ประกาศรับสมัครสอบแข่งขัน ตำแหน่งครูผู้ช่วย รอบทั่วไป สังกัด สพฐ. ประจำปี พ.ศ. 2564

ประกาศรับสมัครสอบแข่งขัน ตำแหน่งครูผู้ช่วย รอบทั่วไป สังกัด สพฐ. ประจำปี พ.ศ. 2564

ประกาศรับสมัครสอบแข่งขัน ตำแหน่งครูผู้ช่วย รอบทั่วไป สังกัด สพฐ. ประจำปี พ.ศ. 2564 สวัสดีครับ คุณครูและท่านผู้อ่านทุกท่าน วันนี้ครูอัพเดตดอทคอม มีข่าวดีเกี่ยวกับการประกาศรับสมัครสอบแข่งขัน ตำแหน่งครูผู้ช่วย รอบทั่วไป สังกัด สพฐ. ประจำปี พ.ศ. 2564 มาฝากคุณครูและท่านผู้อ่านทุกท่านครับ

หนังสือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ด่วนที่สุด ที่ ศธ 04009/ว2361 ลงวันที่ 20 พฤษภาคม 2564

เรื่อง การสอบแข่งขันฯ ตำแหน่งครูผู้ช่วย สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปี พ.ศ. 2564

เรียน ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทุกเขต

อ้างถึง 1. หนังสือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ด่วนที่สุด ที่ ศธ 04009/ว973 ลงวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2564
2. หนังสือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ด่วนที่สุด ที่ ศธ 04009/ว1814 ลงวันที่ 15 เมษายน 2564
3. หนังสือสำนักงาน ก.ค.ศ. ที่ ศธ 6/ว8 ลงวันที่ 12 พฤษภาคม 2564

สิ่งที่ส่งมาด้วย กำหนดการฯ และตารางสอบแข่งขันฯ จำนวน 2 ฉบับ

ตามหนังสือที่อ้างถึง 1 ได้แจ้งกำหนดการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วย สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปี พ.ศ. 2564 และตามหนังสือที่อ้างถึง 2 แจ้งชะลอการดำเนินการสอบแข่งขันฯ ดังกล่าวออกไปก่อนจนกว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) จะคลี่คลาย มาเพื่อทราบความแจ้งแล้ว นั้น

สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานพิจารณาแล้ว เนื่องจากสำนักงาน ก.ค.ศ. ได้มีหนังสือซักซ้อมความเข้าใจเกี่ยวกับการบริหารอัตรากำลังสำหรับการสอบแข่งขันฯ ตำแหน่งครูผู้ช่วย สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปี พ.ศ. 2564 ตามหนังสือที่อ้างถึง 3 ดังนั้น เพื่อเป็นการบริหารอัตรากำลังให้เกิดประโยชน์ต่อทางราชการ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานจึงกำหนดการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วยสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปี พ.ศ. 2564 ตามสิ่งที่ส่งมาด้วย

จึงเรียนมาเพื่อทราบ
ขอแสดงความนับถือ
(นายอัมพร พินะสา)
เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน

สำนักพัฒนาระบบบริหารงานบุคคลและนิติการ
กลุ่มบริหารงานบุคคล 3
โทร. 0 2288 5662

ประกาศรับสมัครสอบแข่งขัน ตำแหน่งครูผู้ช่วย รอบทั่วไป สังกัด สพฐ. ประจำปี พ.ศ. 2564

กำหนดการสอบแข่งขันฯ

ประกาศรับสมัครสอบแข่งขัน ตำแหน่งครูผู้ช่วย รอบทั่วไป สังกัด สพฐ. ประจำปี พ.ศ. 2564

ตารางสอบแข่งขัน

ประกาศรับสมัครสอบแข่งขัน ตำแหน่งครูผู้ช่วย รอบทั่วไป สังกัด สพฐ. ประจำปี พ.ศ. 2564

ครูอัพเดตดอทคอม ขอขอบคุณข้อมูลจาก สำนักพัฒนาระบบบริหารงานบุคคลและนิติการ

อบรมออนไลน์ สสวท. AI For School รุ่น 2 (ฟรี) จาก สสวท. อบรมออนไลน์รับเกียรติบัตรฟรี

0

อบรมออนไลน์ สสวท. AI For School รุ่น 2 (ฟรี) จาก สสวท. อบรมออนไลน์รับเกียรติบัตรฟรี

ระบบอบรมครู

(Teacher Professional Development System) แหล่งเรียนรู้ออนไลน์ที่ครูสามารถ ทบทวนความรู้หรือพัฒนาศักยภาพของตนเองทั้งด้านเนื้อหาวิชาการและเทคนิคการสอน โดยครูสามารถ เข้าถึงเนื้อหาและร่วมกิจกรรมการอบรมที่หลากหลายจากวิทยากรที่มีความเชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยี ของ สสวท.

ขอเชิญทุกท่านที่สนใจเข้าร่วมอบรม์หลักสูตร “AI For Schools” รุ่น 2 (ฟรี) แบบออนไลน์ โดยแบ่งเป็น 4 ระดับ เมื่ออบรมผ่านจะได้รับวุฒิบัตรแต่ละระดับ สามารถสมัครและอบรมแต่ละระดับตามวันที่กำหนด ได้ที่ https://teacherpd.ipst.ac.th/

เป็นหลักสูตรที่ให้ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence: AI) AI ที่พบในชีวิตประจำวัน และการใช้วิจารณญาณในการรับข้อมูลจาก AI เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจพื้นฐานและใช้งานอย่างรู้เท่าทัน นอกจากนี้ยังได้ให้แนวคิดเกี่ยวกับการเรียนรู้ของ AI ผ่านกิจกรรมแบบใช้คอมพิวเตอร์และไม่ใช้คอมพิวเตอร์เนื้อหาประกอบด้วย

  1. บทนำ : ช่วงเวลาของ AI และความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับ AI
  2. AI รอบตัวเรา : AI ที่มีบทบาทในด้านต่าง ๆ เช่น AI ในชีวิตประจำวัน AI ด้านบันเทิง AI ที่ช่วยในการศึกษา AI ในการทำงาน AI ด้านความปลอดภัย
  3. รู้เท่าทัน AI : รู้จักกับปัญหาของ AI และการใช้วิจารณญาณในการรับข้อมูลจากระบบ AI การหลอกระบบ AI และการปกป้องข้อมูลส่วนตัว
  4. เรียนรู้ผ่านกิจกรรม AI : ศึกษาแนวคิดเกี่ยวกับการเรียนรู้ของ AI ผ่านกิจกรรมแบบใช้คอมพิวเตอร์และไม่ใช้คอมพิวเตอร์

วัตถุประสงค์ของหลักสูตร

เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับปัญญาประดิษฐ์ในระดับพื้นฐาน ตระหนักถึงความสำคัญและมีวิจารณญาณในการใช้งาน

จำนวนชั่วโมงเรียน

8 ชั่วโมง
หมายเหตุ: จะมีการเสนอหลักสูตรต่อคุรุพัฒนา เพื่อขอรับรองหลักสูตรต่อไป

เกณฑ์ผ่านการอบรม

มีคะแนนแบบฝึกหัดและคะแนนแบบทดสอบสรุปความรู้รวมกันไม่ต่ำกว่า 80%
หมายเหตุ: แบบฝึกหัดและแบบทดสอบสรุปความรู้ทำได้ไม่เกิน 2 ครั้ง

คุณสมบัติผู้เข้ารับการอบรม

  1. เป็นนักเรียน นักศึกษา ครูผู้สอน หรือบุคคลทั่วไป
  2. มีความพร้อมในการเข้าร่วมศึกษาและทำกิจกรรมต่าง ๆ ในระบบการอบรม จนจบหลักสูตร

ลงทะเบียนอบรมออนไลน์ คลิกที่นี่

 ครูอัพเดตดอทคอม ขอขอบคุณข้อมูล อบรมออนไลน์ สสวท. AI For School รุ่น 2 (ฟรี) จาก สสวท. อบรมออนไลน์รับเกียรติบัตรฟรี จาก สสวท.

