ออมสินออกมาตรการ ผ่อนปรนเงื่อนไขการชำระหนี้ สำหรับสินเชื่อครูและบุคลากรทางการศึกษา

0

ออมสินออกมาตรการ ผ่อนปรนเงื่อนไขการชำระหนี้ สำหรับสินเชื่อครูและบุคลากรทางการศึกษา

ออมสินออกมาตรการ ผ่อนปรนเงื่อนไขการชำระหนี้ สำหรับสินเชื่อครูและบุคลากรทางการศึกษา สวัสดีครับคุณครูและท่านผู้อ่านทุกท่าน วันนี้ครูอัพเดตดอทคอม มีข่าวดีเกี่ยวกับมาตรการผ่อนปรนเงื่อนไขการชำระหนี้ สำหรับสินเชื่อครูและบุคลากรทางการศึกษา มาฝากคุณครูและท่านผู้อ่านทุกท่านครับ

เรื่อง ขอความอนุเคราะห์แจ้งข้าราชการ/ลูกจ้าง/ข้าราชการบำนาญ/ครูโรงเรียนเอกชนเข้าร่วมมาตรการผ่อนปรนเงื่อนไขการชำระหนี้สำหรับสินเชื่อครูและบุคลากรทางการศึกษา

เรียน เลขาธิการคณะกรรมการ สกสค.

อ้างถึง 1. บันทึกข้อตกลงเพื่อการแก้ไขปัญหาหนี้สินข้าราชการครูตามโครงการสินเชื่อเพื่อพัฒนาคุณภาพ
ชีวิตครู ระหว่าง กระทรวงศึกษาธิการ กับ ธนาคารออมสิน ลงวันที่ 23 พฤศจิกายน 2542

2. บันทึกข้อตกลงโครงการสวัสดิการเงินกู้แก่สมาชิก ช.พ.ค. ระหว่าง สำนักงานคณะกรรมการ สกสค. กับ ธนาคารออมสิน ลงวันที่ 9 กันยายน 2548

3. บันทึกข้อตกลงการพัฒนาชีวิตครูสำหรับครูที่ได้รับเงินวิทยฐานะ ระหว่าง กระทรวงศึกษาธิการ กับ ธนาคารออมสิน ลงวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2550

4. บันทึกข้อตกลงโครงการสวัสดิการเงินกู้สมาชิก ช.พ.ค. โครงการ 4 ระหว่าง สำนักงานคณะกรรมการ สกสค. กับ ธนาคารออมสิน ลงวันที่ 29 มกราคม 2551

5. บันทึกข้อตกลงโครงการสวัสดิการเงินกู้สมาชิก ช.พ.ค. โครงการ 5 ระหว่าง สำนักงานคณะกรรมการ สกสค. กับ ธนาคารออมสิน ลงวันที่ 25 พฤษภาคม 2552

6. บันทึกข้อตกลงโครงการสวัสดิการเงินกู้ ช.พ.ค. ระหว่าง สำนักงานคณะกรรมการ สกสค. กับ ธนาคารออมสิน ลงวันที่ 5 สิงหาคม 2553

สิ่งที่ส่งมาด้วย ผลการดำเนินงานสินเชื่อครูและบุคลากรทางการศึกษา จำนวน 1 ฉบับ

ตามบันทึกข้อตกลงที่อ้างถึง 1. – 6. กระทรวงศึกษาธิการ และสำนักงานคณะกรรมการ สกสค. ซึ่งเป็นหน่วยงานในกำกับกระทรวงศึกษาธิการได้จัดทำบันทึกข้อตกลงร่วมกับธนาคารออมสินเพื่อดำเนินโครงการสินเชื่อเพื่อพัฒนาชีวิตครู สินเชื่อวิทยฐานะเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้สิน และโครงการสวัสดิการเงินกู้ ช.พ.ค. สำหรับเป็นแหล่งเงินกู้อัตราดอกเบี้ยที่เหมาะสม ให้กับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อแก้ไขปัญหาหนี้สินอย่างเบ็ดเสร็จ โดยกรณีมีหนี้ค้างชำระเกิดขึ้น หรือมีปัญหาใดๆ ในการปฏิบัติตามโครงการข้างต้น ทั้งสองหน่วยงานจะร่วมกันพิจารณาเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวโดยเร็วที่สุด นั้น

ธนาคารออมสิน ขอเรียนว่า ผลการดำเนินงาน ณ วันที่ 7 พฤษภาคม 2564 พบว่า ข้าราชการบำนาญที่สังกัดกระทรวงศึกษา และข้าราชการ/ลูกจ้าง/ที่สังกัดหน่วยงานอื่น รวมถึงครูโรงเรียนเอกชนกู้เงินสินเชื่อในโครงการดังกล่าวเป็นจำนวนทั้งสิ้น 404,340 บัญชี เงินต้นคงเหลือรวม 354,439.39 ล้านบาท รายละเอียดตามสิ่งที่ส่งมาด้วย

จากสถานการณ์ปัจจุบันพบว่า ข้าราชการ/ลูกจ้าง/ข้าราชการบำนาญ/ครูโรงเรียนเอกชนตามข้างตันไม่สามารถหักเงินดือน หรือ ชำระหนี้ได้ตามเงื่อนไข โดยค้างชำระ 1 – 90 วัน จำนวน 46,420 บัญชี เงินตันคงเหลือ 59,999.21 ล้านบาท และค้างชำระเกิน 90 วัน (NPLs) จำนวน 12,738 บัญชี เงินต้นคงเหลือ 12,283.37 ล้านบาท รวมจำนวนหนี้ค้างชำระทั้งสิ้น จำนวน 76,158 บัญชี เงินต้นคงเหลือ 72,282.58 ล้านบาท โดยสาเหตุส่วนหนึ่งเกิดจากศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาให้หักเงินเดือนหรือเงินบำเหน็จบำนาญสุทธิ หลังจากหักชำระหนี้แล้วคงเหลือไม่น้อยกว่าร้อยละ 30 ตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการหักเงินเดือนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ เพื่อชำระหนี้เงินกู้ให้แก่สวัสดิการภายในส่วนราชการและสหกรณ์ พ.ศ. 2551 อีกทั้งผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ซึ่งส่งผลต่อการดำเนินชีวิตของประชาชนและเศรษฐกิจโดยรวม

ในการนี้ เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาผิดนัดชำระหนี้จนส่งผลกระทบต่อสถานะของลูกหนี้ จนเป็นหตุให้ต้องถูกดำเนินคดี บังคับคดี ในคดีแพ่งและคดีล้มละลาย ธนาคารออมสินจึงเรียนมาเพื่อขอความอนุเคราะห์ท่านแจ้งผู้อำนวยการสำนักงาน สกสค.จังหวัด แจ้งข้าราชการ/ลูกจ้าง/ข้าราชการบำนาญ ครูโรงเรียนเอกชนเข้าร่วมมาตรการผ่อนปรนเงื่อนไขการชำระหนี้สำหรับสินเชื่อครูและบุคลากรทางการศึกษา ที่ธนาคารออมสินสาขาที่ใช้บริการ หรือลงทะเบียนทาง QR Code ที่ปรากฏด้านล่างนี้ ภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2564 เพื่อป้องกันไม่ให้ครูและบุคลากรทางการศึกษาที่มีหนี้ค้างชำระถูกดำเนินคดี

จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณา ธนาคารหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับความอนุเคราะห์จากสำนักงานคณะกรรมการ สกสค. ด้วยดี และขอขอบคุณมา ณ โอกาสนี้

ขอแสดงความนับถือ
(นายวิทัย รัตนากร)
ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน

ฝ่ายบริหารผลิตภัณฑ์ การตลาด และพัฒนาลูกค้าบุคลากรภาครัฐ 1
โทร. 0 2299 8580
โทรสาร 0 2279 0086

คลิกกรอกข้อมูลตรวจสอบได้ที่

ออมสินออกมาตรการ ผ่อนปรนเงื่อนไขการชำระหนี้ สำหรับสินเชื่อครูและบุคลากรทางการศึกษา

ออมสินออกมาตรการ ผ่อนปรนเงื่อนไขการชำระหนี้ สำหรับสินเชื่อครูและบุคลากรทางการศึกษา

ครูอัพเดตดอทคอม ขอขอบคุณข้อมูลจาก ธนาคารออมสิน  เพจ ดารารัตน์ เกิดผล

คุรุสภา ประกาศผลการคัดสรรรางวัล “หนึ่งโรงเรียน หนึ่งนวัตกรรม” ประจำปี 2564 “ระดับภูมิภาค”

0

คุรุสภา ประกาศผลการคัดสรรรางวัล “หนึ่งโรงเรียน หนึ่งนวัตกรรม” ประจำปี 2564 “ระดับภูมิภาค”

คุรุสภา ประกาศผลการคัดสรร รางวัล “หนึ่งโรงเรียน หนึ่งนวัตกรรม” ประจำปี 2564 “ระดับภูมิภาค” ตามที่สำนักงานเลขาธิการคุรุสภาได้ประชาสัมพันธ์เชิญชวนให้สถานศึกษาส่งผลงานเข้าร่วมคัดสรรรางวัล “หนึ่งโรงเรียน หนึ่งนวัตกรรม” ประจำปี 2564 นั้น บัดนี้การคัดสรรรางวัล “หนึ่งโรงเรียน  หนึ่งนวัตกรรม” ประจำปี 2564 “ระดับภูมิภาค” ได้เสร็จสิ้นแล้ว

สำนักงานเลขาธิการคุรุสภาขอประกาศผลการคัดสรรรางวัล “หนึ่งโรงเรียน หนึ่งนวัตกรรม” ประจำปี 2564 “ระดับภูมิภาค” ประกอบด้วย รางวัล “ระดับเหรียญทอง” จำนวน 93 ผลงาน “ระดับเหรียญเงิน” จำนวน 245 ผลงาน และ “ระดับเหรียญทองแดง” จำนวน 194 ผลงาน

ทั้งนี้ สถานศึกษาที่ได้รับรางวัล “ระดับเหรียญทอง” ตามรายชื่อข้างต้น สำนักงานเลขาธิการคุรุสภาจะแจ้งรายละเอียด และวิธีการในการนำเสนอผลงาน เพื่อเข้ารับการคัดสรรรางวัลระดับประเทศต่อไป
หากมีผู้ประสงค์จะคัดค้านการประกาศรายชื่อตามประกาศข้างต้น ให้ยื่นคำคัดค้านต่อสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา โดยจัดทำเป็นหนังสือระบุเหตุผลการคัดค้านให้ชัดเจน ภายใน 10 วันทำการ นับตั้งแต่วันที่ประกาศ

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.ksp.or.th/ksp2018/2021/05/31121/

ครูอัพเดตดอทคอม ขอขอบคุณข้อมูล คุรุสภา ประกาศผลการคัดสรร รางวัล “หนึ่งโรงเรียน หนึ่งนวัตกรรม” ประจำปี 2564 “ระดับภูมิภาค” จาก คุรุสภา

 

ศธ.ออกประกาศ แนวปฏิบัติการเก็บค่าเทอม ลดภาระผู้ปกครอง

0

ศธ.ออกประกาศ แนวปฏิบัติการเก็บค่าเทอม ลดภาระผู้ปกครอง

ศธ.ออกประกาศ แนวปฏิบัติการเก็บค่าเทอมลดภาระผู้ปกครอง คุณครูและท่านผู้อ่านทุกท่าน วันนี้ครูอัพเดตดอทคอม มีข่าวสารเกี่ยวกับแนวปฏิบัติการเก็บเงินบำรุงการศึกษา ค่าธรรมเนียมการศึกษา ค่าธรรมเนียมการเรียน และค่าธรรมเนียมอื่น มาฝากคุณครูและท่านผู้อ่านทุกท่านครับ

น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) เปิดเผยว่า ตามที่มีผู้ปกครองร้องเรียนเรื่องการเก็บเงินบำรุงการศึกษา ค่าธรรมเนียมการศึกษา ค่าธรรมเนียมการเรียน และค่าธรรมเนียมอื่น ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564 ของสถานศึกษา เข้ามาที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) จำนวนมาก นั้น ตนได้รับทราบปัญหาและมีนโยบายให้ต้นสังกัดของโรงเรียนและสถานศึกษาในสังกัดและในกำกับของ ศธ.ไปดำเนินการแก้ไขปัญหา และเมื่อวันที่ 27 พ.ค.ที่ผ่านมาตนก็ได้ลงนามในประกาศ ศธ. เรื่อง แนวปฏิบัติการเก็บเงินบำรุงการศึกษา ค่าธรรมเนียมการศึกษา ค่าธรรมเนียมการเรียน และค่าธรรมเนียมอื่นไปแล้ว

รมว.ศธ. กล่าวอีกว่า ในประกาศดังกล่าวระบุ ว่า อนุสนธิประกาศ ศธ. เรื่อง การเลื่อนเวลาเปิดภาคเรียนที่ 1 ประจำปีการศึกษา 2564 ลงวันที่ 19 พฤษภาคม 2564 เนื่องมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) และให้โรงเรียนหรือสถานศึกษาในสังกัดและในกำกับของ ศธ.จัดการเรียนการสอนเฉพาะรูปแบบการจัดการศึกษาทางไกล โดยบางโรงเรียนหรือสถานศึกษาที่มีความพร้อมและประสงค์จะจัดการศึกษาในรูปแบบ On Site หรือ เรียนที่โรงเรียน ได้จะต้องผ่านเกณฑ์การประเมินความพร้อมของระบบ Thai StopCOVID Plus (TSC+) และได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดก่อน นั้น ด้วยรูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนดังกล่าว ประกอบกับมีโรงเรียนหรือสถานศึกษาบางแห่งได้มีการเรียกเก็บเงินบำรุงการศึกษา ค่าธรรมเนียมการศึกษา ค่าธรรมเนียมการเรียน และค่าธรรมเนียมอื่นจากผู้ปกครอง ดังนั้น เพื่อเป็นการลดภาระค่าใช้จ่ายและบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ปกครองในสถานการณ์ปัจจุบัน ศธ.กำหนดแนวปฏิบัติการเก็บเงินบำรุงการศึกษา ค่าธรรมเนียมการศึกษา ค่าธรรมเนียมการเรียน และค่าธรรมเนียมอื่น ให้โรงเรียนหรือสถานศึกษาในสังกัดหรือในกำกับของ ศธ.ถือปฏิบัติ

น.ส.ตรีนุช กล่าวต่อไปว่า สำหรับแนวปฏิบัติการเก็บเงินบำรุงการศึกษา ค่าธรรมเนียมการศึกษา ค่าธรรมเนียมการเรียน และค่าธรรมเนียมอื่น ที่ให้โรงเรียนหรือสถานศึกษาในสังกัดหรือในกำกับของ ศธ. ถือปฏิบัติ มีดังนี้ 1. ในกรณีที่ได้มีการเรียกเก็บเงินบำรุงการศึกษา ค่าธรรมเนียมการศึกษา ค่าธรรมเนียม การเรียน และค่าธรรมเนียมอื่นไปแล้ว ให้คืนเงินบำรุงการศึกษาหรือค่าธรรมเนียมดังกล่าว ในส่วนที่ไม่ได้ จัดกิจกรรมการเรียนการสอนนั้นในระหว่างที่เกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 , 2. ในกรณีที่มีความจำเป็นต้องเรียกเก็บเงินบำรุงการศึกษา ค่าธรรมเนียมการศึกษาค่าธรรมเนียมการเรียน และค่าธรรมเนียมอื่น เพื่อใช้จ่ายในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน อาจพิจารณาผ่อนผันหรือขยายระยะเวลาการเรียกเก็บเงินบำรุงการศึกษา หรือ ค่าธรรมเนียมดังกล่าวตามความเหมาะสมเป็นกรณีไป 3. พิจารณาให้ความช่วยเหลือในกรณีที่ผู้ปกครองของนักเรียน นักศึกษา ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าวตามความจำเป็นเหมาะสม และ 4.ให้หน่วยงานต้นสังกัดหรือที่กำกับโรงเรียนหรือสถานศึกษา แจ้งเวียนไปยังสถานศึกษาในสังกัด หรือ ในกำกับให้ปฏิบัติตามประกาศนี้ ทั้งนี้ ตั้งแต่ปีการศึกษา 2564 เป็นต้นไปจนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น.

