อบรมครูออนไลน์ฟรี สสวท. หลักสูตร การใช้คำถามในห้องเรียนวิทยาศาสตร์ (Questioning in Science Classroom)

0

"<yoastmark

 

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) อบรมครูออนไลน์ฟรี “การใช้คำถามในห้องเรียนวิทยาศาสตร์” (Questioning in Science Classroom) หลักสูตรส่งเสริมความเข้าใจเกี่ยวกับความสำคัญของการใช้คำถาม ลักษณะของคำถามที่ส่งเสริมการเรียนรู้ และเทคนิคการใช้คำถามในห้องเรียนวิทยาศาสตร์ กิจกรรมในหลักสูตรเน้นการฝึกปฏิบัติ คิดวิเคราะห์ เพื่อนำความรู้ไปใช้ ในห้องเรียนอย่างมีประสิทธิภาพ มุ่งให้ผู้เรียนตระหนักถึงความสำคัญของการใช้คำถามในห้องเรียนวิทยาศาสตร์ สามารถวิเคราะห์ลักษณะและความแตกต่างระหว่างการใช้คำถามแบบดั้งเดิมและแบบที่สอดคล้องกับทฤษฎีการสร้างองค์ความรู้ มีความเข้าใจสามารถวิเคราะห์ระดับคำถามที่ส่งเสริมการเรียนรู้ด้านพุทธิพิสัยที่สอดคล้องกับอนุกรมวิธานที่ปรับปรุงมาจากบลูม รวมทั้งเข้าใจเทคนิคการใช้คำถามในห้องเรียน สามารถวิเคราะห์ตัวอย่างกรณีศึกษาเกี่ยวกับลักษณะการใช้คำถามในห้องเรียนวิทยาศาสตร์ได้

ลิงก์สมัครอบรมออนไลน์การใช้คำถามในห้องเรียนวิทยาศาสตร์ (Questioning in Science Classroom)

สมัครได้ตั้งแต่บัดนี้ถึง 15 เมษายนนี้ เริ่มอบรม15 มีนาคม – 30 เมษายน 2565 จำนวน 20 ชั่วโมงเรียน

ข้อมูลเกี่ยวกับหลักสูตร/รายวิชา
การใช้คำถามใน ห้องเรียนวิทยาศาสตร์ เป็นหลักสูตรที่ส่งเสริมความเข้าใจเกี่ยวกับความสำคัญของการ ใช้คำถาม ลักษณะของคำถามที่ ส่งเสริมการเรียนรู้ และเทคนิคการใช้คำถามในห้องเรียนวิทยาศาสตร์ กิจกรรมในหลักสูตรนี้เน้นการฝึกปฏิบัติ คิดวิเคราะห์ เพื่อนำความรู้ไปใช้ ในห้องเรียนวิทยาศาสตร์ได้อย่าง มีประสิทธิภาพ

วัตถุประสงค์ของหลักสูตร
1. ตระหนักถึงความสำคัญของการใช้คำถามใน ห้องเรียนวิทยาศาสตร์
2. วิเคราะห์ลักษณะและความแตกต่างระหว่างการใช้คำถามแบบดั้งเดิมและแบบที่สอดคล้องกับทฤษฎีการสร้างองค์ความรู้
3. เข้าใจและสามารถวิเคราะห์ระดับคำถามที่ส่งเสริมการเรียนรู้ด้านพุทธิพิสัยที่สอดคล้องกับอนุกรมวิธานที่ปรับปรุงมาจากบลูม
4. เข้าใจเทคนิคการใช้คำถามใน ห้องเรียนวิทยาศาสตร์
5. วิเคราะห์ตัวอย่างกรณีศึกษาเกี่ยวกับลักษณะการใช้คำถามใน ห้องเรียนวิทยาศาสตร์

จำนวนชั่วโมงเรียน
20 ชั่วโมง

เกณฑ์การผ่านการอบรม
ต้องได้คะแนนรวมตั้งแต่ 80 % ขึ้นไป จึงจะผ่านการอบรม

ขอบคุณเนื้อหาจาก สสวท.

เรื่องราวที่น่าสนใจเพิ่มเติม อบรมออนไลน์ฟรี “หลักสูตรการจัดการเรียนรู้วิทยาการคำนวณสำหรับครู ขั้นสูง (Coding for Teacher Plus: C4T Plus)” รุ่นที่ 3 จาก สสวท

อบรมออนไลน์ฟรี “หลักสูตรการจัดการเรียนรู้วิทยาการคำนวณสำหรับครู ขั้นสูง (Coding for Teacher Plus: C4T Plus)” รุ่นที่ 3 จาก สสวท

0

อบรมออนไลน์ c4t plus สสวท.

อบรมออนไลน์ฟรี “หลักสูตรการจัดการเรียนรู้วิทยาการคำนวณสำหรับครู ขั้นสูง (Coding for Teacher Plus: C4T Plus)” รุ่นที่ 3 จาก สสวท

มาแล้วครูจ๋า หลักสูตร Plus ที่ครูอยากได้ 📢📢📢 สพฐ. และ สสวท. ขอเชิญครูประถม และมัธยมที่สนใจเข้าร่วมอบรมด้วยตนเองแบบออนไลน์ “หลักสูตรการจัดการเรียนรู้วิทยาการคำนวณสำหรับครู ขั้นสูง (Coding for Teacher Plus: C4T Plus)” รุ่นที่ 3

อบรมออนไลน์ฟรี “หลักสูตรการจัดการเรียนรู้วิทยาการคำนวณสำหรับครู ขั้นสูง (Coding for Teacher Plus: C4T Plus)” รุ่นที่ 3 จาก สสวท
-สำหรับผู้ที่พลาดจากรุ่นที่ 1-2 สามารถสมัครและอบรมได้ตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคม – 15 พฤษภาคม 2565 ที่เว็บไซต์ https://teacherpd.ipst.ac.th/ 👉สมาชิกเก่าของเว็บไซต์ โปรดอัปเดตข้อมูลสมาชิก และกดยอมรับ
-เลือกอบรมได้ทั้ง 3 หลักสูตรคือ การเขียนโปรแกรม Scratch การเขียนโปรแกรมภาษา Python และวิทยาการข้อมูล (Data Science)
-หลักสูตรผ่านการรับรองจาก ก.ค.ศ. แล้ว

อบรมออนไลน์ฟรี c4t สสวท

ระบบอบรมครู

(Teacher Professional Development System) แหล่งเรียนรู้ออนไลน์ที่ครูสามารถ ทบทวนความรู้หรือพัฒนาศักยภาพของตนเองทั้งด้านเนื้อหาวิชาการและเทคนิคการสอน โดยครูสามารถ เข้าถึงเนื้อหาและร่วมกิจกรรมการอบรมที่หลากหลายจากวิทยากรที่มีความเชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยี ของ สสวท.