เทคนิค วิธีหาค้นหา เกียรติบัตร ให้เจอชื่อตัวเอง อย่างง่าย สพฐ. อบรมออนไลน์OBEC 2021 Webinar

0

วิธีหาค้นหา เกียรติบัตร สพฐ. อบรมออนไลน์OBEC 2021 Webinar

วันนี้ ครูอัพเดตดอทคอม จึงมีเทคนิค วิธีหาค้นหา เกียรติบัตร ให้เจอชื่อตัวเอง อย่างง่าย สพฐ. อบรมออนไลน์OBEC 2021 Webinar  มาฝากคุณครูนั้นเองค่ะ เพื่ออำนวยความสะดวกให้คุณครูสามารถเทคนิค วิธีหาค้นหา เกียรติบัตร ให้เจอชื่อตัวเอง อย่างง่าย สพฐ. อบรมออนไลน์OBEC 2021 Webinar ได้อย่างง่ายดาย ไปดู วิธีหาเกียรติบัตร ดาวน์โหลด เกียรติบัตร สพฐ. อบรมออนไลน์OBEC 2021 Webinar กันเลยค่ะ

1.คุณครูเข้าไปที่เว็บไซต์ https://webinar.moe.go.th/ เพื่อทำการค้นหาและดาวน์โหลด เกียรติบัตร สพฐ. อบรมออนไลน์OBEC 2021 Webinar
2. แนะแนำว่า ให้ค้นหาเฉพาะนามสกุล (กรอกเฉพาะนามสกุลลงไปในช่องค้นหา) เพราะนามสุกลจะมีน้อยกว่าชื่อ
3.จากนั้นระบบจะทำการค้นหาเมื่อพบ นามสกุล ของตนเอง คุณครูทำการ เลือกดาวน์โหลด โดยคลิกที่ภาพ เครื่องพิมพ์สีฟ้า (ถ้าคะแนนผ่าน50%) แต่ถ้าไม่ผ่านเครื่องพิมพ์จะไม่เป็นสีฟ้า คือดาวน์ไม่ได้นะคะ****ควรค้นหาเวลาที่คนไม่ค้นเยอะ ไม่ช่วงดึกๆ ก็ช่วงเช้าๆ ค่ะ ที่คนไม่เข้าค้นหา***

เกียรติบัตรลงทะเบียนเมื่อไหร่ตอบ ลงทะเบียนได้ในช่วงหลังการอบรมในแต่ละวัน โดยวิทยากรจะให้รหัสในการเข้าทำแบบทดสอบ โดย 1 วัน ช่วงเช้าและบ่าย ข้อสอบจะรวมกันในลิ้งค์เดียว ซึ่งหากกรอกลงทะเบียนสอบจะได้ใบเกียรติบัตรวันละ 1 ใบ ต้องเข้าอบรมทั้งเช้าและบ่ายจึงจะทำข้อสอบได้ และให้กดเข้าลิ้งค์การลงทะเบียนให้ถูกต้องตามภาคด้วย
ปิดรับลงทะเบียนเมื่อไหร่ตอบ ปิดรับลงทะเบียนรับเกียรติบัตรเวลา 21.00 น. ของแต่ละวันที่อบรม
เกียรติบัตรจะได้เมื่อไหร่ ภายในวันใดตอบ เกียรติบัตรจะได้ในลิ้งค์ webinar.moe.go.th ให้ติดตามที่หน้าเว็ปไซต์
เกียรติบัตรถ้ากรอกลงทะเบียนไปแล้วแก้ไขได้หรือไม่ตอบ การกรอกลงทะเบียนผู้เข้าอบรมต้องตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลให้เรียบร้อยก่อนการกด Submit Form หากกรอกผ่านโทรศัพท์มือถือให้ระวังการเว้นวรรคของการพิมพ์
เนื่องจากหากผิดพลาดจะไม่มีการแก้ไขเกียรติบัตรครูอัพเดตดอทคอม ขอขอบคุณที่มาของข้อมูลและภาพ วิธีหา เกียรติบัตร ดาวน์โหลด เกียรติบัตร สพฐ. อบรมออนไลน์OBEC 2021 Webinar จาก https://webinar.moe.go.th/ค่ะ

สรุป สพฐ. ประชุมทางไกล การเตรียมการก่อน เปิดภาคเรียนที่ 1/2564 และเตรียมการสอบคัดเลือกนักเรียนชั้น ม.1 และ ม.4

0

สรุป สพฐ. ประชุมทางไกล การเตรียมการก่อน เปิดภาคเรียนที่ 1/2564 และเตรียมการสอบคัดเลือกนักเรียนชั้น ม.1 และ ม.4

วันที่ 19 พฤษภาคม 2564 นายอัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) เป็นประธานในการประชุมทางไกล เพื่อมอบนโยบายสำคัญในการเตรียมการก่อนเปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564 และเตรียมการสอบคัดเลือกนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 รวมทั้งการดำเนินการจัดการเรียนการสอนในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) โดยมีผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ผู้อำนวยการโรงเรียน ผู้อำนวยการทุกสำนัก ร่วมประชุมทางไกลผ่านระบบ Video Conference ถ่ายทอดสดจากห้องปฏิบัติการ DOC อาคาร สพฐ. 5 ชั้น 9 กระทรวงศึกษาธิการ

นายอัมพร พินะสา เลขาธิการ กพฐ. กล่าวว่า ตามที่ นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) มีความห่วงใยความปลอดภัยสูงสุดของนักเรียน ครู และผู้ปกครอง กระทรวงศึกษาธิการ จึงได้พิจารณาเสนอเรื่องการเลื่อนเปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564 จากวันที่ 1 มิถุนายน 2564 ออกไปเป็นวันที่ 14 มิถุนายน 2564 เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ระลอกใหม่ทั่วประเทศ มีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นจึงต้องเลื่อนการเปิดเทอมออกไป เพื่อความปลอดภัยของนักเรียน นักศึกษา ครู และบุคลากรทางการศึกษา ลดความเสี่ยงกับการติดเชื้อโควิด-19 อีกทั้งให้มีระยะเวลารับการฉีดวัคซีนของครูและบุคลากรทางการศึกษา และรองรับการย้ายสถานศึกษาของนักเรียนในแต่ละช่วงชั้น

โดยเมื่อวันที่ 18 พ.ค. 2564 ศบค. ได้แบ่งพื้นที่ควบคุมออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่ 1) พื้นที่สีแดงเข้ม เป็นส่วนที่มีการแพร่ระบาดสูงสุด ประกอบด้วย 4 จังหวัด คือ กรุงเทพฯ นนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการ 2) พื้นที่สีแดง หรือพื้นที่ควบคุมสูงสุด ประกอบด้วย 17 จังหวัด ได้แก่ กาญจนบุรี ชลบุรี ฉะเชิงเทรา ตาก นครปฐม นครศรีธรรมราช นราธิวาส ประจวบคีรีขันธ์ พระนครศรีอยุธยา เพชรบุรี ยะลา ระนอง ระยอง ราชบุรี สมุทรสาคร สงขลา และสุราษฎร์ธานี 3) พื้นที่สีส้ม หรือพื้นที่ควบคุม อีก 56 จังหวัดที่เหลือ โดย ศบค.ได้ผ่อนคลายมาตรการการใช้อาคารสถานที่เพื่อจัดการเรียนการสอน และกิจกรรมที่มีการรวมคนจำนวนมากตามระดับสถานการณ์ของพื้นที่ โดยพื้นที่สีแดงเข้ม 4 จังหวัด ห้ามใช้อาคารสถานที่เพื่อจัดการเรียนการสอน และกิจกรรมที่มีการรวมคนจำนวนมาก ขณะที่พื้นที่สีแดง 17 จังหวัด ให้ใช้อาคารสถานที่เปิดเรียนได้ โดยผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ส่วนที่เหลือ 56 จังหวัดที่เป็นพื้นที่สีส้ม ให้เปิดเรียนได้ตามมาตรการของ ศบค.