ศธ.ออกประกาศ แนวปฏิบัติการเก็บค่าเทอม ลดภาระผู้ปกครอง

ครูอัพเดตดอทคอม ขอขอบคุณข้อมูลจาก At HeaR

เลื่อนการจัดงาน ศิลปหัตถกรรมนักเรียน ระดับชาติ ครั้งที่ 70 ปีการศึกษา 2564

 

เลื่อนการจัดงานศิลปหัตถกรรมนักเรียน ระดับชาติ ครั้งที่ 70 ปีการศึกษา 2564

เลื่อนการจัดงาน ศิลปหัตถกรรมนักเรียน ระดับชาติ ครั้งที่ 70 ปีการศึกษา 2564  สวัสดีครับ คุณครูและท่านผู้อ่านทุกท่าน วันนี้ครูอัพเดตดอทคอม มีข่าวสารเกี่ยวกับงานศิลปหัตถกรรมนักเรียน ระดับชาติ ครั้งที่ 70 ปีการศึกษา 2564 มาฝากคุณครูและท่านผู้อ่านทุกท่านครับ

หนังสือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ด่วนที่สุด ที่ ศธ 04188/ว241 ลงวันที่ 31 พฤษภาคม 2564

เรื่อง เลื่อนการจัดงาน ศิลปหัตถกรรมนักเรียน ระดับชาติ ครั้งที่ 70 ปีการศึกษา 2564

เรียน ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทุกเขต

ตามที่ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานได้ดำเนินการจัดงานศิลปหัตถกรรมนักเรียนมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อสืบสานพระราชปณิธานพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ที่มุ่งหวังให้เยาวชนไทยหันมาเอาใจใส่ในการเรียนวิชาชีพ ฝึกฝนทักษะฝีมือตนเองให้มีความเป็นเลิศ และรอบรู้ในวิชาชีพที่ตนเองถนัด เป็นเวทีให้นักเรียนได้แสดงออกถึงความรู้ความสามารถ ได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ มีทักษะ และเผยแพร่ผลงานด้านการจัดการศึกษาสู่สายตาสาธารณชน นั้น

สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ขอเรียนว่าในปี 2564 สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVD-19) รอบที่ 3 ยังคงมีการแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง โดยมียอดผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นในหลายพื้นที่ การจัดงานศิลปหัตถกรรมนักเรียนเป็นการรวมกลุ่มของคนจำนวนมาก มีความเสี่ยงสูงในสถานการณ์ดังกล่าว และมีการเลื่อนเปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564 ส่งผลให้การจัดการเรียนการสอนจำนวนชั่วโมงเท่าเติม แต่ครูต้องสอนให้ได้ครบตามหลักสูตรในระยะเวลาที่จำกัด ซึ่งนโยบายกระทรวงศึกษาธิการมุ่งเน้นให้จัดการเรียนการสอนอย่างเต็มประสิทธิภาพ จึงขอแจ้งการดำเนินการจัดงานศิลปหัตถกรรมนักเรียน ระดับชาติ ครั้งที่ 70 ปีการศึกษา 2564 ดังนี้

1. เลื่อนการจัดงาน ศิลปหัตถกรรมนักเรียน ระดับชาติ ครั้งที่ 70 ปีการศึกษา 2564 ออกไปอีก 1 รอบปี จากเดือนธันวาคม 2564 ไปเป็นเดือนธันวาคม 2565 หรือจนกว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVD-19) จะดีขึ้น

2. การจัดงานศิลปหัตถกรรมนักเรียน ระดับชาติ ครั้งที่ 70 ปีการศึกษา 2565 เจ้าภาพการจัดงานระดับชาติเป็นจังหวัดเดิม คือ จังหวัดร้อยเอ็ด ราชบุรี น่าน และ สตูล

3. รูปแบบการจัดงานและกิจกรรมการแข่งขันคงเดิม

จึงเรียนมาเพื่อทราบ และดำเนินการแจ้งสถานศึกษาในสังกัด
ขอแสดงความนับถือ
(นายอัมพร พินะสา)
เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน

สำนักพัฒนากิจกรรมนักเรียน
โทร. 0 2288 5572
อีเมล [email protected]

เลื่อนการจัดงานศิลปหัตถกรรมนักเรียน ระดับชาติ ครั้งที่ 70 ปีการศึกษา 2564

ครูอัพเดตดอทคอม ขอขอบคุณข้อมูลจาก สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน

ซื้อประกันชีวิต 6 เรื่องควรทำความเข้าใจ ก่อนซื้อประกันชีวิต

0

ซื้อประกันชีวิต 6 เรื่องควรทำความเข้าใจก่อนซื้อประกันชีวิต

การซื้อประกันชีวิตไม่ใช่เพียงแค่ส่งผลประโยชน์ในเรื่องของการลดหย่อนภาษีเท่านั้น แต่ยังให้ประโยชน์ได้หลากหลายด้าน ทั้งแผนการคุ้มครองที่จะทำให้คุณสามารถดำเนินชีวิตได้อย่างมั่นใจมากขึ้น เป็นการเตรียมความพร้อมเพื่อทำให้คุณสามารถวางแผนการเงินได้อย่างถูกต้อง และเป็นตัวช่วยในสถานการณ์ฉุกเฉินต่าง ๆ เกี่ยวกับสุขภาพ ที่จะไม่ทำให้คุณต้องรู้สึกกังวลใจเรื่องของสุขภาพในอนาคตอีกด้วย

ก่อนทำประกันชีวิต คุณควรต้องรู้อะไรบ้าง มาดูรายละเอียดได้ที่นี่!