ครูอัพเดตดอทคอม ขอขอบคุณ ข้อมูล อบรมออนไลน์ฟรี “หลักสูตรการจัดการเรียนรู้วิทยาการคำนวณสำหรับครู ขั้นสูง (Coding for Teacher Plus: C4T Plus)” รุ่นที่ 3 จาก สสวท

 

MOE Safety Center “ตรีนุช” เดินหน้าสร้างความปลอดภัยในโรงเรียน ผ่านการใช้แอปพลิเคชัน MOE Safety Center

MOE Safety Center “ตรีนุช” เดินหน้าสร้างความปลอดภัยในโรงเรียน ผ่านการใช้แอปพลิเคชัน MOE Safety Center

 เมื่อวันที่ 10 มี.ค.2565 น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ กล่าวตอนหนึ่งในโอกาสเป็นประธานเปิดโครงการสร้างการรับรู้การเข้าถึงระบบมาตรฐานความปลอดภัยสถานศึกษา “SAFE สถานศึกษาปลอดภัย” ที่ โรงเรียนเทพศิรินทร์พุแค จังหวัดสระบุรี ว่า ความปลอดภัยในสถานศึกษา เป็นนโยบายสำคัญเร่งด่วนของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ซึ่งเป็นความท้าทายที่จะต้องทำอย่างไร ให้สถานศึกษาเป็นมากกว่าสถานที่ให้ความรู้ แต่ยังต้องเป็นสถานที่ที่อยู่แล้วมีความสุข มีความปลอดภัยด้วย จึงได้มีการนำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาช่วยส่งเสริม และสนับสนุน ให้เกิดความสะดวกรวดเร็วในการบริหารจัดการความปลอดภัยในสถานศึกษา เพื่อให้เข้าถึงนักเรียน ครู ผู้ปกครอง และประชาชนทั่วไปได้ ให้สามารถแจ้งเหตุความไม่ปลอดภัยได้อย่างทั่วถึงและรวดเร็วมากขึ้น ผ่านการใช้แอปพลิเคชัน MOE Safety Center

 รมว.ศึกษาธิการ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาได้เดินทางไปสร้างการรับรู้ในหลายพื้นที่ และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ในส่วนของจังหวัดสระบุรีในวันนี้ ก็ได้สร้างการรับรู้ในโรงเรียน และมีการสาธิตการดับเพลิง หากเกิดอัคคีภัยก็สามารถช่วยเหลือตัวเองในเบื้องต้นได้ พร้อมกันนั้นยังได้อบรมสร้างความเข้าใจในการใช้แอปพลิเคชัน MOE Safety Center กับครูทั่วประเทศแล้วกว่า 170,000 คน จะเห็นได้ว่าการใช้แอปพลิเคชัน MOE Safety Center มีข้อดีหลายด้าน ทำให้การร้องเรียนมีความรวดเร็ว รวมถึงปัญหาการไม่กล้าร้องเรียนก็จะหมดไปด้วย ซึ่งขณะนี้ได้รับเรื่องร้องเรียนมาแล้วกว่า 50 เรื่อง และกำลังดำเนินการแก้ไขปัญหาโดยเร็วที่สุด

 ด้าน นายอัมพร พินะสา กล่าวว่า การจัดโครงการ “SAFE สถานศึกษาปลอดภัย” มีเป้าหมายเพื่อสร้างการรับรู้ให้กับนักเรียน ครู และบุคลากรทางการศึกษา ได้เข้าถึงความปลอดภัยในทุกมิติ และขับเคลื่อนนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการในด้านความปลอดภัยในสถานศึกษาซึ่งเป็นวาระเร่งด่วน โดยมีมาตรการในการดำเนินงาน 3 ทาง คือ “ป้องกัน ปลูกฝัง และปราบปราม” เพื่อให้นักเรียน พ่อแม่ผู้ปกครองเกิดความสบายใจและความมั่นใจต่อสถานศึกษาว่าจะสามารถดูแลนักเรียนให้มีความปลอดภัยได้ ดังนั้นจึงมีการสร้างระบบดูแลความปลอดภัยที่จะเป็นช่องทางการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม โดยมีการนำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาช่วยส่งเสริม สนับสนุน เพื่อให้เกิดความสะดวกรวดเร็วในการบริหารจัดการความปลอดภัยในสถานศึกษาได้อย่างแท้จริง.

ครูอัพเดตดอทคอม ขอขอบคุณข้อมูล MOE Safety Center  At hear

 

อบรมออนไลน์ฟรี การจัดการเรียนรู้แบบ coding โดยใช้กระบวนการ plc รับเกียรติบัตรฟรี

0

 

อบรมออนไลน์ฟรี การจัดการเรียนรู้แบบ coding โดยใช้กระบวนการ plc รับเกียรติบัตรฟรี

อบรมออนไลน์ฟรี การจัดการเรียนรู้แบบ coding โดยใช้กระบวนการ plc รับเกียรติบัตรฟรี มาแล้วจ้าาา!!งานอบรมสุดพิเศษที่ตอบโจทย์การสอนในยุคปัจจุบัน
ขอเชิญชวนนักศึกษาและผู้ที่สนใจเข้าร่วมรับฟังการอบรม”การจัดการเรียนรู้แบบ Coding โดยใช้กระบวนการ PLC”

บรรยายพิเศษในหัวข้อ
– “แนวคิดและทฤษฎีของ Coding และการจัดการเรียนรู้แบบ Coding”
– การจัดการสาระการพัฒนาหลักสูตร
“1) ด้านความรู้
2) ด้านทักษะ
3) ด้านคุณลักษณะความเป็นครู กระบวนการ PLC”

-นายฉัตรพงศ์ ชูแสงนิล (ครูเดียร์) วิทยากรผู้เชี่ยวชาญด้าน Coding
-นางสาวอชิรญา ชนะสงคราม (ครูเฟิร์น) วิทยากรผู้เชี่ยวชาญด้าน Coding