นายอัมพร กล่าวต่อไปว่า สำหรับการเปิดภาคเรียนที่เลื่อนไปเป็นวันที่ 14 มิถุนายนนี้ มีเงื่อนไข 3 ประการ คือ 1) ในพื้นที่สีแดงเข้ม 4 จังหวัด ยังไม่อนุญาตให้เปิดการเรียนการสอนแบบ On-Site คือไม่อนุญาตให้เด็กมาเรียนที่โรงเรียน รวมถึงการใช้อาคารสถานที่ และห้ามบุคลากรหรือมีการมารวมกลุ่มของคนจำนวนเกินกว่า 20 คน และให้เปิดภาคเรียนในวันที่ 14 มิถุนายน 2564 เท่านั้น 2) จังหวัดอื่นสามารถเลื่อนการเปิดภาคเรียนไปได้เช่นเดียวกัน หากโรงเรียนใดอยู่ในพื้นที่ 17 จังหวัด หรือ 56 จังหวัด ให้ทำการประเมินตนเองบนพื้นฐานความพร้อม โดยผู้อำนวยการโรงเรียนร่วมกับคณะครู และกรรมการสถานศึกษา หากมีความประสงค์ที่จะเปิดเรียนก่อนวันที่ 14 มิถุนายน ให้ทำเรื่องเสนอไปยังคณะกรรมการควบคุมโรคจังหวัดนั้นๆ พิจารณา และหากได้รับการพิจารณาให้ความเห็นชอบ โรงเรียนก็สามารถเปิดทำการเรียนการสอนแบบ On-Site คือให้เด็กมาเรียนที่โรงเรียนได้ ซึ่งแม้ว่าจะอนุญาตให้นักเรียนมาโรงเรียนได้แต่มาตการในการรักษาความปลอดภัยก็ยังต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด

ทั้งนี้ หากโรงเรียนที่อยู่ในพื้นที่สีแดงเข้ม 4 จังหวัด ต้องการเปิดสอนออนไลน์ ซึ่งจะต้องมีครูมาสอนออนไลน์ และมีความจำเป็นต้องใช้อาคารสถานที่ โรงเรียนจะต้องเสนอแผนมาตรการที่ครูสามารถมาสอนได้อย่างปลอดภัย และต้องมาไม่เกิน 20 คน ตามมาตรการที่ ศบค. กำหนด โดยดำเนินการเสนอมายังสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา เพื่อเสนอต่อมาที่ สพฐ. และ สพฐ. จะนำแผนเสนอขอไปยัง ศบค. พิจารณา เมื่อได้รับการพิจารณาอนุญาต โรงเรียนจึงจะสามารถเปิดเรียนออนไลน์ได้ ส่วนโรงเรียนที่ไม่อยู่ใน 4 จังหวัดพื้นที่สีแดงเข้ม และจะมีการเปิดเรียน On-Site หากอยู่ในพื้นที่ที่มีความเสี่ยง อาจต้องใช้วิธีการสลับมาเรียน หรือรูปแบบอื่น และต้องคำนึงถึงความปลอดภัยด้วย นอกจากนั้น หากต้องการเปิดภาคเรียน ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. 2564 เป็นต้นไป ให้โรงเรียนหรือสถานศึกษาแห่งนั้น ดำเนินการประเมินความพร้อมตามระบบ Thai Stop COVID Plus (TSC+) ของกระทรวงสาธารณสุข ที่มี 44 ข้อ โดยต้องผ่านทุกข้อ และต้องเสนอขอความเห็นชอบต่อคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด เพื่ออนุญาตให้โรงเรียนหรือสถานศึกษาแห่งนั้นสามารถจัดการเรียนการสอนได้ก่อนวันที่ 14 มิ.ย. 2564

ในส่วนของการรับนักเรียนชั้น ม.1 และ ม.4 สพฐ. ได้เสนอขออนุญาต ศบค.ให้เปิดใช้อาคารสถานที่ในการสอบคัดเลือก วันที่ 22-23 พ.ค. 2564 ทุกจังหวัด รวมถึง 4 จังหวัดในพื้นที่สีแดงด้วย และได้รับการอนุญาตให้จัดสอบได้ โดยให้สอบเฉพาะโรงเรียนที่มีผู้มาสมัครเกินจำนวนที่โรงเรียนรับได้เท่านั้น ส่วนโรงเรียนที่มีนักเรียนมาสมัครไม่ครบตามจำนวนที่โรงเรียนต้องการ และต้องการสอบแบ่งห้องเรียนเท่านั้น ให้โรงเรียนนั้นงดการสอบคัดเลือกเพื่อลดการมารวมกลุ่มของคน เพราะถือว่านักเรียนมีที่เรียนแล้ว และขอย้ำว่าไม่ให้มีการรวมกลุ่ม หรือนำนักเรียนไปรวมกลุ่มไว้ในที่เดียวกัน โดยให้จำแนกนักเรียนตามห้องสอบให้เรียบร้อยเพื่อลดการแออัด ห้องสอบต้องมีอากาศถ่ายเท รวมถึงดำเนินการสอบให้เสร็จในภาคเช้าเท่านั้น และอนุญาตให้นักเรียนที่สอบเสร็จก่อนเวลากลับบ้านก่อนได้

“เมื่อเลื่อนการเปิดภาคเรียนเป็นวันที่ 14 มิ.ย.แล้ว ในเรื่องของเวลาเรียนทดแทนให้อยู่ในดุลยพินิจของแต่ละโรงเรียนว่าจะชดเชยอย่างไรเพื่อให้ได้เวลาเรียนครบถ้วนตามหลักสูตร ขอให้สถานศึกษาติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และพิจารณารูปแบบการจัดการเรียนการสอน โดยยึดหลักความปลอดภัยสูงสุดของเด็ก ครู และผู้ปกครองเป็นที่ตั้ง ซึ่งนักเรียนทุกคนต้องไม่พลาดโอกาสในการเรียนรู้ แต่ก็ต้องไม่บังคับว่าเด็กทุกคนในโรงเรียนเดียวกันจะต้องเรียนเหมือนกัน การตัดสินใจใช้รูปแบบใดในการจัดการเรียนการสอน รวมถึงการเรียนการสอนที่โรงเรียน ต้องเป็นไปด้วยความสมัครใจ โดยขออนุญาตกับคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดให้ถูกต้อง และปฏิบัติตามข้อกำหนดของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด” เลขาธิการ กพฐ. กล่าว