แม้ว่าการทำประกันชีวิตจะมีประโยชน์ต่อใครหลาย ๆ คน แต่ก่อนที่คุณจะเลือกแผนประกันชีวิตที่เหมาะสมต่อตัวคุณ มีเรื่องที่ควรรู้ 6 ข้อต่อไปนี้ เพื่อทำให้คุณซื้อประกันชีวิตได้คุ้มค่าที่สุด คือ

1.ความต้องการแท้จริง

สำรวจความต้องการของคุณดูก่อนว่าการซื้อประกันในครั้งนี้ คุณต้องการแบบใด? ถ้าคุณต้องการประกันด้านสุขภาพ ควรศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับแผนการคุ้มครองเรื่องสุขภาพในทุกรูปแบบที่คุณสนใจ เช่น ประกันสุขภาพคนวัยทำงาน, ประกันสุขภาพโรคร้าย และประกันสุขภาพในด้านต่าง ที่จะมีการพ่วงประกัน Covid เข้ามาด้วย เป็นต้น หรือถ้าคุณเป็นคนทำงานที่ต้องใช้ยานพาหนะทุกวันควรศึกษาประกันอุบัติเหตุร่วมด้วย ซึ่งคุณต้องเข้าใจก่อนว่าประกันชีวิตนั้นมีอยู่ด้วยกันหลายประเภท ดังนั้นต้องถามตัวเองให้ได้ก่อนว่าจุดมุ่งหมายในการซื้อประกันของตัวคุณคืออะไร? เมื่อรู้ชัดเจนแล้วจึงจะสามารถมาต่อยอดสู่การมองหาประกันที่ดีที่สุดของตัวคุณเองได้แน่นอน

2.ประเมินการส่งเบี้ยประกัน

การส่งเบี้ยประกันนั้นจะมีทั้งแบบรายเดือนและรายปี ซึ่งมูลค่าการส่งจะขึ้นอยู่กับแผนประกันภัยที่คุณเลือกไว้ ต่ำสุดจะเป็นหลักร้อยบาทต่อเดือนและอาจจะสูงถึงหลักหมื่นบาทต่อเดือน ดังนั้นก่อนซื้อคุณต้องประเมินว่าความคุ้มค่าที่คุณจะได้รับจากประกันมีมากน้อยแค่ไหน? แล้วการส่งเบี้ยประกันในแต่ละเดือนหรือแต่ละปีคุณจะมีความสามารถส่งไปได้ตลอดระยะเวลาของสัญญาประกันหรือไม่? เพราะการส่งประกันเพื่อรับเงินในช่วงบั้นปลายนั้นจะใช้เวลาค่อนข้างนาน ถ้าเกิดเหตุไม่คาดคิดขึ้นจนทำให้คุณไม่สามารถส่งเบี้ยประกันได้ตามปกติ ก็อาจจะก่อให้เกิดปัญหาเงินสูญเปล่าที่จะทำให้คุณต้องรู้สึกเสียดายทั้งเงินที่ส่งและความคุ้มครองที่คุณจะได้รับอีกด้วย

3.เลือกแผนที่ตรงใจมากที่สุด

ก่อนซื้อประกันคุณควรศึกษาเรื่องแผนประกันภัยให้ดีก่อน ควรเลือกทุนประกันที่มีความครอบคลุมสูงและใช้ระยะเวลาในการส่งเบี้ยที่ไม่นานจนเกินไป อยู่ในจุดที่คุณมองว่าเหมาะสมต่อการส่งเบี้ยประกันของคุณ ทำให้คุณจ่ายได้อย่างไม่ต้องกังวลมากนัก พร้อมการเลือกแผนคุ้มครองกับวงเงินที่คุณคิดว่าคุ้มค่ามากที่สุด ถ้าคุณต้องการประกันชีวิต ควรเลือกแผนที่คุ้มครองโรคภัยต่าง รวมถึงโรคร้ายที่คุณรู้สึกกังวลใจ ทั้งนี้ควรเป็นประกันที่รวมทั้งค่าการรักษา, ค่าห้อง, ค่าหัตถการ, ค่าอุปกรณ์ทางการแพทย์, ค่าตรวจรายวัน และค่าต่าง ที่เกี่ยวกับการรักษาอย่างครอบคลุม เพื่อทำให้คุณรู้สึกมั่นใจต่อการซื้อประกันมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ถ้าคุณต้องการความคุ้มค่า อาจจะดูรายละเอียดของเรื่องค่าชดเชยรายวันที่จะต้องเสียไปจากการรักษาตัวเพิ่มได้อีกด้วย

4.ปฏิบัติตามเงื่อนไขเสมอ

ศึกษาเรื่องของเงื่อนไขต่าง ภายในประกันชีวิตที่คุณสนใจให้ดี แต่ถ้าไม่เข้าใจควรติดต่อสอบถามกับทางตัวแทนหรือทางบริษัทโดยตรง เพราะเมื่อทำประกันแล้วคุณจะต้องทำให้ตรงตามเงื่อนไข ไม่เช่นนั้นเงินประกันของคุณอาจสูญเปล่าได้

5.เลือกตัวแทนที่น่าเชื่อถือ

ตัวแทนคือคนสำคัญสำหรับการซื้อประกัน ดังนั้นจึงควรเลือกผู้ที่มีความน่าเชื่อถือการันตีได้จากบริษัทประกันว่าเป็นตัวแทนจริงโดยตรงของทางบริษัท มีใบอนุญาตหรือใบรับรองอย่างถูกต้อง สามารถตรวจสอบได้ เพื่อทำให้การส่งเบี้ยประกันของคุณในทุก เดือนเป็นไปอย่างมั่นใจ

6.ความมั่นคงของบริษัทประกัน

หนึ่งในเรื่องที่คุณควรทำก่อนการเลือกซื้อประกัน คือ การตรวจสอบความมั่นคงของบริษัทประกันภัยนั้ ที่คุณสนใจอยู่ ซึ่งคุณสามารถติดต่อไปทาง คปภ.หรือ สำนักคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย ที่จะมีแนะนำ ในเรื่องของกฎหมายเกี่ยวกับบริษัทประกันภัยและการตรวจสอบสถานประกอบการ ที่จะทำให้คุณสามารถตรวจสอบได้ว่าบริษัทที่คุณสนใจจดทะเบียนมาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และมีปัญหาใดเกิดขึ้นกับผู้ที่เอาประกันมาก่อนหน้านี้หรือไม่?  จึงจะช่วยทำให้คุณสามารถซื้อประกันได้อย่างสบายใจกว่าเดิม

ถ้าคุณต้องการเลือกซื้อประกันชีวิตที่เหมาะสมต่อแผนในชีวิตของคุณ ขอแนะนำการ ซื้อประกันชีวิต 6 เรื่องควรทำความเข้าใจ ก่อนซื้อประกันชีวิต ก่อนซื้อประกันนี้ เพื่อทำให้การซื้อประกันของคุณเป็นไปอย่างคุ้มค่าและไว้วางใจได้ไปจนจบแผนประกันอีกด้วย

บทความโดย ครูอัพเดตดอทคม

เงินกู้ ช.พ.ค. หวั่นมีเงื่อนงำ !!! จ่อร้อง “ตรีนุช” ตรวจสอบประกันเงินกู้ ช.พ.ค.

0

เงินกู้ ช.พ.ค. หวั่นมีเงื่อนงำ !!! จ่อร้อง “ตรีนุช” ตรวจสอบประกันเงินกู้ ช.พ.ค.

เมื่อวันที่ 28 พ.ค. นายสานิตย์ พลศรี นายกสมาคมครูชนบทจังหวัดชัยภูมิ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (ผอ.สกสค.) จังหวัดชัยภูมิ 4 เปิดเผยว่า ขณะนี้สมาชิกโครงการสวัสดิการเงินกู้สมาชิกการฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเหลือเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา (ช.พ.ค.) 5-7 จำนวนมากรู้สึกสงสัยถึงการทำหน้าที่ของสำนักงาน สกสค.ในการจัดหาบริษัทประกันเงินกู้ ช.พ.ค. 5-7 ให้กับสมาชิกครูและบุคลากรทางการศึกษา เนื่องจากมีเงื่อนงำไม่ชอบมาพากลอะไรหรือไม่ เพราะมีประเด็นสงสัยว่า ก่อนหน้าที่นายธนพร สมศรี จะได้รับเลือกว่าจ้างเป็นเลขาธิการ สกสค. เมื่อช่วงเดือนก.ย.2563 มีกระแสข่าวกล่าวหาว่าสำนักงาน สกสค.ได้อนุมัติให้ปรับขึ้นอัตราเบี้ยประกันเงินกู้ ช.พ.ค.สูงขึ้น ขณะเดียวกันก็มีกระแสข่าวสำนักงาน สกสค.ได้แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาพิจารณาหาบริษัทประกันเงินกู้ช.พ.ค. 2-3 คณะ แต่เรื่องก็เงียบหายไป