อบรมออนไลน์ฟรี การจัดการเรียนรู้แบบ coding โดยใช้กระบวนการ plc รับเกียรติบัตรฟรี งานอบรมสุดปังแบบนี้ ไม่ร่วมไม่ได้แล้วว
สแกนคิวQR CODEเพื่อลงทะเบียนเข้าร่วมอบรม
ปิดลิงก์ลงทะเบียนเข้าร่วมอบรมแล้วค่ะ

Join Zoom Meeting
ปิดลิงก์ลงทะเบียนเข้าร่วมอบรมแล้วค่ะ

Meeting ID: 962 1418 9034
Passcode: 335334
สแกนQR CODE เพื่อเข้ากลุ่มไลน์สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
ฟรีตลอดงานพร้อมเกียรติบัตรผู้เข้าร่วมกิจกรรม

อบรมออนไลน์ coding plc

ครูอัพเดตดอทคอม ขอขอบคุณข้อมูล อบรมออนไลน์ฟรี การจัดการเรียนรู้แบบ coding โดยใช้กระบวนการ plc รับเกียรติบัตรฟรี จาก มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช

ผลการพิจารณาคุณสมบัติของข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษาผู้ขอมีวิทยฐานะหรือเลื่อนเป็นวิทยฐานะชำนาญการพิเศษและวิทยฐานะเชี่ยวชาญ (กรณีทบทวน) (ว 13) ประกาศ ณ วันที่ 9 มีนาคม 2565

ประกาศสำนักงาน ก.ค.ศ. เรื่อง ผลการพิจารณาคุณสมบัติของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้ขอมีวิทยฐานะหรือเลื่อนเป็นวิทยฐานะชำนาญการพิเศษและวิทยฐานะเชี่ยวชาญ (กรณีทบทวน) (ว 13) ประกาศ ณ วันที่ 9 มีนาคม 2565

ผลการพิจารณาคุณสมบัติของข้าราชการครู วิทยฐานะ ว 13 กรณีทบทวน 9 มีนาคม 2565

ผลการพิจารณาคุณสมบัติของข้าราชการครู วิทยฐานะ ว 13 กรณีทบทวน 9 มีนาคม 2565 ประกาศสำนักงาน ก.ค.ศ. เรื่อง ผลการพิจารณาคุณสมบัติของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ผู้ขอมีวิทยฐานะหรือเลื่อนเป็นวิทยฐานะชำนาญการพิเศษและวิทยฐานะเชี่ยวชาญ (กรณีทบทวน) (ว 13) ทุกสายงานประกาศ ณ วันที่ 9 มีนาคม 2565

เรื่องที่น่าสนใจ : 4 มาตรการ แก้ปัญหาหนี้ครู จากการประชุมคณะกรรมการแก้ไขปัญหาหนี้สินครูและบุคลากรทางการศึกษา ระดับจังหวัด

วิทยฐานะชำนาญการพิเศษและวิทยฐานะเชี่ยวชาญ จำนวน 33 ราย

ผลการพิจารณาคุณสมบัติของข้าราชการครู วิทยฐานะ ว 13 กรณีทบทวน 9 มีนาคม 2565

ผลการพิจารณาคุณสมบัติของข้าราชการครู วิทยฐานะ ว 13 กรณีทบทวน 9 มีนาคม 2565

ผลการพิจารณาคุณสมบัติของข้าราชการครู วิทยฐานะ ว 13 กรณีทบทวน 9 มีนาคม 2565

สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 30 ราย

<<คลิกที่นี่>>

สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา จำนวน 3 ราย

<<คลิกที่นี่>>

คลิกที่นี่เพื่ออ่านประกาศ

คลิกที่นี่เพื่อดาวน์โหลดแบบคัดค้าน

คลิกที่นี่เพื่อยื่นแบบคัดค้านออนไลน์

ขอบคุณที่มาจาก : สำนักงาน ก.ค.ศ.

4 มาตรการ แก้ปัญหาหนี้ครู จากการประชุมคณะกรรมการแก้ไขปัญหาหนี้สินครูและบุคลากรทางการศึกษา ระดับจังหวัด

 

4 มาตรการ แก้ปัญหาหนี้ครู จากการประชุมคณะกรรมการแก้ไขปัญหาหนี้สินครูและบุคลากรทางการศึกษา ระดับจังหวัด

“ตรีนุช” เรียกประชุมคณะกรรมการแก้ไขปัญหาหนี้สินครูและบุคลากรทางการศึกษา แจงภารกิจ 558 สถานีแก้หนี้ทั่วไทย กำชับอนุมัติเงินกู้อย่างเคร่งครัด หลังหักหนี้ครูต้องมีใช้จ่าย 30% ของเงินเดือน

นางสาวตรีนุช เทียนทอง รมว.ศธ. กล่าวตอนหนึ่งว่า ภายใต้นโยบายการบริหารประเทศของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีความมุ่งมั่นให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตดี โดยประกาศให้ปี 2565 เป็น “ปีแห่งการแก้หนี้ภาคครัวเรือน” ศธ.จึงได้ตั้งคณะกรรมการแก้ไขปัญหาหนี้สินครูและบุคลากรทางการศึกษาในระดับกระทรวงขึ้น เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา โดยแนวทางในการแก้ไขปัญหาหนี้สินครูนั้น ต้องการลดภาระหนี้โดยรวมของครูให้น้อยลง ให้ครูมีรายได้ต่อเดือนเหลือไม่น้อยกว่า 30% ของเงินเดือน โดยได้กำหนดแนวทางขับเคลื่อนในเฟสแรก เป็น 4 มาตรการ ดังนี้