ทั้งนี้ หลังจากเลขาธิการ กพฐ. ได้มอบนโยบายในภาพรวมแล้ว ผู้บริหารระดับสูงของ สพฐ. ยังได้ร่วมชี้แจงแนวทางการเตรียมการเปิดภาคเรียนที่ 1/2564 ในด้านต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง อาทิ นายสนิท แย้มเกษร รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ชี้แจงขั้นตอนและมาตรการเตรียมความพร้อมก่อนเปิดภาคเรียน และแนวปฏิบัติสำหรับสถานศึกษาระหว่างเปิดภาคเรียน (ตามคู่มือการปฏิบัติสำหรับสถานศึกษาในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19) รวมถึงการสำรวจและจัดทำข้อมูลการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) / นายกวินทร์เกียรติ นนธ์พละ รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ชี้แจงแนวทางการจัดการเรียนการสอนสำหรับสถานศึกษา ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) การสำรวจและจัดเก็บข้อมูลที่ใช้สนับสนุนการจัดการเรียนการสอน สำหรับสถานศึกษาในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) / และ ว่าที่ ร.ต. ธนุ วงษ์จินดา รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ชี้แจงมาตรการและแนวทางปฏิบัติในการจัดสอบคัดเลือกนักเรียน ชั้น ม.1 และ ม.4 ในแต่ละพื้นที่สถานการณ์ตามข้อกำหนด ศบค. ฉบับที่ 23 และแนวทางการจัดสอบคัดเลือกสำหรับนักเรียน กรณีเป็นผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) หรือที่ต้องทำการกักตัว 14 วัน เป็นต้น

ครูอัพเดตดอทคอม ขอขอบคุณข้อมูลจาก ประชาสัมพันธ์ สพฐ.

สพฐ. อบรมออนไลน์ ลงทะเบียนรับเกียรติบัตร OBEC 2021 Webinar 20 พฤษภาคม 2564

0

สพฐ. อบรมออนไลน์ ลงทะเบียนรับเกียรติบัตร OBEC 2021 Webinar 20 พฤษภาคม 2564

สพฐ. อบรมออนไลน์ ลงทะเบียนรับเกียรติบัตร OBEC 2021 Webinar 20 พฤษภาคม 2564 สวัสดีครับ คุณครูและท่านผู้อ่านทุกท่าน วันนี้ครูอัพเดตดอทคอม มีลิงก์ลงทะเบียนรับเกียรติบัตร OBEC 2021 Webinar ประจำวันที่ 20 พฤษภาคม 2564 มาฝากคุณครูและท่านผู้อ่านทุกท่านครับ

สืบเนื่องจากบทความที่ผ่านมา ครูอัพเดตดอทคอม ได้เผยแพร่ข้อมูล ลิงก์เข้าร่วมการอบรม OBEC 2021 Webinar วันที่ 20 พ.ค. 64 วันนี้ ครูอัพเดตดอทคอม จึงนำลิงก์ สพฐ. อบรมออนไลน์ ลงทะเบียนรับเกียรติบัตร OBEC 2021 Webinar 20 พฤษภาคม 2564 มาฝากคุณครูทุกท่าน เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับคุณครูในการเข้าไปลงทะเบียนรับเกียรติบัตรผ่านการอบรมได้ง่ายขึ้นครับ

ลงทะเบียนรับเกียรติบัตร ประจำวันที่ 20 พฤษภาคม 2564 ระบบเปิดระหว่างการนำเสนอใกล้จะเสร็จสิ้น และปิดลงทะเบียนเวลา 21.00 น. ของแต่ละวัน คุณครูสามารถเข้าไปลงทะเบียนตามลิงก์ด้านล่างนี้ได้เลยครับ

  • ลงทะเบียน ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคตะวันตก : ปิดการลงทะเบียนแล่ว

  • ลงทะเบียน ภาคเหนือ :ปิดการลงทะเบียนแล่ว

  • ลงทะเบียน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : ปิดการลงทะเบียนแล่ว

  • ลงทะเบียน ภาคใต้ : ปิดการลงทะเบียนแล่ว

  • สำรอง ทุกจังหวัด : ปิดการลงทะเบียนแล่ว

ครูอัพเดตดอทคอม ขอขอบคุณข้อมูลจาก https://webinar.moe.go.th/

เกณฑ์การย้าย หลักเกณฑ์ และ วิธีการ ย้าย ผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ

เกณฑ์การย้าย หลักเกณฑ์ และ วิธีการ ย้าย ผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ

สวัสดีค่ะ วันนี้ครูอัพเดตดอทคอม มีข้อมูลเกี่ยวกับเกณฑ์การย้าย หลักเกณฑ์ และ วิธีการ ย้าย ผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งทางสำนักงาน ก.ค.ศ. ได้สรุปเนื้อหาโดยย่อและเข้าใจง่าย มีรายละเอียดดังนี้

สถานี ก.ค.ศ. หลักเกณฑ์และวิธีการย้ายผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ
สวัสดีข้าราชการครู บุคลากรทางการศึกษา และผู้อ่านทุกท่าน สำนักงาน ก.ค.ศ. มีข่าวความเคลื่อนไหว
เกี่ยวกับหลักเกณฑ์และวิธีการย้ายผู้บริหารสถานศึกษา ซึ่งเป็นเรื่องที่อยู่ในความสนใจของผู้บริหารสถานศึกษา
มาบอกกล่าวให้ทราบโดยทั่วกัน ก.ค.ศ. ในคราวประชุมครั้งที่ 4/2564 เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2564 ได้มีมติเห็นชอบหลักเกณฑ์และวิธีการย้าย ผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ โดยให้ใช้บังคับกับทุกส่วนราชการ ตั้งแต่วันที่ 1 กรถฎาคม 2564 เป็นต้นไปซึ่งสำนักงาน

ก.ค.ศ. ได้แจ้งหลักเกณฑ์และวิธีการดังกล่าว ให้ส่วนราชการและหน่วยงานการศึกษาทราบและถือปฏิบัติ
ตามหนังสือสำนักงาน ก.ค.ศ. ที่ ศร 0206.4/ว 7 ลงวันที่ 12 พฤษภาคม 2564 แล้ว โดยสรุปสาระสำคัญของหลักเกณฑ์ฯ ได้ดังนี้ ให้ สพฐ. กำหนดขนาดสถานศึกษาตามจำนวนนักเรียน โดยกำหนดให้เป็น 4 ขนาด ( เล็ก กลาง ใหญ่และใหญ่พิเศษ) สำหรับส่วนราชการอื่น ให้กำหนดเองตามความเหมาะสม ให้กำหนดสัดส่วนของจำนวนตำแหน่งว่างที่จะใช้รับย้ายและที่จะใช้บรรจุและแต่งตั้งจากบัญชี ผู้ได้รับการคัดเลือกในภาพรวมทั้งจังหวัด ตามประเภทสถานศึกษา ให้เท่ากันหรือต่างกันได้ ไม่เกิน 1 ตำแหน่ง ” กรณีไม่มีผู้ได้รับการคัดเลือกขึ้นบัญชีรอการบรรจุและแต่งตั้ง ให้กำหนดสัดส่วนของจำนวนตำแหน่งว่างที่จะใช้รับย้ายและที่จะใช้สำหรับการคัดเลือก
ให้เท่ากันหรือต่างกันได้ ไม่เกิน 1 ตำแหน่ง ” การย้ายผู้บริหารสถานศึกษา มี 3 กรณี ดังนี้