“กระทั่งเมื่อวันที่ 11 พ.ย.2563 นายธนพรให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า สำนักงาน สกสค.จะใช้ 2 บริษัทประกันชีวิต โดยเปิดช่องให้สมาชิกครูฯผู้กู้เงินโครงการ ช.พ.ค.5-7 เลือกบริษัทประกัน 1 ใน 2 บริษัทนี้ได้ โดยนายธนพรได้ระบุว่าสำนักงาน สกสค.สู้จนสามารถให้ครูเลือกบริษัทประกันได้ พร้อมกับเปลี่ยนจากการทำประกันวินาศภัยเป็นการทำประกันชีวิตแทน โดยจะมีบริษัทประกันให้ครูเลือกทำ 2 บริษัท คือ บริษัททิพยประกันชีวิต ซึ่งเป็นของธนาคารออมสินเป็นตัวหลัก และบริษัทที่สำนักงาน สกสค.เลือกคือ บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เป็น 2 บริษัทที่ได้รับเลือกให้ความคุ้มครองการประกันสินเชื่อให้แก่สมาชิกครูฯผู้กู้เงิน” อดีต ผอ.สกสค.จังหวัดชัยภูมิ กล่าว

นายสานิตย์ กล่าวอีกว่า จากแนวทางการจัดหาบริษัทประกันเงินกู้ ช.พ.ค.ของสำนัก สกสค.ดังกล่าว สมาชิกครูฯผู้กู้จำนวนมากแจ้งมายังตนว่าแทบไม่ทราบเรื่อง แม้แต่ตนเองซึ่งเป็นอดีต ผอ.สกสค.จังหวัด ก็ยังไม่ทราบเรื่องเช่นกัน อย่างไรก็ตามจากแนวทางดังกล่าวชี้ให้เห็นว่าสำนักงาน สกสค.อาจจะไม่ได้คำนึงถึงผลประโยชน์ของสมาชิกครูฯผู้กู้หรือไม่ และอาจจะมีเงื่อนงำความไม่โปร่งใสอะไรหรือไม่ ทำไมสำนักงาน สกสค.จึงไม่จัดประมูลโดยเปิดโอกาสให้บริษัทประกันที่มั่นคง

ซึ่งมีจำนวนมาก ได้เข้ามาร่วมแข่งขันให้อัตราเบี้ยประกันราคาถูกที่สุดแก่ผู้กู้ ซึ่งเป็นแนวทางที่หลายฝ่ายเสนอมาตลอด 1-2 ปีที่ผ่านมาก แต่สำนักงาน สกสค.กลับมาใช้สิทธิ์อะไรเลือกกันเอง โดยไม่สอบถามความต้องการของสมาชิกครูฯผู้กู้ ดังนั้น ตนจะทำหนังสือร้องเรียนถึง น.ส.ตรีนุช ให้สั่งการตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้.

ครูอัพเดตดอทคอม ขอขอบคุณข้อมูลเงินกู้ ช.พ.ค. หวั่นมีเงื่อนงำ !!! จ่อร้อง “ตรีนุช” ตรวจสอบประกันเงินกู้ ช.พ.ค.จาก At_HeaR

ประกันโควิด ซื้อประกันCovid แบบไหนคุ้มสุด? ที่นี่มีคำตอบ

0

ประกันโควิด ซื้อประกันCovid แบบไหนคุ้มสุด? ที่นี่มีคำตอบ

การซื้อประกัน Covid จะเป็นหนึ่งในตัวช่วยที่ทำให้คุณมั่นใจต่อการรักษาโรคมากขึ้น ไม่ต้องกังวลว่าจะจ่ายเงินสูงมากจนอาจรักษาต่อไม่ไหว เพราะวงเงินในประกันให้สูงตั้งแต่หลักแสนไปจนถึงหลักล้านบาท พร้อมการจ่ายค่าเสียรายได้เพิ่มเติมให้ แต่ทั้งนี้การเลือกประกัน Covid จำเป็นอย่างมากที่จะต้องเลือกให้ดี ควรศึกษาให้เข้าใจมากที่สุด เพื่อป้องกันปัญหาต่าง ๆ  ที่อาจเกิดจากความเข้าใจคลาดเคลื่อน จนกลายเป็นความเสียหายของทั้ง 2 ฝ่าย

อยากซื้อประกันCovid! แต่ต้องซื้ออย่างไรจึงจะคุ้มค่าที่สุด

ยุคการระบาดของ Covid-19 มีบริษัทประกันชีวิตหลายรายได้ออกการคุ้มครองประกัน Covid ที่จะมีรายละเอียดแตกต่างกัน ดังนั้นจึงขอแนะนำมือใหม่ที่ยังไม่เคยซื้อประกัน Covid มาก่อน ควรจะซื้ออย่างไร? พิจารณารายละเอียดตรงไหนบ้าง? จึงจะให้ความคุ้มค่าสูงสุด ดังนี้

1.คุ้มครองตามความต้องการ

เริ่มต้นจากการสำรวจความต้องการของคุณก่อน วิธีการรับความคุ้มครองแบบที่คุณต้องการนั้นเป็นอย่างไร? เพราะประกัน Covid จะถูกแบ่งออกเป็นหลายรูปแบบเช่น ประกันด้านค่ารักษาพยาบาล, ประกันด้านตรวจเจอแล้วจ่ายทันที กับประกันชดเชยรายได้เมื่อต้องหยุดงาน ถ้าคุณมีทุนพอที่จะสามารถดูแลตัวเองในช่วงที่จะต้องพักรักษาตัวได้ คุณอาจจะเลือกเป็นประกันค่ารักษาพยาบาลเพียงอย่างเดียวแต่ถ้าต้องการเงินก้อนสามารถเลือกประกันแบบเจอจ่ายจบในครั้งเดียว และถ้าต้องมีค่ารักษาพยาบาลเพียงพอ ให้เลือกประกัน covid ที่จ่ายเรื่องค่าชดเชยรายได้เพียงเท่านี้คุณก็จะรู้ว่า ความต้องการซื้อประกันของตัวเองจะเป็นในด้านใด และจะสามารถค้นหารายละเอียดที่ตรงใจคุณง่ายมากขึ้น

2.มีความครอบคลุม

เมื่อคุณรู้แล้วว่าต้องการซื้อประกัน Covid ในรูปแบบใด ให้ดูความครอบคลุมของประกันนั้ เช่น ถ้าคุณต้องการประกันที่สามารถจ่ายในเรื่องค่ารักษาพยาบาลได้คุณจะต้องรู้รายละเอียดเพิ่มเติม เช่น ภายในแผนประกันนั้นมีการครอบคลุมเรื่องยารักษาโรคพื้นฐาน, ยารักษาพิเศษ และการตรวจวินิจฉัยขณะเข้ารับการรักษาด้วยหรือไม่? รวมไปถึงค่าห้อง, ค่าหัตถการ, ค่าอุปกรณ์ทางการแพทย์ต่าง ๆ ถ้าแผนประกัน Covid ที่คุณเลือกมีครอบคลุมในทุกส่วนที่กล่าวมาข้างต้น คุณก็จะสามารถซื้อได้อย่างสบายใจ ต่ถ้ามีส่วนใดส่วนหนึ่งที่ไม่ครอบคลุม ทางประกันจะต้องมีการระบุไว้ภายในสัญญาอย่างชัดเจน เพื่อทำให้คุณรู้ว่าจะต้องจ่ายเพิ่มเติมตรงส่วนใดบ้าง