มาตรการที่ 1 ลดดอกเบี้ย โดยเปิดโครงการแก้ไขปัญหาหนี้สินครู ให้สหกรณ์ออมทรัพย์ครู ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ครูรายใหญ่เข้าร่วม ขณะนี้มีสหกรณ์ออมทรัพย์ครู 70 แห่ง จากทั้งหมด 108 แห่ง เข้าร่วมปรับอัตราดอกเบี้ยแล้ว โดยจะปรับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลงตั้งแต่ 0.05-1.0% และพบว่ามีสหกรณ์ 11 แห่ง สามารถปรับลดดอกเบี้ยให้ลงเหลือต่ำกว่า 5% โดยมีครูที่ได้รับประโยชน์ทันทีกว่า 460,000 คน และจะเร่งขยายผลให้ครอบคลุมทั่วประเทศในเฟสถัดไป ซึ่งครูมีหนี้เฉลี่ยอยู่ที่ 1,000,000 บาท หากอัตราดอกเบี้ยลดลง 1% จะทำให้ครูมีเงินไว้ใช้จ่ายต่อปีเพิ่มขึ้นถึง 10,000 บาท ขณะเดียวกันนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พลังงาน จะเป็นคนกลางในการประสานขอความร่วมมือกับธนาคารออมสิน เพื่อชะลอการดำเนินคดีทางกฎหมายกับกลุ่มครู ซึ่งคาดว่ามีครูได้รับประโยชน์กว่า 25,000 คน

มาตรการที่ 2 พิจารณาและควบคุมการอนุมัติเงินกู้อย่างเคร่งครัด โดยยอดหนี้รวมทั้งหมดของผู้กู้ต้องไม่ให้มากเกินกว่า 70% ของรายได้ เพื่อให้ครูสามารถมีเงินใช้จ่ายได้ 30% ของเงินเดือน เนื่องจากครูมีหนี้หลายด้าน ระบบการพิจารณาอนุมัติเงินกู้ยังไม่เป็นระบบที่เชื่อมโยง ศธ.จึงร่วมมือกับบริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด (เครดิตบูโร) ในการสร้างระบบและเชื่อมโยงหนี้รายบุคคล เพื่อให้ทราบข้อมูลหนี้ครูรายคนสำหรับการบริหารจัดการและไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำซ้อน โดยทางเครดิตบูโรสนับสนุนให้ ศธ. ใช้ระบบได้ฟรี ไม่คิดใช้จ่าย หากตรวจพบว่าครูที่ต้องการกู้เงินเพิ่มเติม มีหนี้รวมมากกว่า 70% จะไม่ได้รับการอนุมัติให้กู้เพิ่ม

มาตรการที่ 3 จัดตั้งสถานีแก้หนี้ครูฯ ระดับเขตพื้นที่การศึกษา และหน่วยงานทางการศึกษา 481 แห่ง และระดับจังหวัด 77 จังหวัด รวม 558 สถานีทั่วประเทศ โดยดำเนินการในรูปคณะกรรมการ
– สถานีแก้หนี้ครูฯ ระดับเขตพื้นที่การศึกษา กำหนดให้ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) หรือหัวหน้าหน่วยงานทางการศึกษา เป็นประธาน มีอำนาจหน้าที่กำหนดแนวทางแก้หนี้ร่วมกับสหกรณ์ออมทรัพย์ครู ส่วนราชการ และสถาบันการเงิน, จัดทำระบบข้อมูล, ปรับปรุง กำหนดมาตรการหักเงินเดือนเพื่อชำระหนี้, รับลงทะเบียนแก้ไขปัญหาหนี้สินครูฯ ช่วยเจรจาไกล่เกลี่ยระหว่างเจ้าหนี้กับครูและผู้ค้ำประกัน
– สถานีแก้หนี้ครูฯ ระดับจังหวัด จะมีผู้ว่าราชการจังหวัด หรือรองผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน กำกับดูแลในภาพรวมของจังหวัด บูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานอื่นภายในจังหวัด ช่วยเหลือสถานีแก้หนี้ตามที่ได้รับการร้องขอ

มาตรการที่ 4 ให้ความรู้ด้านการเงินให้ครูฯ โดยประสานงานกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ครูสามารถวางแผนการเงิน และมีระเบียบวินัยในการใช้จ่ายได้อย่างเป็นระบบมากขึ้น

รมว.ศธ. กล่าวต่อไปว่า นับตั้งแต่ ศธ.ได้เปิดให้ครูมาลงทะเบียนแก้ปัญหาหนี้สิน เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา จนถึงวันนี้มีครูมาลงทะเบียนแล้ว 27,427 ราย โดย ศธ.จะส่งต่อให้เขตพื้นที่ฯ เร่งดำเนินการช่วยเหลือ ขณะเดียวกัน ศธ.จะเดินหน้าหาแนวทางแก้ไขที่หลากหลาย รวมถึงดำเนินการเกี่ยวกฎ ระเบียบต่าง ๆ เพื่อปลดล็อกข้อจำกัดและแบ่งเบาการแก้ไขปัญหาหนี้สินครูต่อไป

ขอบคุณเนื้อหาจาก ศธ360องศา

เรื่องราวที่น่าสนใจเพิ่มเติม ลิงก์ลงทะเบียนแก้หนี้ครู  เปิดให้ครูลงทะเบียนแก้หนี้ 14 ก.พ. 2565 โครงการแก้ไขปัญหาหนี้สินครู”สร้างโอกาสใหม่ให้ครูไทย”

ลิงก์ตอบแบบสอบถาม ตลาดนัดวังจันทรเกษม เฟส 2 หลักสูตรที่ 2 การสร้างวินัยสู่ความเป็นเลิศทางกีฬาของเยาวชนไทย วันที่ 10 มีนาคม 2565 เวลา 09.00 – 12.00 น.

หลังจากที่กระทรวงศึกษาธิการได้ดำเนินการจัดกิจกรรมการอบรมออนไลน์ ตลาดนัดวังจันทรเกษม เฟส 2 วันนี้ 10 มี.ค. 2565 ก็ดำเนินการมาถึงหลักสูตรที่ 2 กับหัวข้อ การสร้างวินัยสู่ความเป็นเลิศทางกีฬาของเยาวชนไทย ซึ่งจะเริ่มการออกอากาศ วันที่ 10 มีนาคม 2565 เวลา 09.00 – 12.00 น. โดยมีลิงก์ตอบแบบสอบถาม ตลาดนัดวังจันทรเกษม เฟส 2 หลักสูตรที่ 2 สำหรับตอบแบบสอบถามดังนี้

** โดยสามารถตอบแบบสอบถามได้ถึงเวลา 16.30 น. ของวันที่อบรม และ สามารถดาวน์โหลดเกียรติบัตรได้หลังจากตอบแบบสอบถามครับ**

ลิงก์ตอบแบบสอบถาม ตลาดนัดวังจันทรเกษม เฟส 2 หลักสูตรที่ 2 การสร้างวินัยสู่ความเป็นเลิศทางกีฬาของเยาวชนไทย วันที่ 10 มีนาคม 2565 เวลา 09.00 - 12.00 น.