3.1 การย้ายกรณีปกติ คือ การย้ายตามคำร้องขอย้าย เพื่อดูแลบิดา มารดา เพื่อกลับภูมิลำเนา เพื่ออยู่รวมกับคู่สมรส หรือการย้ายด้วยเหตุผลอื่น
1) ผู้ขอย้ายต้องดำรงตำแหน่ง ผอ.สถานศึกษา หรือรอง ผอ.สถานศึกษา ในสถานศึกษาปัจจุบันมาแล้ว ไม่น้อยกว่า 12 เดือน นับถึงวันที่ 30 กันยายน ของปีที่ยื่นคำร้องขอย้าย และต้องไม่ติดเงื่อนไขอื่นใดตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ ก.ค.ศ. กำหนด
2) ให้ผู้ประสงค์ขอย้าย ยื่นคำร้องขอย้ายประจำปีตามแบบที่ ก.ค.ศ. กำหนด พร้อมความเห็นของคณะกรรมการสถานศึกษา ต่อผู้บังคับบัญชาตามลำดับ ในระหว่างวันที่ 1-15 กรกฎาคมไม่เว้นวันหยุดราชการ
3) ให้ ผอ.สพท. ทุกเขตในจังหวัด และ ศรจ. ตรวจสอบข้อมูล ประเมินศักยภาพผู้ประสงค์ขอย้ายและจัดลำดับ ก่อนเสนอ อกศจ. กลั่นกรองและตรวจสอบความถูกต้องแล้วเสนอ กศจ.พิจารณาย้ายต่อไป
4) ให้พิจารณาคำร้องขอย้ายที่ระบุชื่อสถานศึกษาให้แล้วเสร็จก่อน จึงพิจารณาคำร้องขอย้ายที่ระบุสถานศึกษาใด ๆ ก็ได้ ภายหลัง โดยให้พิจารณาย้ายในสถานศึกษาประเภทเดียวกันที่มีสถานศึกษาขนาดเดียวกันและขนาดใกล้เคียงกัน ทั้งในจังหวัดเดียวกันและต่างจังหวัดพร้อมกันก่อน

เมื่อพิจารณาย้ายขนาดเดียวกันและใกล้เคียงกันแล้วเสร็จ หากยังมีตำแหน่งว่างเหลืออยู่ ให้พิจารณาย้ายข้ามขนาดสถานศึกษาได้ โดยต้องพิจารณาย้ายข้ามขนาดตามลำดับ เช่น มีตำแหน่งว่างในสถานศึกษาขนาดใหญ่พิเศษเหลืออยู่ หากมีคำร้องขอย้ายของผู้ประสงค์ขอย้ายที่ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสถานศึกษาขนาดกลางและขนาดเล็ก ให้พิจารณาคำร้องขอย้ายของผู้ประสงค์ขอย้ายที่ดำรงตำแหน่งในสถานศึกษาขนาดกลางก่อนขนาดเล็กตามลำดับ และหากยังมีตำแหน่งว่างเหลืออยู่อีก ให้ กศจ. พิจารณาย้ายผู้ประสงค์ขอย้ายที่ดำรงตำแหน่งในสถานศึกษาที่ต่างประเภทสถานศึกษาที่มีขนาดเดียวกันและขนาดใกล้เคียงกันได้

5) ให้ กศจ. พิจารณาย้ายครั้งแรกให้แล้วเสร็จ ภายในวันที่ 30 กันยายน และให้มีผลไม่ก่อนวันที่ 1 ตุลาคม ของปีเดียวกัน
6) หากยังมีตำแหน่งว่างในสัดส่วนที่ใช้รับย้ายเหลืออยู่ให้นำมาย้ายต่อเนื่องกันได้ จนไม่มีคำร้องขอย้ายในสถานศึกษาที่มีตำแหน่งว่างนั้นแล้ว ให้นำตำแหน่งว่างที่เหลือนั้นไปใช้สำหรับการบรรจุและแต่งตั้งจากบัญชีผู้ได้รับการคัดเลือก หรือนำตำแหน่งว่างนั้นไปใช้สำหรับการคัดเลือก หรือพิจารณาใช้ตำแหน่งว่างดังกล่าวได้ตามความเหมาะสม
7) กรณีมีตำแหน่งว่างเกิดขึ้นภายหลัง (เช่น ลาออก เปลี่ยนตำแหน่ง ย้ายไปต่างจังหวัด ย้ายกรณีอื่น ฯลฯ
เมื่อการย้ายเสร็จสิ้นแล้ว ให้ กศจ.ดำเนินการกำหนดสัดส่วนของจำนวนตำแหน่งว่าง แล้วให้ประกาศ
ตำแหน่งว่างทันทีให้ทราบโดยทั่วกัน

3.2 การย้ายกรณีเพื่อประโยชน์ของทางราชการ คือ การย้ายเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษาและการย้าย
เพื่อแก้ปัญหาการบริหารจัดการในสถานศึกษา
1) การย้ายเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษา
1.1) ให้ สพท. หรือสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ หรือส่วนราชการอื่น ประกาศรายชื่อสถานศึกษา
ที่ประสงค์จะพัฒนาคุณภาพการศึกษา พร้อมทั้ง เป้าหมายการพัฒนาคุณภาพการศึกษาในสถานศึกษา
แต่ละแห่ง โดยความเห็นชอบของ กศจ. หรือ อ.ก.ค.ศ. ที่ ก.ค.ศ. ตั้ง
1.2) ให้ ผอ.สพท. หรือ ผอ.สำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ หรือหัวหน้าส่วนราชการ พิจารณารายชื่อ
ผู้อำนวยการสถานศึกษาที่มีคุณสมบัติ และสอบถามความสมัครใจของผู้ที่ประสงค์จะให้ย้ายด้วย
1.3) ให้ อกศจ. หรือคณะกรรมการกลั่นกรองการย้าย จารณากลั่นกรองก่อนเสนอ กศจ. หรือ อ.ก.ค.ศ.
ที่ ก.ค.ศ. ตั้ง พิจารณาย้าย ทั้งนี้ หากมีผู้ที่ยื่นคำร้องขอย้ายประจำปีได้ระบุสถานศึกษาดังกล่าวไว้
ให้นำมาพิจารณาร่วมด้วย

2) การย้ายเพื่อแก้ปัญหาการบริหารจัดการในสถานศึกษา ให้พิจารณาย้ายกรณีเกิดปัญหาในสถานศึกษา
ที่ส่งผลกระทบต่อการบริหารจัดการ และมีความจำเป็นต้องย้ายผู้บริหารสถานศึกษาเพื่อเป็นการแก้ปัญหานั้น
ทั้งนี้ ให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน

3.3 การย้ายกรณีพิเศษ คือ การย้ายตามคำร้องขอย้าย เนื่องจากถูกคุกคามต่อชีวิต หรือเจ็บป่วยร้ายแรง
หรือเพื่อดูแลบิดา มารดา คู่สมรส ซึ่งเจ็บป่วยร้ายแรงหรือทุพผลภาพ
1) ให้ดำเนินการย้ายเช่นเดียวกับวิธีการย้ายกรณีปกติ โดยไม่ต้องมีการประเมินศักยภาพของผู้ประสงค์ขอย้าย
และมิให้นำระยะเวลาที่กำหนดตามหลักเกณฑ์และวิธีการย้ายกรณีปกติมาใช้ โดยต้องดำเนินการ ตามระยะเวลาอันสมควร
2) ให้พิจารณาย้ายไปดำรงตำแหน่งในสถานศึกษา ที่มีขนาดเท่าเดิม หรือขนาดเล็กกว่าเดิมเท่านั้น
กรณีที่ไม่สามารถดำเนินการตามหลักเกณฑ์และวิธีการนี้ได้ หรือ มีปัญหาเกี่ยวกับการปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และวิธีการนี้

ให้เสนอ ก.ค.ศ. พิจารณา กำหนดหรือวินิจฉัย
โดยผู้ที่สนใจสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่เว็บไซต์สำนักงาน ก.ค.ศ.
(www.otepc.go.th) หรือ QR Code ด้านล่างนี้
สำนักงาน ก.ค.ศ.
18 พ.ค. 2564

 

เกณฑ์การย้าย หลักเกณฑ์ และ วิธีการ ย้าย ผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ

 

เกณฑ์การย้าย หลักเกณฑ์ และ วิธีการ ย้าย ผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ

เป็นอย่างไรบ้างค่ะ สำหรับข้อมูลที่นำมาฝากกัน หวังว่าจะถูกใจแฟนเพจ ฝากกด like กด share เพจ แอดมินและทีมงานสัญญาว่าจะนำเรื่องราว ข้อมูล ที่มีประโยชน์ มาฝากลูกเพจเรื่อยๆอย่างแน่นอน เพื่อไม่ให้ทุกท่าน พลาดข่าวสาร ข้อมูล สำคัญๆอย่างแน่นอน และเพื่อเป็นกำลังใจให้แอดมินย้ำอีกครั้ง อย่าลืมกดไลค์เพจด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ

ครูอัพเดตดอทคอม ขอขอบคุณที่มาจาก สถานี ก.ค.ศ.