3.เปรียบเทียบก่อนซื้อ

เปรียบเทียบประกันต่าง จากหลายแบรนด์ที่ออกประกัน Covid ก่อนการซื้อเสมอไม่ควรจะหยุดที่ประกันเจ้าใดทันทีตามคำบอกกล่าวของผู้อื่นเท่านั้น ควรรวบรวมข้อมูลประกันที่มีคนการันตีว่าดีจริง มาดูรายละเอียดเพิ่มเติมแล้วเปรียบเทียบว่าแบบใดที่เหมาะสมกับคุณมากที่สุด

ประกัน Covid เจ้าไหนบ้างที่กำลังได้รับความนิยม

เมื่อคุณรู้แล้วว่าก่อนซื้อประกัน Covid ควรพิจารณาในเรื่องใดบ้าง เรื่องต่อไปคือการเลือกซื้อประกันชีวิตแบบไหน? จึงจะคุ้มค่ามากที่สุด ลองดูคำตอบของ 4 ประกันที่จะแนะนำดังต่อไปนี้

1.กรุงเทพประกันภัย

กรุงเทพประกันภัยมีผลิตภัณฑ์สำหรับการคุ้มครอง Covid ที่ได้รับความนิยม คือเบี้ยประกัน 899 บาท เมื่อพบว่าเจ็บป่วยหรือติดเชื้อจะจ่ายทันที 50,000 บาทพร้อมค่ารักษาพยาบาลอีก 60,000 บาท เมื่อตรวจหาโรคติดเชื้อคนในครอบครัวจะเพิ่มค่าใช้จ่ายอีก 10,000 บาท เป็นประกันแบบเจอ จ่าย บวกค่ารักษาที่จะให้ความคุ้มค่าสูและเป็นแผนที่ถือว่าขายดีมากในยุคนี้

2.สินมั่นคงประกันภัย

สินมั่นคงประกันภัยโดดเด่นเรื่องประกัน Covid เจอ จ่าย จบ เมื่อมีการพบเชื้อ Covid19 จ่ายเบี้ยประกันเพียง 199 บาทได้รับผลประโยชน์จากการตรวจพบครั้งแรกรับทันที 50,000 บาท หรือถ้าซื้อเป็นเบี้ยประกัน 399 บาท เมื่อตรวจพบครั้งแรกรับเงินทันที 100,000 บาท

3.วิริยะประกันภัย

วิริยะประกันภัยจ่ายเบี้ยประกันเพียง 399 บาทจะได้รับ การคุ้มครองแบบเธอจ่ายทบพร้อมเงินชดเชยตรวจเจอเชื้อจ่ายทันที 500 บาทและมอบเงินชดเชยแบบรายวัน 500 บาทในระยะเวลา 14 วันพร้อมพ่วง การคุ้มครองเมื่อฉีดวัคซีนแล้วเกิดอาการแพ้อีกด้วย

4.ทิพยประกันภัย

ทิพยประกันภัยมีความเด่นในเรื่องของการร่วมงานกับผลิตภัณฑ์ต่าง ที่ผู้คนนิยมใช้ในปัจจุบัน เช่น ผลิตภัณฑ์ของธนาคารที่ทิพยประกันภัยจับมือกับธนาคาร SCB และธนาคารกสิกรไทย เพื่อสร้างแผนประกัน Covid ที่ให้ความคุ้มครองสูงสุดตั้งแต่ 100,000-200,000 บาท พร้อมให้การชดเชยแบบรายวันไม่เกิน 15 วันและให้การคุ้มครองจากการเสียชีวิตเพิ่มเติม ทั้งยังร่วมงานกับ 7-11 ที่ให้ประกันสำหรับผู้เป็น All Member คุ้มครองค่ารักษาพยาบาล 7,000 บาท ละค่ารักษาในภาวะโคม่าอีก 70,000 บาท ด้วยเบี้ยประกันเพียง 177 บาทต่อปีเท่านั้น

การเลือกแผนประกันต่าง ควรดูรายละเอียดและทำการเปรียบเทียบให้ดีนอกจากนี้ควรดูในเรื่องของโรคประจำตัวด้วยเช่นกัน ดังนั้นจึงควรไปพบแพทย์เพื่อการตรวจโรคให้เรียบร้อยและแจ้งทางประกันให้ชัดเจนที่สุด เพื่อป้องกันปัญหาต่าง ตามมาในอนาคต

ครูอัพเดตดอทคอม ขอขอบคุณข้อมูล ประกันโควิด ซื้อประกันCovid แบบไหนคุ้มสุด? ที่นี่มีคำตอบ จาก บริษัทประกันภัยต่างๆ

บทความโดย ครูอัพเดตดอทคอม

dltv สพฐ. ชี้แจงแนวทาง การจัดการเรียนการสอน ทางไกลผ่านดาวเทียม (DLTV)

0

dltv สพฐ. ชี้แจงแนวทาง การจัดการเรียนการสอน ทางไกลผ่านดาวเทียม (DLTV)

วันที่ 28 พฤษภาคม 2564 นายอัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) เป็นประธานในการประชุมผ่านระบบการสื่อสารสองทาง (Video conference) เพื่อชี้แจงและมอบนโยบายแนวทางการจัดการเรียนการสอนทางไกล ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564 ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) โดยการส่งสัญญาณโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิทัลเพื่อการศึกษา (DLTV) พร้อมด้วย นายอโณทัย ไทยวรรณศรี ผู้อำนวยการสำนักเทคโนโลยีเพื่อการเรียนการสอน และนายสุวิทย์ บึงบัว ผู้อำนวยการศูนย์พัฒนาคุณภาพการศึกษาด้วยเทคโนโลยีการศึกษาทางไกล ร่วมชี้แจงแนวทางการจัดการเรียนการสอนทางไกลฯ ผ่านรายการโทรทัศน์การศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม (DLTV) ตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาล 2 – ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 รวม 11 ช่องสัญญาณ โดยมีผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา และศึกษานิเทศก์ที่รับผิดชอบการศึกษาทางไกล เข้าร่วมการประชุม โดยถ่ายทอดสดจากห้องประชุม DOC อาคาร สพฐ. 5 ชั้น 9 กระทรวงศึกษาธิการ ผ่านช่องทาง OBEC Channel ทั้งเว็บไซต์ www.obectv.tv เพจเฟซบุ๊ก OBEC Channel และยูทูบ OBEC TV

นายอัมพร กล่าวว่า ตามที่กระทรวงศึกษาธิการได้ประกาศเลื่อนการเปิดภาคเรียนเป็นวันที่ 14 มิถุนายน 2564 แต่จากการสำรวจพบว่าโรงเรียนส่วนใหญ่ในเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุด (สีแดง) 17 จังหวัด และพื้นที่ควบคุม (สีส้ม) 56 จังหวัด ประสงค์จะเปิดเรียนวันที่ 1 มิถุนายน ถึง 90 เปอร์เซ็นต์ ดังนั้น สพฐ. จึงประสานทางมูลนิธิการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียมเพื่อถ่ายทอดใน 2 ระบบ นั่นคือหากเป็นโรงเรียนที่สามารถจัดการเรียนการสอนที่โรงเรียนได้ สามารถรับชมการถ่ายทอดผ่านทาง DLTV ได้ตามปกติ ส่วนนักเรียนที่เรียนทางไกลที่บ้าน สามารถรับชมการถ่ายทอดได้ผ่านทางโทรทัศน์ช่องต่างๆ ซึ่งทางมูลนิธิฯ ได้ทำหนังสือถึง กสทช. เพื่อขอความอนุเคราะห์การออกอากาศทางช่องต่างๆ ซึ่งทาง กสทช. ได้อนุญาตให้ใช้ช่องโทรทัศน์ในการถ่ายทอดการจัดการเรียนการสอนทางไกลผ่านดาวเทียมใน 3 ช่อง คือ NBT ททบ.5 และ ThaiPBS เพื่อให้นักเรียนได้ใช้โทรทัศน์ที่มีอยู่ที่บ้านในการเรียนทางไกลด้วยตนเองได้ โดยจะออกอากาศพร้อมกันตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน – 10 ตุลาคม 2564 ส่วนโรงเรียนที่เปิดเรียนวันที่ 14 มิถุนายน ก็สามารถดูรายการย้อนหลังได้