ร่วมแสดงความคิดเห็นกิจกรรมวันนี้ : คลิกที่นี่

ลิงก์สำรองคลิกที่นี่

ลิงก์ตอบแบบสอบถาม ตลาดนัดวังจันทรเกษม เฟส 2 หลักสูตรที่ 2

ร่วมแสดงความคิดเห็นกิจกรรมวันนี้ : คลิกที่นี่

ลิงก์สำรองคลิกที่นี่

วิธีการ ช่องทาง เข้าอบรมออนไลน์ ตลาดนัดวังจันทรเกษม เฟส 2 สามารถดำเนินการได้ดังนี้

ขั้นตอนที่ 1 เข้าร่วมอบรมออนไลน์ ตลาดนัดวังจันทรเกษม เฟส 2 ซึ่งมีจำนวน 10 กิจกรรมการผ่านทางเว็บไซต์ http://moemarket.moe.go.th/app/main/main.php คลิกเลือกหลักสูตรที่ต้องการเข้าร่วม (ท่านต้องลงทะเบียนไว้แล้ว)

อบรมออนไลน์ ตลาดนัดวังจันทรเกษม เฟส 2

ขั้นตอนที่ 2 หลังจากคลิกเลือกหลักสูตรที่ต้องการแล้ว ระบบจะให้เข้าร่วมประชุมผ่านทางโปรแกรม Microsoft Team ซึ่งท่านจะสามารถดาวน์โหลดได้ที่

มือถือระบบ แอนดรอย
https://play.google.com/
มือถือระบบ ios
https://apps.apple.com/

ถ้าท่านใดที่ไม่ได้ลงโปรแกรมMicrosoft Team เมื่อท่านดาวน์โหลดและติดตั้งเสร็จ ให้ท่านทำตามขั้นตอนที่ 1 คือเข้าร่วมการอบรมอีกครั้งครับ

เรื่องราวที่เกี่ยวข้อง : ลิงก์เข้าอบรมออนไลน์ ตลาดนัดวังจันทรเกษม เฟส 2 หลักสูตรที่ 2 การสร้างวินัยสู่ความเป็นเลิศทางกีฬาของเยาวชนไทย วันที่ 10 มีนาคม 2565 เวลา 09.00 – 12.00 น.

ขอเชิญส่งประกวดคลิปวิดีโอ คุรุสภาจัดประกวดคลิปวิดีโอส่งเสริมจรรยาบรรณของวิชาชีพทางการศึกษา หัวข้อ “ครูรักเด็ก…เด็กรักครู” ชิงเงินรางวัลรวม 128,000 บาท

ขอเชิญส่งประกวดคลิปวิดีโอ คุรุสภาจัดประกวดคลิปวิดีโอส่งเสริมจรรยาบรรณของวิชาชีพทางการศึกษา หัวข้อ “ครูรักเด็ก…เด็กรักครู” ชิงเงินรางวัลรวม 128,000 บาท

รศ.ดร.ประวิต เอราวรรณ์ เลขาธิการ ก.ค.ศ. รักษาการเลขาธิการคุรุสภา กล่าวว่า สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา ขอเชิญชวนนักเรียน นิสิต นักศึกษา และประชาชนทั่วไป ส่งผลงานเข้าร่วมประกวดคลิปวิดีโอส่งเสริม จรรยาบรรณวิชาชีพทางการศึกษา ในหัวข้อ “ครูรักเด็ก…เด็กรักครู” เพื่อรณรงค์ ส่งเสริม สนับสนุนให้เกิดความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับจรรยาบรรณของวิชาชีพทางการศึกษาด้วยการผลิตสื่อในแนวทางสร้างสรรค์ซึ่งจะเป็นการเสริมสร้างค่านิยมในการประพฤติปฏิบัติตนตามหลักจรรยาบรรณของวิชาชีพ โดยเปิดโอกาสให้นักเรียน นิสิต นักศึกษา และประชาชนมีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์เนื้อหาที่สะท้อนมุมมองเกี่ยวกับจรรยาบรรณของวิชาชีพทางการศึกษาอย่างมีคุณภาพ หลากหลายและสอดคล้องกับบริบทปัจจุบัน

คุณสมบัติผู้สมัครส่งผลงานเข้าประกวด แบ่งเป็น 3 ประเภท คือ 1) ประเภทนักเรียน 2) ประเภท นิสิต นักศึกษา (ระดับอนุปริญญา หรือปริญญาตรี) และ 3) ประเภท ประชาชนทั่วไป โดยส่งผลงานเข้าประกวดเป็นทีม ทีมละ 3 – 5 คน

ลงทะเบียนประเภทนักเรียน คลิกที่นี่

ลงทะเบียนประเภทนิสิต/นักศึกษา คลิกที่นี่

ลงทะเบียนประเภทประชาชนทั่วไป คลิกที่นี่

หลักเกณฑ์การประกวด ดังนี้ 1) ผลงานที่ส่งเข้าประกวดต้องเป็นสื่อสร้างสรรค์ในรูปแบบคลิปวิดีโอซึ่งมีเนื้อหาสอดคล้องกับหัวข้อ “ครูรักเด็ก…เด็กรักครู” โดยจะต้องมีเนื้อหาเพื่อส่งเสริมให้เกิดความตระหนักเรื่องการประพฤติปฏิบัติตนตามจรรยาบรรณของวิชาชีพทางการศึกษา และสามารถแทรกเนื้อหาความรู้จากข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยจรรยาบรรณของวิชาชีพ พ.ศ. 2556 มีความยาวไม่เกิน 3 นาที ไม่จำกัดรูปแบบและวิธีการนำเสนอ 2) สามารถตั้งชื่อเรื่องได้ตามความเหมาะสม พร้อมทั้งอธิบายแนวคิดในการผลิตผลงานเกี่ยวกับหัวข้อ “ครูรักเด็ก…เด็กรักครู” 3) กำหนดให้มีภาพกราฟิกเปิดตัวและจบด้วยตราสัญลักษณ์ของสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา 4) ความละเอียดของไฟล์ผลงานไม่ต่ำกว่า 1080 พิกเซล (1920 x 1080) สามารถใช้ได้ทั้งไฟล์ AVI, MPEG, MP4, MOV หรือ FLV 5) ส่งผลงานเข้าร่วมประกวดได้ จำนวน 1 ผลงาน ต่อ 1 ทีม เท่านั้น และ 6) เนื้อหาของผลงานที่ส่งเข้าประกวดจะต้องไม่ขัดต่อกฎหมาย ความสงบเรียบร้อย หรือศีลธรรมอันดี