 

 

จรรยาบรรณครู จรรยาบรรณวิชาชีพครู 5 หมวด 9 ข้อ ที่คุณครูควรอ่าน!!!

จรรยาบรรณครู จรรยาบรรณวิชาชีพครู 5 หมวด 9 ข้อ ที่คุณครูควรอ่าน!!!

จรรยาบรรณครู จรรยาบรรณวิชาชีพครู 5 หมวด 9 ข้อ สวัสดีค่ะข้าราชการครู บุคลากรทางการศึกษา และท่านผู้อ่านทุกท่าน วันนี้ครูอัพเดตดอทคอม มีเรื่องสำคัญมานำเสนอ ซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับ จรรยาบรรณวิชาชีพครู ของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ที่เป็นมาตรฐานการปฏิบัติตนที่กำหนดขึ้นเป็นแบบแผนในการประพฤติตน ซึ่งผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาต้องปฏิบัติตาม เพื่อรักษาและส่งเสริมเกียรติคุณชื่อเสียง และฐานะขอผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาให้เป็นที่เชื่อถือศรัทธาแก่ผู้รับบริการและสังคม อันจะนำมาซึ่งเกียรติและศักดิ์ศรีแห่งวิชาชีพ

โดยจะขอนําเสนอข้อบังคับคุรุสภาว่าด้วยจรรยาบรรณของวิชาชีพ พ.ศ. 2556ซึ่งเป็นฉบับล่าสุด อันเป็นพื้นฐานสำคัญที่ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาทุกท่านจะต้องนําไปประพฤติปฏิบัติตนให้เหมาะสมกับการเป็นข้าราชการที่ดี ครูอัพเดตดอทคอม จึงได้นำมาให้ทุกท่านได้ศึกษาและทบทวน ดังรายละเอียดต่อไปนี้

“วิชาชีพ” หมายความว่า วิชาชีพทางการศึกษาที่ทำหน้าที่หลักทางด้านการเรียนการสอนและการส่งเสริมการเรียนรู้ของผู้เรียนด้วยวิธีการต่างๆ รวมทั้งการรับผิดชอบการบริหารสถานศึกษาในสถานศึกษาปฐมวัย ขั้นพื้นฐาน และอุดมศึกษาที่ต่ำกว่าปริญญาทั้งของรัฐและเอกชน และการบริหารการศึกษานอกสถานศึกษาในระดับเขตพื้นที่การศึกษา ตลอดจนการสนับสนุนการศึกษาให้บริการหรือปฏิบัติงานเกี่ยวเนื่องกับการจัดกระบวนการเรียนการสอน การนิเทศ และการบริหารการศึกษาในหน่วยงานการศึกษาต่าง ๆ

“ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา” หมายความว่า ครู ผู้บริหารสถานศึกษา ผู้บริหารการศึกษา และบุคลากรทางการศึกษาอื่น ซึ่งได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพตามพระราชบัญญัติสภาครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2546

“ครู” หมายความว่า บุคคลซึ่งประกอบวิชาชีพหลักทางด้านการเรียนการสอนและการส่งเสริมการเรียนรู้ของผู้เรียนด้วยวิธีการต่างๆ ในสถานศึกษาปฐมวัย ขั้นพื้นฐาน และอุดมศึกษาที่ต่ำกว่าปริญญาทั้งของรัฐและเอกชน

“ผู้บริหารสถาศึกษา” หมายความว่า บุคคลซึ่งปฏิบัติงานในตำแหน่งผู้ปริหารสถานศึกษาภายในเขตพื้นที่การศึกษา และสถานศึกษาอื่นที่จัดการศึกษาปฐมวัย ขั้นพื้นฐาน และอุดมศึกษาที่ต่ำกว่าปริญญาทั้งของรัฐและเอกชน

“ผู้บริหารการศึกษา” หมายความว่า บุคคลซึ่งปฏิบัติงานในตำแหน่งผู้บริหารนอกสถานศึกษาในระดับเขตพื้นที่การศึกษา

“บุคลากรทางการศึกษาอื่น” หมายความว่า บุคคลซึ่งทำหน้าที่สนับสนุนการศึกษา ให้บริการหรือปฏิบัติงานเกี่ยวเนื่องกับการจัดกระบวนการเรียนการสอน การนิเทศ และการบริหารการศึกษาในหน่วยงานการศึกษาต่างๆ ซึ่งหน่วยงานการศึกษากำหนดตำแหน่งให้ต้องมีคุณวุฒิทางการศึกษา

“จรรยาบรรณของวิชาชีพ” หมายความว่า มาตรฐานการปฏิบัติตนที่กำหนดขึ้นเป็นแบบแผนในการประพฤติตน ซึ่งผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาต้องปฏิบัติตาม เพื่อรักษาและส่งเสริมเกียรติคุณชื่อเสียง และฐานะขอผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาให้เป็นที่เชื่อถือศรัทธาแก่ผู้รับบริการและสังคม อันจะนำมาซึ่งเกียรติและศักดิ์ศรีแห่งวิชาชีพ

โดยข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาทุกท่าน ถือว่าเป็นผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ต้องประพฤติตนตามจรรยาบรรณของวิชาชีพ และแบบแผนพฤติกรรมตามจรรยาบรรณของวิชาชีพ ซึ่งมีทั้งหมด 5 หมวด 9 ข้อ ดังนี้

หมวด 1 จรรยาบรรณต่อตนเอง
ข้อ 1 ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ต้องมีวินัยในตนเอง พัฒนาตนเองด้านวิชาชีพบุคลิกภาพ และวิสัยทัศน์ ให้ทันต่อการพัฒนาทางวิทยาการ เศรษฐกิจ สังคม และการเมืองอยู่เสมอ

หมวด 2 จรรยาบรรณต่อวิชาชีพ
ข้อ 2 ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ต้องรัก ศรัทธา ซื่อสัตย์สุจริต รับผิดชอบต่อวิชาชีพ และเป็นสมาชิกที่ดีขององค์กรวิชาชีพ

หมวด 3 จรรยาบรรณต่อผู้รับบริการ
ข้อ 3 ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ต้องรัก เมตตา เอาใจใส่ ช่วยเหลือ ส่งเสริม ให้กำลังใจแก่ศิษย์ และผู้รับบริการ ตามบทบาทหน้าที่โดยเสมอหน้า

ข้อ 4 ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ต้องส่งเสริมให้เกิดการเรียนรู้ ทักษะ และนิสัยที่ถูกต้องดีงามแก่ศิษย์ และผู้รับบริการ ตามบทบาทหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ ด้วยความบริสุทธิ์ใจ