“การประชุมวันนี้เพื่อซักซ้อมความเข้าใจแนวทางการจัดการเรียนการสอนให้ตรงกัน เพื่อให้สามารถดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยสรุปคือการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียมจะออกอากาศใน 2 ระบบ ได้แก่ การออกอากาศผ่านทาง DLTV และออกอากาศผ่านช่องโทรทัศน์ 3 ช่อง คือ NBT ททบ.5 และ ThaiPBS ซึ่งนักเรียนจะสามารถเรียนซ้ำได้ 3 รอบ ตามตารางออกอากาศ ตั้งแต่เวลา 8:30 น. โดยชั้นอนุบาลจะมีรีรันเวลา 13:00 น. และ 15:30 น. ส่วนชั้นประถมศึกษาและมัธยมศึกษาจะรีรันเวลา 14:30 น. และ 20:30 น.

สำหรับโรงเรียนที่มีการเรียนการสอนผ่าน DLTV หากมีนักเรียนไม่เกิน 120 คน ทุกโรงเรียนจะได้รับ Flash Drive จากมูลนิธิทางไกลผ่านดาวเทียม ส่งมาให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเป็นผู้จัดสรรให้แก่โรงเรียนต่างๆ ซึ่งในแฟลชไดรฟ์จะมีไฟล์คู่มือใบงาน สื่อการเรียนรู้ ให้ทางโรงเรียนพิมพ์เป็นเอกสารออกมาให้นักเรียนใช้ประกอบการเรียน สำหรับโรงเรียนที่มีนักเรียนไม่เกิน 60 คน จะได้รับสื่อการเรียนรู้เป็นแบบรูปเล่มใบงาน ให้นักเรียนนำไปใช้ประกอบการเรียนการสอนได้เลยใน 6 สาระการเรียนรู้ ซึ่งทางมูลนิธิฯ จะได้จัดสรรและส่งไปยังสำนักงานเขตพื้นที่เพื่อจัดส่งให้โรงเรียนต่อไป” เลขาธิการ กพฐ. กล่าว

ครูอัพเดตดอทคอม ขอขอบคุณข้อมูลdltv สพฐ. ชี้แจงแนวทาง การจัดการเรียนการสอน ทางไกลผ่านดาวเทียม (DLTV) จาก ประชาสัมพันธ์ สพฐ.

สรุปสั้น การทำวิทยฐานะใหม่ ว.9 PA จาก ก.ค.ศ. ต้องเตรียมตัวอย่างไร ส่งอะไรบ้าง

0

สรุปสั้น การทำวิทยฐานะใหม่ ว.9 PA จาก ก.ค.ศ. ต้องเตรียมตัวอย่างไร ส่งอะไรบ้าง

 

เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2564 สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ได้เผยแพร่ How to การทำวิทยฐานะใหม่ เกณฑ์ PA สรุปสั้นๆ จาก ก.ค.ศ. ผ่านทางเพจ สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา 

ซึ่งประกอบไปด้วยข้อความดังต่อไปนี้

ชวนดูสรุปสั้น ๆ เกี่ยวกับการทำวิทยฐานะใหม่หรือเกณฑ์ PA ว่าได้กำหนด กระบวนการและวิธีการอย่างไรบ้าง เพื่อจะได้เตรียมตัวและเตรียมความพร้อมไปด้วยกันนะคะ
ทั้งนี้ สำหรับรายละเอียดสาระความรู้เกี่ยวกับเกณฑ์ PA สำนักงาน ก.ค.ศ. กำลังเร่งดำเนินการจัดทำคู่มือ และสื่อในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อสร้างความเข้าใจให้กับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา เช่น กรณีช่วงเปลี่ยนผ่าน เรื่องของระยะเวลาการยื่นคำขอ หรืออื่น ๆ ที่กำลังจะทะยอยให้ทุกท่านได้ศึกษาไปพร้อม ๆ กันต่อไปค่ะ

 

สรุปสั้น การทำวิทยฐานะใหม่ ว.9 PA จาก ก.ค.ศ. ต้องเตรียมตัวอย่างไร ส่งอะไรบ้าง

 

สรุปสั้น การทำวิทยฐานะใหม่ ว.9 PA จาก ก.ค.ศ. ต้องเตรียมตัวอย่างไร ส่งอะไรบ้าง

 

 

สรุปสั้น การทำวิทยฐานะใหม่ ว.9 PA จาก ก.ค.ศ. ต้องเตรียมตัวอย่างไร ส่งอะไรบ้าง

 

 

สรุปสั้น การทำวิทยฐานะใหม่ ว.9 PA จาก ก.ค.ศ. ต้องเตรียมตัวอย่างไร ส่งอะไรบ้าง

 

 

สรุปสั้น การทำวิทยฐานะใหม่ ว.9 PA จาก ก.ค.ศ. ต้องเตรียมตัวอย่างไร ส่งอะไรบ้าง

ครูอัพเดตดอทคอม ขอขอบคุณที่มาของข้อมูล และภาพ สรุปสั้น การทำวิทยฐานะใหม่ ว.9 PA จาก ก.ค.ศ.
ต้องเตรียมตัวอย่างไร ส่งอะไรบ้าง จากเพจ สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา 

ต้องการ เงินสด เร่งด่วน มองหา สินเชื่อเงินสด ควรเลือก สินเชื่อเงินสด จากที่ไหนดี

0

สินเชื่อเงินสดจากที่ไหนดี

สวัสดีค่ะทุกท่านวันนี้ ครูอัพเดตดอทคอมมี บทความเกี่ยวกับ สินเชื่อเงินสดมาฝากทุกท่านอีกเช่นเคย ซึ่งเป็นบทความในหมวดของการเงิน ที่ครูอัพเดตดอทคอม ได้จัดทำขึ้นใหม่ค่ะ โดยบทความในวันนี้จะเกี่ยวกับ สินเชื่อเงินสด หากต้องการ เงินสด เร่งด่วน มองหา สินเชื่อเงินสด ควรเลือก สินเชื่อเงินสด จากที่ไหนดี ?