รางวัลการประกวด ประกอบด้วย 3 ประเภท คือ 1) ประเภทนักเรียน 2) ประเภทนิสิต นักศึกษา (ระดับอนุปริญญา หรือปริญญาตรี) และ 3) ประเภทประชาชนทั่วไป แต่ละประเภทมีจำนวนรางวัล 5 รางวัล ประกอบด้วย รางวัลชนะเลิศ รับเงินรางวัล จำนวน 12,000 บาท พร้อมหนังสือตามรอยพระยุคลบาท โล่รางวัล และเกียรติบัตร รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 1 รับเงินรางวัล จำนวน 10,000 บาท พร้อมเกียรติบัตร รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 2 รับเงินรางวัล จำนวน 8,000 บาท พร้อมเกียรติบัตร และรางวัลชมเชย จำนวน 2 รางวัล ๆ ละ 5,000 บาท พร้อมเกียรติบัตร นอกจากนี้ จัดให้มี รางวัล Popular Voteจำนวน 1 รางวัล เงินรางวัล 8,000 บาท พร้อมรับหนังสือตามรอยพระยุคลบาท โล่รางวัล และเกียรติบัตร

เกณฑ์การตัดสิน จะพิจารณาจากแนวคิดและเนื้อหา ความคิดสร้างสรรค์ เทคนิคการผลิต และคุณค่าด้านการสื่อความหมาย สำหรับผลงานที่ได้รับการคัดเลือกทางสำนักงานเลขาธิการคุรุสภาจะนำไปเผยแพร่ทางเฟซบุ๊กแฟนเพจ “คุรุสภา” ในระหว่างวันที่ 16 – 20 มิถุนายน 2565 โดยจะนำจำนวนผู้กดถูกใจ (Like) จนถึงวันที่ 20 มิถุนายน 2565 เวลา 15.00 น. ไปใช้ประกอบการพิจารณาคัดเลือกรางวัล Popular Vote ทั้งนี้ ผลงานที่ได้รับรางวัล Popular Vote ยังคงมีสิทธิ์ในการที่จะได้รับการพิจารณาในรางวัลอื่น ๆ (ผู้รับผิดชอบกิจกรรมขอตัดสิทธิ์ผลงานคลิปวิดีโอที่มีจำนวนผู้กดถูกใจ (Like) ในลักษณะที่มีความผิดปกติ เช่น การปั๊ม Like หรือในลักษณะอื่น ๆ ออกจากการเข้าร่วมกิจกรรม)

ผู้สนใจสามารถลงทะเบียนและส่งผลงานทางเว็บไซต์คุรุสภา www.ksp.or.th หัวข้อ “การประกวด คลิปวิดีโอส่งเสริมจรรยาบรรณของวิชาชีพทางการศึกษา” โดยกรอกข้อมูลการสมัคร ประกอบด้วย ชื่อทีม ชื่อผลงาน รายชื่อสมาชิกในทีม แนวคิดในการผลิตผลงาน และลิงค์ผลงานที่ส่งเข้าประกวด ส่งผลงานได้ตั้งแต่บัดนี้ถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2565 และจะประกาศผลให้ทราบภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2565

ทั้งนี้ ผลงานที่ส่งเข้าประกวดต้องเป็นผลงานที่ทำขึ้นมาใหม่เท่านั้น ไม่ลอกเลียนแบบ และไม่เคยผ่านการแข่งขัน/ประกวดเวทีใด หรือเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ต่อสาธารณชนมาก่อน และการตัดสินของคณะกรรมการถือเป็นที่สิ้นสุด โดยขอสงวนสิทธิ์ที่จะไม่มอบรางวัลหนึ่งรางวัลใดหรือทั้งหมด ในกรณีที่เห็นว่าไม่มีผลงานที่เหมาะสม

ลงทะเบียนประเภทนักเรียน คลิกที่นี่

ลงทะเบียนประเภทนิสิต/นักศึกษา คลิกที่นี่

ลงทะเบียนประเภทประชาชนทั่วไป คลิกที่นี่

ขอบคุณเนื้อหาจาก คุรุสภา

เรื่องราวที่น่าสนใจเพิ่มเติม ลงทะเบียน อบรมออนไลน์ ตื่นตา ตื่นใจ กับการเรียนรู้โลกทั้งใบด้วย Google Earth วันเสาร์ที่ 12 มีนาคม2565 เวลา 10:30 – 12:00 น.

ลิงก์เข้าอบรมออนไลน์ ตลาดนัดวังจันทรเกษม เฟส 2 หลักสูตรที่ 2 การสร้างวินัยสู่ความเป็นเลิศทางกีฬาของเยาวชนไทย วันที่ 10 มีนาคม 2565 เวลา 09.00 – 12.00 น.

หลังจากที่กระทรวงศึกษาธิการได้ดำเนินการจัดกิจกรรมการอบรมออนไลน์ ตลาดนัดวังจันทรเกษม เฟส 2 วันนี้ 10 มี.ค. 2565 ก็ดำเนินการมาถึงหลักสูตรที่ 2 กับหัวข้อ การสร้างวินัยสู่ความเป็นเลิศทางกีฬาของเยาวชนไทย ซึ่งจะเริ่มการออกอากาศ วันที่ 10 มีนาคม 2565 เวลา 09.00 – 12.00 น. โดยมีรายละเอียดดังนี้

ลิงก์เข้าอบรมออนไลน์ ตลาดนัดวังจันทรเกษม เฟส 2 หลักสูตรที่ 2 การสร้างวินัยสู่ความเป็นเลิศทางกีฬาของเยาวชนไทย วันที่ 10 มีนาคม 2565 เวลา 09.00 - 12.00 น.

