฝากคุณครูค่ะ ซึ่งเชื่อว่า อาจมีคุณครูหลายท่าน ตามหา เกียรติบัตร
วัน Christmas อยู่ใช่ไหมคะ ไปดูตัวอย่างที่ ครูอัพเดตดอทคอม จัดทำขึ้น กันเลยค่ะ

ดาวน์โหลดที่นี่ เกียรติบัตรวันChristmas

เกียรติบัตรวันChristmas ไฟล์PowerPoint แก้ไขได้

โดยคุณครูสามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ เกียรติบัตร วัน Christmas  ที่ครูอัพเดตดอมคอม ได้จัดทำขึ้น เป็นไฟล์
PowerPoint ที่ตั้งค่าหน้ากระดาษให้คุณครูเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยเป็นกระดาษ A4 แนวนอนค่ะ

คุณครูสามารถทำการแก้ไข เพิ่มข้อความ และบันทึกไฟล์เป็น รูปภาพ ได้พร้อมกันทีละหลายๆภาพเลยนะคะ ซึ่งสะดวกมากค่ะ หากคุณครูยังไม่มราบวิธีการบันทึกไฟล์ PowerPoint เป็นรูปภาพ สามารถอ่านได้จากลิงค์นี้เลยนะคะ

ดาวน์โหลดเกียรติบัตรวัน Christmas ไฟล์PowerPoint แก้ไขได้

ครูอัพเดตดอทคอม หวังว่า เกียรติบัตร ที่ ครูอัพเดตดอมคอม ได้จัดทำขึ้น คุณครูจะชอบเป็นประโยชน์กับการปฏิบัติงานของคุณครูนะคะ

คู่มือ ส่งเสริมและพัฒนา กิจกรรมลูกเสือ ทักษะชีวิต ในสถานศึกษา

สวัสดีครับวันนี้เว็บไซต์ครูอัพเดตดอทคอมมีเรื่องราวดีดีมานำเสนอเช่นเคยครับ โดยวันนี้เป็นสื่อการเรียนรู้ที่ ส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมลูกเสือทักษะชีวิตในสถานศึกษา โดยสพฐ.ได้จัดทำ คู่มือส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมลูกเสือทักษะชีวิตในสถานศึกษา ไว้ดังนี้ครับ
คู่มือส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมลูกเสือทักษะชีวิตในสถานศึกษา
1) ประเภทลูกเสือสำรอง
– ประเภทลูกเสือสำรอง หลักสูตรเตรียมลูกเสือสำรอง และดาวดวงที่ 1 ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
– ประเภทลูกเสือสำรอง หลักสูตรเตรียมลูกเสือสำรอง และดาวดวงที่ 2 ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2
– ประเภทลูกเสือสำรอง หลักสูตรเตรียมลูกเสือสำรอง และดาวดวงที่ 3 ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
2) ประเภทลูกสามัญ
– ประเภทลูกเสือสามัญ หลักสูตรลูกเสือตรี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
– ประเภทลูกเสือสามัญ หลักสูตรลูกเสือโท ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
– ประเภทลูกเสือสามัญ หลักสูตรลูกเสือเอก ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
3) ประเภทลูกเสือสามัญรุ่นใหญ่
– ประเภทลูกเสือสามัญรุ่นใหญ่ เครื่องหมายลูกเสือโลก ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
– ประเภทลูกเสือสามัญรุ่นใหญ่ เครื่องหมายลูกเสือชั้นพิเศษ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
– ประเภทลูกเสือสามัญรุ่นใหญ่ เครื่องหมายลูกเสือหลวง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
4) ประเภทลูกเสือวิสามัญ
– ประเภทลูกเสือวิสามัญ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ประกาศนียบัตรวิชาชีพ 1
– ประเภทลูกเสือวิสามัญ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 – 6 ประกาศนียบัตรวิชาชีพ 2 – 3

 

ดาวน์โหลดไฟล์ทั้งหมดที่นี่!!

ขอบคุณข้อมูลจาก : สำนักพัฒนากิจกรรมนักเรียน

เกียรติบัตร วันพ่อ ไฟล์PowerPoint แก้ไขได้

0

สวัสดีค่ะคุณครูทุกท่าน วันนี้ ครูอัพเดตดอทคอม มี คุณครู ดาวน์โหลดที่นี่ เกียรติบัตร วันพ่อ ไฟล์ พร้อมแก้ไขได้ มาฝากคุณครูทุกท่านค่ะ ซึ่ง เกียรติบัตรที่นำมาฝากคุณครู จะอยู่ในรูปแบบของไฟล์ PowerPoint คุณครูสามารถดาวน์โหลดไฟล์ และทำการแก้ไขได้เลยค่ะ ไปดูตัวอย่างเกียรติบัตรที่ ครูอัพเดตดอทคอม จัดทำขึ้นและนำมาฝากคุณครูกันเลยค่ะ

ดาวน์โหลดเท็มเพล็ตเกียรติบัตรวันพ่อ

ดาวน์โหลดเท็มเพล็ตเกียรติบัตรวันพ่อ

ดาวน์โหลดเท็มเพล็ตเกียรติบัตรวันพ่อ

ดาวน์โหลดเท็มเพล็ตเกียรติบัตรวันพ่อ

ดาวน์โหลดเท็มเพล็ตเกียรติบัตรวันพ่อ

โดยคุณครูสามารถดาวน์โหลดไฟล์ที่ลิงค์ด้านล่างได้เลยนะคะ

ดาวน์โหลดไฟล์

 

ครูอัพเดตดอทคอม หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับคุณครูทุกท่านนะคะ