ข้อ 5 ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ต้องประพฤติปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดี ทั้งทางกาย วาจา และจิตใจ

ข้อ 6 ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ต้องไม่กระทำตนเป็นปฏิปักษ์ต่อความเจริญทางกาย สติปัญญา จิตใจ อารมณ์ และสังคมของศิษย์ และผู้รับบริการ

ข้อ 7 ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ต้องให้บริการด้วยความจริงใจและเสมอภาค โดยไม่เรียกรับ หรือยอมรับผลประโยชน์จากการใช้ตำแหน่งหน้าที่โดยมิชอบ

หมวด 4 จรรยาบรรณต่อผู้ร่วมประกอบวิชาชีพ
ข้อ 8 ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา พึงช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกันอย่างสร้างสรรค์ โดยยึดมั่นในระบบคุณธรรม สร้างความสามัคคีในหมู่คณะ

หมวด 5 จรรยาบรรณต่อสังคม
ข้อ 9 ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา พึงประพฤติปฏิบัติตนเป็นผู้นำในการอนุรักษ์ และพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม ศาสนา ศิลปวัฒนธรรม ภูมิปัญญา สิ่งแวดล้อม รักษาผลประโยชน์ของส่วนรวม และยึดมั่นในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

ครูอัพเดตดอทคอม หวังเป็นอย่างยิ่งว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ต่อท่านผู้อ่านทุกท่านได้ไม่มากก็น้อย เพื่อเป็นแนวทางในการประพฤติปฏิบัติตนให้เหมาะสมกับการเป็นข้าราชการที่ดี สาระความรู้ที่เกี่ยวข้องกับ จรรยาบรรณทางวิชาชีพ ของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ยังมีประเด็นที่น่าสนใจอีกหลายประการ ซึ่งครูอัพเดตดอทคอมจะได้นําเสนอในโอกาสต่อไป

ครูอัพเดตดอทคอม ขอขอบคุณข้อมูล จรรยาบรรณครู จรรยาบรรณวิชาชีพครู 5 หมวด 9 ข้อ ที่คุณครูควรอ่าน!!!จาก คุรุสภา

เรื่องราวที่เกี่ยวข้อง จรรยาบรรณวิชาชีพครู 5 หมวด 9 ข้อ มาตรฐานการปฏิบัติตน ที่กําหนดขึ้นเป็นแบบแผนในการประพฤติตน ข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยจรรยาบรรณของวิชาชีพ ครู พ.ศ. 2556

 

 

อัตรากำลัง บรรจุ ครูผู้ช่วย 2564 สำหรับการบริหารอัตรากำลังสอบบรรจุครูผู้ช่วยปี 64

0

อัตรากำลังบรรจุและแต่งตั้ง ครูผู้ช่วย 2564

ซักซ้อมความเข้าใจเกี่ยวกับการบริหารอัตรากำลัง สำหรับการสอบแข่งขัน เพื่อบรรจุและแต่งตั้งครูผู้ช่วย สังกัด สพฐ. ประจำปี พ.ศ. 2564

อัตรากำลัง บรรจุ ครูผู้ช่วย 2564 การบริหารอัตรากำลัง สอบบรรจุ ครูผู้ช่วย 64 เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2564 สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ก.ค.ศ. ได้เผยแพร่ อัตรากำลัง บรรจุ ครูผู้ช่วย 2564 การบริหารอัตรากำลัง สอบบรรจุ ครูผู้ช่วย 64 โดยเป็นการ ซักซ้อมความเข้าใจเกี่ยวกับการบริหารอัตรากำลัง สำหรับการสอบแข่งขัน เพื่อบรรจุและแต่งตั้งครูผู้ช่วย สังกัด สพฐ. ประจำปี พ.ศ. 2564 ดังนี้

ซักซ้อมความเข้าใจเกี่ยวกับการบริหารอัตรากำลังสำหรับการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้ง ครูผู้ช่วยสังกัด สพฐ. ประจำปี 2564

สวัสดีค่ะ ราชการครูบุคลากรทางการศึกษาและผู้อ่านทุกท่าน วันนี้สำนักงาน ก.ค.ศ. มีเรื่องที่น่าสนใจมานำเสนอซึ่งเป็นเรื่องของการชี้แจงทำความเข้าใจเกี่ยวกับตำแหน่งว่างที่จะใช้บรรจุและแต่งตั้งครูผู้ช่วยสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน สพฐ. ที่กำลังจะดำเนินการรับสมัครกันในเร็ววันนี้ให้ทุกท่านได้รับทราบ

ตามที่ก.ค.ศ.ได้มีมติกำหนดเกณฑ์อัตรากำลังข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในสถานศึกษาสังกัดสพฐ.
ตามหนังสือสำนักงานก.ค.ศ. ที่ศธ. 0206/ว 23 ลงวันที่ 23 ธันวาคม 2563 (ว23/2563) โดยให้สพฐ. บริหารอัตรากำลังข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในสถานศึกษา ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการตามเกณฑ์อัตรากำลังเดิมไปจนสิ้นปีการศึกษา 2563 และให้บริหารอัตรากำลังตามเกณฑ์อัตรากำลังใหม่ตั้งแต่ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564 เป็นต้นไปนั้น

ต่อมาสพฐ. ได้กำหนดปฏิทินการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาตำแหน่งครูผู้ช่วย ประจำปีพ.ศ. 2564 โดยกำหนดให้ประกาศรับสมัครภายในวันที่ 27 เมษายน 2564 และกระบวนการสอบแข่งขันจะเสร็จสิ้นในเดือนกรกฎาคม ซึ่งเป็นช่วงระยะเวลาที่เกณฑ์อัตรากำลังใหม่ ว23/2563
มีผลบังคับใช้แล้ว แม้ว่าต่อมาจะมีการเลื่อนกำหนดการสอบแข่งขันเนื่องมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 แต่ก็มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีข้อหารือเกี่ยวกับการบรรจุและแต่งตั้งครูผู้ช่วยจากการสอบแข่งขันครั้งนี้ว่า จะใช้จำนวนตำแหน่งว่างที่คำนวณตามเกณฑ์อัตรากำลังเดิมหรือตามเกณฑ์อัตรากำลังใหม่ ว23/2563

ดังนั้นเพื่อให้การบริหารอัตรากำลัง สำหรับการสอบแข่งขันตำแหน่งครูผู้ช่วย สังกัดสพฐ. ประจำปี 2564 มีความชัดเจนและเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ก.ค.ศ.จึงมีมติให้ซักซ้อมความเข้าใจกรณีดังกล่าวว่า หากกศจ. ประกาศรับสมัครสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาตำแหน่ง
ครูผู้ช่วยประจำปี พ.ศ. 2564 ก่อนวันที่ 10 มิถุนายน 2564 วันที่รายงานข้อมูลจำนวนนักเรียน และการดำเนินการสอบแข่งขันเสร็จสิ้นหลังวันที่ 10 มิถุนายน 2564 การบรรจุและแต่งตั้งผู้สอบแข่งขันได้ครั้งแรกให้บรรจุและแต่งตั้งตามลำดับที่ในประกาศขึ้นบัญชีผู้สอบแข่งขันได้  และตามจำนวนตำแหน่งว่างที่ประกาศรับสมัคร ซึ่งคำนวณจากเกณฑ์อัตรากำลังเดิมสำหรับการบรรจุและแต่งตั้ง ในครั้งต่อไปให้บรรจุและแต่งตั้งในสถานศึกษาที่มีอัตรากำลังข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาไม่เกินเกณฑ์อัตรากำลังที่ก.ค.ศ.กำหนดใหม่ ตาม ว 23/2563

ซึ่งสำนักงานก.ค.ศ.ได้แจ้งเวียนหนังสือซักซ้อมความเข้าใจให้สพฐ. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบและถือปฏิบัติแล้วตามหนังสือสำนักงานก.ค.ศที่ ศธ. 0206.6/ว8 ลงวันที่ 12 พฤษภาคม 2564 ทั้งนี้หากท่านผู้อ่านท่านใดที่สนใจสามารถดูรายละเอียดหนังสือดังกล่าวได้ที่เว็บไซต์สำนักงานก.ค.ศ.