วิธีการ ช่องทาง เข้าอบรมออนไลน์ ตลาดนัดวังจันทรเกษม เฟส 2 สามารถดำเนินการได้ดังนี้

ขั้นตอนที่ 1 เข้าร่วมอบรมออนไลน์ ตลาดนัดวังจันทรเกษม เฟส 2 ซึ่งมีจำนวน 10 กิจกรรมการผ่านทางเว็บไซต์ http://moemarket.moe.go.th/app/main/main.php คลิกเลือกหลักสูตรที่ต้องการเข้าร่วม (ท่านต้องลงทะเบียนไว้แล้ว)

อบรมออนไลน์ ตลาดนัดวังจันทรเกษม เฟส 2

ขั้นตอนที่ 2 หลังจากคลิกเลือกหลักสูตรที่ต้องการแล้ว ระบบจะให้เข้าร่วมประชุมผ่านทางโปรแกรม Microsoft Team ซึ่งท่านจะสามารถดาวน์โหลดได้ที่

มือถือระบบ แอนดรอย
https://play.google.com/
มือถือระบบ ios
https://apps.apple.com/

ถ้าท่านใดที่ไม่ได้ลงโปรแกรมMicrosoft Team เมื่อท่านดาวน์โหลดและติดตั้งเสร็จ ให้ท่านทำตามขั้นตอนที่ 1 คือเข้าร่วมการอบรมอีกครั้งครับ

สำหรับขั้นตอนในการเข้าอบรมออนไลน์ ตลาดนัดวังจันทรเกษม เฟส 2 มีวิธีการง่ายๆ 3 ขั้นตอน คือ 

ลิงก์เข้าอบรมออนไลน์ ตลาดนัดวังจันทรเกษม เฟส 2 หลักสูตรที่ 2 การสร้างวินัยสู่ความเป็นเลิศทางกีฬาของเยาวชนไทย วันที่ 10 มีนาคม 2565 เวลา 09.00 - 12.00 น.

ขั้นตอนที่ 1 ลงทะเบียนเข้าร่วมอบรมออนไลน์ ตลาดนัดวังจันทรเกษม เฟส 2 ซึ่งมีจำนวน 10 กิจกรรมการผ่านทางเว็บไซต์ http://moemarket.moe.go.th/app/main/main.php

ขั้นตอนที่ 2 เข้าร่วมการอบรมออนไลน์ ตามกำหนดการเช่น ตลาดนัดวังจันทรเกษม เฟส 2 หลักสูตรการสร้างวินัยสู่ความเป็นเลิศทางกีฬาของเยาวชนไทย วันที่ 10 มีนาคม 2565 เวลา 09.00 – 12.00 น. ท่านจะต้องเข้าร่วมตามเวลาที่กำหนดที่ เว็บไซต์ http://moemarket.moe.go.th/app/main/main.php

เพื่อความสะดวกในการเข้าอบรมออนไลน์ ตลาดนัดวังจันเกษม เฟส 2 ให้ทุกท่านดาวน์โหลดแอพ Microsoft Team ลงมือถือนะครับ
แอนดรอย
https://play.google.com/
ios
https://apps.apple.com/

ขั้นตอนที่ 3 เข้าร่วมการตอบแบบสอบถาม ตลาดนัดวังจันทรเกษม เฟส 2 ซึ่งจะสามารถตอบแบบสอบถามได้จากลิงก์ที่ปรากฎ ระหว่างการอบรม หรือ หลังจากการอบรมเสร็จสิ้น โดยจะสามารถตอบแบบสอบถามได้จนถึงเวลา 16.30 น. ของแต่ละหลักสูตร

เรื่องราวที่น่าสนใจ : ขั้นตอน วิธีการสมัคร เข้าร่วม ตลาดนัดการเรียนรู้ออนไลน์วังจันทรเกษม ครั้งที่ 2 ปี 2565

สำหรับท่านที่ทำตามขั้นตอนที่กล่าวมาแล้วนั้นเมื่อเข้าร่วมการอบรมออนไลน์เสร็จสิ้นจะสามารถเข้าสู่ระบบเพื่อดาวน์โหลดเกียรติได้ที่

เว็บไซต์ http://moemarket.moe.go.th/app/main/main.php

สำหรับการลงชื่อเข้าใช้งานนั้น USERNAME = ใช้เบอร์โทรศัพท์ PASSWORD =รหัสผ่านที่ตั้งไว้

*** ในกรณีที่ท่านลงทะเียนไว้แล้วแต่ลืมรหัสผ่านหรือชื่อผู้ใช้งาน สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ประสานงานระดับจังหวัดเพื่อดำเนินการแก้ไขให้ได้ครับ

ตัวอย่างเกียรติบัตรอบรมออนไลน์ ตลาดนัดวังจันทรเกษมและขั้นตอนในการดาวน์โหลดเกียรติบัตร

ลิงก์เข้าอบรมออนไลน์ ตลาดนัดวังจันทรเกษม เฟส 2 หลักสูตรที่ 2 การสร้างวินัยสู่ความเป็นเลิศทางกีฬาของเยาวชนไทย วันที่ 10 มีนาคม 2565 เวลา 09.00 - 12.00 น.

 

สพฐ. ออกหนังสือ สํารวจความต้องการขอรับจัดสรรอัตราว่างจากผลการเกษียณอายุราชการ เมื่อสิ้นปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ – ๒๕๖๔

 

สพฐ. ออกหนังสือ สํารวจความต้องการขอรับจัดสรรอัตราว่างจากผลการเกษียณอายุราชการ เมื่อสิ้นปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ - ๒๕๖๔

จากการแจ้งจัดสรรคืนอัตราข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ในสถานศึกษา ที่ว่างจากผลการเกษียณอายุราชการ เมื่อสิ้นปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ – ๒๕๖๔ ให้ สํานักงาน เขตพื้นที่การศึกษา บริหารจัดการตามความสําคัญจําเป็น และให้สํานักงานเขตพื้นที่การศึกษาที่มีสภาพ อัตรากําลังครูในภาพรวมเกินเกณฑ์ที่ ก.ค.ศ. กําหนด (ต้นทาง) เกลี่ยคืนอัตราเกษียณอายุราชการในแต่ละปี ให้สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อนําไปจัดสรรเกลี่ยอัตราให้สํานักงานเขตพื้นที่การศึกษาที่มี สภาพอัตรากําลังครูต่ํากว่าเกณฑ์ที่ ก.ค.ศ. กําหนด รวมทั้งให้ส่งคืนอัตรากรณีที่สํานักงานเขตพื้นที่การศึกษา บริหารจัดการให้โรงเรียนทุกโรงไม่มีความขาดครูแล้ว ความแจ้งแล้ว นั้น