ยุคนี้มีคนต้องการเงินสดแบบเร่งด่วนกันเป็นจำนวนมาก จนกลายเป็นการยอมไปเสี่ยงกู้เงินกับแอพพลิเคชั่นผิดกฎหมายต่าง ๆ แล้วกลายมาเป็นปัญหาจำนวนมาก ดังนั้นถ้าคุณต้องการความปลอดภัย ควรเลือกสินเชื่อเงินสดจากธนาคารที่มีชื่อเสียงหรือสถาบันทางการเงินที่คุณไว้วางใจได้ พร้อมเปิดให้ใช้บริการสินเชื่ออย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยเลือกสินเชื่อแบบเงินสดเร่งด่วนที่ใช้เวลาในการอนุมัติน้อย เพื่อทำให้คุณรู้ผลได้อย่างรวดเร็ว

 

สินเชื่อเงินสดจากที่ไหนดี4

สินเชื่อเงินสดคืออะไร

สินเชื่อเงินสดจะมาในรูปแบบของการปล่อยกู้ให้กับบุคคลทั่วไป ที่มีรายได้ไม่สูงมากหรือผู้ที่มีเงินเดือนประจำ พร้อมไปด้วยผู้ที่มีเงินเดือนผ่านบัญชีอย่างชัดเจนและมั่นคงในทุก ๆ เดือน ซึ่งในอดีตสินเชื่อเงินสดอาจจะผ่านได้ยาก โดยจะดูหลักฐานในเรื่องของเงินเดือนรายได้ผ่านบัญชีและองค์กรที่ทำงานอยู่เป็นหลัก แต่ในปัจจุบันทำได้ง่ายมากขึ้นเพราะเปิดกว้างกว่าเดิม แม้แต่ผู้ที่ทำอาชีพค้าขายก็สามารถขอสินเชื่อเงินสดได้ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการนำเงินสดไปใช้จ่ายในด้านต่าง ๆ แบบเร่งด่วน เพราะสินเชื่อเงินสดนั้นมักจะมาในรูปแบบของการอนุมัติที่มีความรวดเร็ว

สำหรับการได้รับเงินนั้นจะขึ้นอยู่กับแต่ละสถาบันการเงิน เพราะบางแห่งจะให้มาเป็นรูปแบบของบัตรกดเงินสด ที่จะต้องมีการเปิดบัญชีกับสถาบันการเงินแห่งนั้น แต่บางแห่งก็อาจจะเป็นการโอนเข้าสู่บัญชีที่ผู้ขอสินเชื่อได้ระบุไว้ สำหรับการจ่ายคืนนั้นเมื่อคุณเริ่มกดเงินสดออกมาใช้ คุณก็ต้องเริ่มใช้คืนทันที ส่วนการชำระคืนจะอยู่ที่ 3-5 ปี (แล้วแต่วงเงิน) แต่ถ้าจำนวนเงินไม่สูงมากก็อาจจะเร็วขึ้น ส่วนดอกเบี้ยจะคิดที่ประมาณ 28 เปอร์เซ็นต์ต่อปี สำหรับการอนุมัติจะอยู่ที่ประมาณ 2-5 เท่าของรายได้หลัก ส่วนการอนุมัตินั้นเบื้องต้นจะอยู่ที่ประมาณหลักหมื่นบาทถึงหลักล้านบาท จะให้การชำระสูงสุดที่ 5 ปี หรือ 60 งวด

สินเชื่อเงินสดจากที่ไหนดี3

เลือกสินเชื่อเงินสดจากที่ไหนดี? ช่วยได้เงินเร็วและให้วงเงินสูง

เมื่อคุณสนใจที่จะทำสินเชื่อเงินสด ลองมาดูว่าสถาบันการเงินแห่งใดที่จะสามารถปล่อยสินเชื่อให้กับคุณได้อย่างรวดเร็ว ให้วงเงินสูงและอนุมัติง่าย ดังนี้

1.ธนาคารกสิกรไทย

สำหรับธนาคารกสิกรไทยจะมีสินเชื่อเงินสดแบบเร่งด่วน ที่จะอนุมัติภายใน 30 นาที ด้วยเกณฑ์ขั้นต่ำของการกู้เพียงแค่ 7,500 บาทเท่านั้น พร้อมการให้กู้ที่คุณสามารถไว้วางใจได้ รู้ผลรวดเร็ว และเมื่อรู้ผลแล้วคุณก็สามารถเตรียมเอกสารเพื่อไปสมัครต่อที่สาขาได้เลย กู้ได้สูงสุดถึง 1 ล้านบาท โดยไม่มีหลักทรัพย์ ไม่ต้องมีบุคคลค้ำประกัน ผ่อนด้วยระยะเวลายาวนานสูงสุดถึง 60 เดือน ดอกเบี้ย 15-26% ต่อปี (ขึ้นอยู่กับวงเงินกู้) เมื่ออนุมัติแล้วเงินจะถูกโอนเข้าบัญชีทันที โดยจะมาในรูปแบบของลดต้นลดดอก

2.ธนาคาร UOB

ธนาคาร UOB ออกสินเชื่อเงินสดแบบอนุมัติไวภายใน 3 วัน โดยจะใช้ชื่อสินเชื่อเงินสด UOB I Cash ให้วงเงินสูงสุดถึง 1 ล้าน 5 แสนบาท และเป็นการรับเงินโอนเข้าบัญชีของผู้กู้ทันที แต่ถ้าเปลี่ยนใจไม่กู้สามารถส่งเงินคืนกลับสู่ธนาคารได้ภายใน 7 วัน โดยจะไม่มีค่าดำเนินการใด ๆ ทั้งสิ้น คุณสมบัติเบื้องต้นของผู้ที่กู้เพียงแค่มีรายได้ 15,000 บาทต่อเดือนขึ้นไป สำหรับการคิดดอกเบี้ยจะอยู่ที่ 28 เปอร์เซ็นต์ต่อปี และผ่อนได้ยาวนานถึง 60 เดือน

3.กรุงศรี First Choice

กรุงศรี First Choice เป็นอีกหนึ่งผู้ให้บริการสินเชื่อเงินสด ที่นอกจากอนุมัติเร็วแล้วยังให้วงเงินสูง ดอกเบี้ยต่ำ และบุคคลธรรมดาจะกำหนดรายได้ขั้นต่ำเพียงแค่ 10,000 บาทขึ้นไปเท่านั้น สามารถที่จะกู้ได้ตั้งแต่อายุ 20-65 ปี ใช้เวลาในการอนุมัติเพียง 30 นาทีเท่านั้น และถ้าใช้เป็นการผ่อนสินค้าที่ร่วมรายการของทางกรุงศรี First Choice จะคิดดอกเบี้ย 0%  สำหรับการใช้คืนนั้นยิ่งใช้คืนมากเท่าไหร่ อัตราดอกเบี้ยจะเป็นไปในรูปแบบของลดต้นลดดอก ที่จะทำให้คุณชำระคืนได้เร็วขึ้น

4.AEON

AEON ถือว่าเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการสินเชื่อเงินสดที่มีประสบการณ์มาอย่างยาวนาน โดยใช้ชื่อสินเชื่ออนุมัติเร็วอย่าง  AEON Member Card ใช้เวลาในการอนุมัติสินเชื่อเพียงแค่ 30 นาที รายละเอียดไม่ยุ่งยากและรับรายได้ขั้นต่ำเพียงแค่ 8,000 บาทเท่านั้น โดยจะเป็นการมอบบัตร AEON ให้และสามารถกดสินเชื่อได้จากตู้เอทีเอ็ม พร้อมนำบัตรไปผ่อนสินค้าได้อย่างสะดวก กู้ได้ต่ำสุดตั้งแต่ 3,000 บาทขึ้นไป และถ้ารายได้ของคุณเพิ่มขึ้นก็สามารถขอเพิ่มวงเงินในบัตรได้อีกด้วย สำหรับดอกเบี้ยจะคิดที่ 26.07-28 เปอร์เซ็นต์ต่อปี เป็นแบบลดต้นลดดอก แต่ถ้าเป็นการผ่อนชำระสินค้าดอกเบี้ยจะอยู่ที่ 0-28% ต่อปี

ถ้าคุณต้องการใช้เงินสดแบบเร่งด่วนและรู้ผลการอนุมัติได้อย่างรวดเร็ว ขอแนะนำทั้ง 4 สถาบันการเงินนี้ที่จะสามารถกู้ได้อย่างมั่นใจ มีความน่าเชื่อถือสูงและจดทะเบียนมาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย จึงไม่ต้องกังวลเรื่องดอกเบี้ยที่สูงมากเกินไปและทำให้การจ่ายคืนของคุณเป็นไปแบบสบาย ๆ อีกด้วยค่ะ