อัตรากำลัง สอบบบรรจุ ครูผู้ช่วย 64

ครูอัพเดตดอทคอม ขอขอบคุณที่มาของข้อมูล อัตรากำลัง บรรจุ ครูผู้ช่วย 2564 การบริหารอัตรากำลัง สอบบรรจุ ครูผู้ช่วย 64 จาก ก.ค.ศ. ค่ะ

วิธีหา เกียรติบัตร ดาวน์โหลด เกียรติบัตร สพฐ. อบรมออนไลน์OBEC 2021 Webinar

เกียรติบัตร อบรมออนไลน์ สพฐ 2564

วันนี้ ครูอัพเดตดอทคอม จึงมี วิธีหาเกียรติบัตร ดาวน์โหลด เกียรติบัตร สพฐ. อบรมออนไลน์OBEC 2021 Webinar มาฝากคุณครูนั้นเองค่ะ เพื่ออำนวยความสะดวกให้คุณครูสามารถ หาเกียรติบัตรและดาวน์โหลด เกียรติบัตร สพฐ. อบรมออนไลน์OBEC 2021 Webinar ได้อย่างง่ายดาย ไปดู วิธีหาเกียรติบัตร ดาวน์โหลด เกียรติบัตร สพฐ. อบรมออนไลน์OBEC 2021 Webinar กันเลยค่ะ

1.คุณครูเข้าไปที่เว็บไซต์ https://webinar.moe.go.th/ เพื่อทำการค้นหาและดาวน์โหลด เกียรติบัตร สพฐ. อบรมออนไลน์OBEC 2021 Webinar

ดาวน์โหลด เกียรติบัตร สพฐ. อบรมออนไลน์ 1

2.พิมพ์ชื่อ หรือ นามสกุล ที่ต้องการค้นหาจากนั้น กดที่ปุ่มค้นหา

ดาวน์โหลด เกียรติบัตร สพฐ. อบรมออนไลน์ 2

3.จากนั้นระบบจะทำการค้นหาเมื่อพบชื่อ นามสกุล ของตนเอง คุณครูทำการ เลือกดาวน์โหลด โดยคลิกที่ภาพ เครื่องพิมพ์สีฟ้า 

ดาวน์โหลด เกียรติบัตร สพฐ. อบรมออนไลน์ 3

4. ระบบจะทำการดาวน์โหลดไฟล์เก็บไว้ในเครื่อง คุณครูทำการเปิดไฟล์ โดยคลิกที่ open file

ดาวน์โหลด เกียรติบัตร สพฐ. อบรมออนไลน์ 4

 

เข้าค้นหา และ ดาวน์โหลดเกียรติบัตร คลิกที่นี่ 

 

เกียรติบัตรลงทะเบียนเมื่อไหร่

ตอบ ลงทะเบียนได้ในช่วงหลังการอบรมในแต่ละวัน โดยวิทยากรจะให้รหัสในการเข้าทำแบบทดสอบ โดย 1 วัน ช่วงเช้าและบ่าย ข้อสอบจะรวมกันในลิ้งค์เดียว ซึ่งหากกรอกลงทะเบียนสอบจะได้ใบเกียรติบัตรวันละ 1 ใบ ต้องเข้าอบรมทั้งเช้าและบ่ายจึงจะทำข้อสอบได้ และให้กดเข้าลิ้งค์การลงทะเบียนให้ถูกต้องตามภาคด้วย

ปิดรับลงทะเบียนเมื่อไหร่

ตอบ ปิดรับลงทะเบียนรับเกียรติบัตรเวลา 21.00 น. ของแต่ละวันที่อบรม

เกียรติบัตรจะได้เมื่อไหร่ ภายในวันใด

ตอบ เกียรติบัตรจะได้ในลิ้งค์ webinar.moe.go.th ให้ติดตามที่หน้าเว็ปไซต์

เกียรติบัตรถ้ากรอกลงทะเบียนไปแล้วแก้ไขได้หรือไม่

ตอบ การกรอกลงทะเบียนผู้เข้าอบรมต้องตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลให้เรียบร้อยก่อนการกด Submit Form หากกรอกผ่านโทรศัพท์มือถือให้ระวังการเว้นวรรคของการพิมพ์ เนื่องจากหากผิดพลาดจะไม่มีการแก้ไขเกียรติบัตร

ครูอัพเดตดอทคอม ขอขอบคุณที่มาของข้อมูลและภาพ วิธีหา เกียรติบัตร ดาวน์โหลด เกียรติบัตร สพฐ. อบรมออนไลน์OBEC 2021 Webinar จาก https://webinar.moe.go.th/ค่ะ

 

คอร์สเรียนออนไลน์ฟรี ภาษาเกาหลี มีเกียรติบัตร จากม.สงขลานครินทร์

0

คอร์สเรียนออนไลน์ฟรี ภาษาเกาหลี มีเกียรติบัตร จากม.สงขลานครินทร์

คอร์สเรียนออนไลน์ฟรี ภาษาเกาหลี มีเกียรติบัตร จากม.สงขลานครินทร์ คำอธิบายรายวิชา

การฝึกทักษะทั้ง 4 ด้าน คือ การฟัง การพูด การอ่าน การเขียน และฝึกสร้าง ประโยคพื้นฐานภาษาเกาหลีที่ใช้ในชีวิตประจำวัน

วัตถุประสงค์การเรียนรู้

1. ผู้เรียนสามารถแปลคำศัพท์และอธิบายหลักการใช้ไวยากรณ์ ภาษาเกาหลีพื้นฐานได้

2. ผู้เรียนใช้คำศัพท์และไวยากรณ์แต่งประโยคภาษาเกาหลีพื้นฐานได้

3. ผู้เรียนสามารถสื่อสารภาษาเกาหลีพื้นฐานในชีวิตประจำวันได้

จำนวนชั่วโมงการเรียนรู้

จำนวนชั่วโมงการเรียนรู้ทั้งหมด 10 ชั่วโมงการเรียนรู้ จำนวนชั่วโมงสื่อทั้งหมด 5 ชั่วโมง 46 นาที

คุณสมบัติของผู้เรียน

นักเรียน นักศึกษาและประชาชนทั่วไป ทุกเพศ ทุกวัย ที่สนใจเรียนภาษาเกาหลี และยังไม่มีพื้นฐานภาษาเกาหลี

เกณฑ์การวัดผล

วัดจากการทำแบบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังสิ้นสุดการเรียนการสอนและ การตัดสินให้ผ่าน (Pass) และการให้ประกาศนียบัตร (Certificate) เมื่อผู้เรียนได้ คะแนนรวมทั้งหมด ตั้งแต่ร้อยละ 70 ขึ้นไป

ลงทะเบียนเรียนออนไลน์ คลิกที่นี่

ครูอัพเดตดอทคอม ขอขอบคุณคอร์สเรียนออนไลน์ฟรี ภาษาเกาหลี มีเกียรติบัตร จากม.สงขลานครินทร์ จาก ม.สงขลานครินทร์