ดาวน์โหลด หนังสือราชการ ว-1530 สํารวจความต้องการขอรับจัดสรรอัตราว่างจากผลการเกษียณอายุราชการ ที่นี่

ดาวน์โหลด สิ่งที่ส่งมาด้วย-1-2 ที่นี่ ดาวน์โหลด สิ่งที่ส่งมาด้วย-2-3 ที่นี่ ดาวน์โหลด สิ่งที่ส่งมาด้วย-4-5 ที่นี่


สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานพิจารณาแล้วขอเรียนว่า เพื่อให้การบริหารอัตรากําลัง ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในสถานศึกษามีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุด ขอให้สํานักงาน เขตพื้นที่การศึกษาตามบัญชีรายชื่อสิ่งที่ส่งมาด้วย ๑ ดําเนินการตรวจสอบข้อมูลอัตราเกษียณอายุราชการ พร้อมตรวจสอบสภาพอัตรากําลังข้าราชการครูของสถานศึกษาในสังกัด แล้วดําเนินการ ดังนี้


๑. หากสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษาตรวจสอบข้อมูลอัตราเกษียณอายุราชการแล้ว พบข้อผิดพลาด ขอให้รีบประสานกับเจ้าหน้าที่ของสํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานอย่างเร่งด่วนและดําเนินการแก้ไขข้อมูลให้ถูกต้องลงในแบบฟอร์มที่กําหนดตามสิ่งที่ส่งมาด้วย ๑

ดาวน์โหลด สิ่งที่ส่งมาด้วย-1-2 ที่นี่

๒. กรณีสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษา (ต้นทาง) ที่ต้องเกลี่ยอัตรากําลังคืนให้สํานักงาน คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และสํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานยังมิได้อนุมัติจัดสรร อัตราว่างดังกล่าวโดยการตัดโอนตําแหน่งและอัตราเงินเดือนฯ หากประสงค์ขอรับจัดสรรอัตราคืนเนื่องจาก มีสถานศึกษาที่เป็นไปตามเงื่อนไขและหลักเกณฑ์ของคณะกรรมการกําหนดเป้าหมายและนโยบายกําลังคนภาครัฐ (อัตราว่างฯ พ.ศ. ๒๕๖๐ และ ๒๕๖๑ ต้องเป็นสถานศึกษาที่มีนักเรียนตั้งแต่ ๒๕๐ คนขึ้นไป และ พ.ศ. ๒๕๖๒ – ๒๕๖๔ ต้องเป็นสถานศึกษาที่มีนักเรียนตั้งแต่ ๑๒๐ คนขึ้นไป) และมีสภาพอัตรากําลังครูต่ํากว่าเกณฑ์ที่ ก.ค.ศ. กําหนด ขอให้จัดทําข้อมูลรายละเอียดในแบบฟอร์มสํารวจความต้องการขอรับจัดสรรคืนอัตราว่างจากผลการ เกษียณอายุราชการ กรณีเกลี่ยคืน ตามสิ่งที่ส่งมาด้วย ๒

ดาวน์โหลด สิ่งที่ส่งมาด้วย-2-3 ที่นี่

๓. กรณีสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษาที่ได้รับจัดสรรอัตราและได้ส่งคืนอัตราให้สํานักงาน คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เนื่องจากไม่มีสถานศึกษาที่มีสภาพอัตรากําลังครูต่ํากว่าเกณฑ์ที่ ก.ค.ศ. กําหนด หากประสงค์ขอรับจัดสรรอัตราคืนเพราะสภาพอัตรากําลังมีความเปลี่ยนแปลง และมีสถานศึกษา ที่เป็นไปตามเงื่อนไขและหลักเกณฑ์ของคณะกรรมการกําหนดเป้าหมายและนโยบายกําลังคนภาครัฐ รวมทั้ง สภาพอัตรากําลังครูต่ํากว่าเกณฑ์ที่ ก.ค.ศ. กําหนด ขอให้จัดทําข้อมูลรายละเอียดในแบบฟอร์มสํารวจความต้องการ ขอรับจัดสรรคืนอัตราว่างจากผลการเกษียณอายุราชการ กรณีส่งคืน ตามสิ่งที่ส่งมาด้วย ๓

ดาวน์โหลด สิ่งที่ส่งมาด้วย-2-3 ที่นี่

สําหรับสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษาตามบัญชีรายชื่อ ในข้อ ๑ – ๓ และสํานักงาน เขตพื้นที่การศึกษาอื่น ๆ นอกเหนือจากบัญชีรายชื่อดังกล่าว หากมีความประสงค์ขอรับจัดสรรอัตราเพิ่มเติม เนื่องจากสถานศึกษาในสังกัดมีสภาพอัตรากําลังครูต่ํากว่าเกณฑ์ที่ ก.ค.ศ. กําหนด และเป็นสถานศึกษาที่เป็นไป ตามเงื่อนไขและหลักเกณฑ์ของคณะกรรมการกําหนดเป้าหมายและนโยบายกําลังคนภาครัฐ (สถานศึกษา ที่มีนักเรียนตั้งแต่ ๑๒๐ คนขึ้นไป) ขอให้จัดทําบัญชีรายละเอียดขออนุมัติกําหนดตําแหน่งและอัตราเงินเดือน พร้อมแบบปริมาณงานสถานศึกษา ตามสิ่งที่ส่งมาด้วย ๔ – ๕ เพื่อพิจารณาอนุมัติจัดสรรอัตราว่างดังกล่าว โดยการตัดโอนตําแหน่งและอัตราเงินเดือนๆ ต่อไป

ดาวน์โหลด สิ่งที่ส่งมาด้วย-4-5 ที่นี่

ให้สํานักงานเขตพื้นที่การศึกษาจัดส่งข้อมูลไปยังสํานักงานคณะกรรมการการศึกษา ขั้นพื้นฐาน ภายในวันที่ ๒๕ มีนาคม ๒๕๖๕ และส่งทางอีเมล์ plankruksahotmail.com

ขอบคุณเนื้อหาจาก สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน

เรื่องราวที่น่าสนใจเพิ่มเติม ลิงก์อบรมออนไลน์ กิจกรรม 2 ตลาดนัดวังจันทรเกษม เฟส 2 การสร้างวินัยสู่ความเป็นเลิศทางกีฬาของเยาวชนไทย วันที่ 10 มีนาคม 2565 เวลา 09.00 – 12.00 น.