อบรมออนไลน์ฟรี โครงการอบรมยกระดับครูดิจิทัล ทักษะการเขียนแอปพลิเคชัน

0

อบรมออนไลน์ ฟรี ครูดิจิทัล

อบรมออนไลน์ มัดรวมมาให้แล้ว !! สร้างสื่อการเรียนการสอนให้ปัง ในยุค M -learning ได้ง่ายๆ  ผลงานรุ่นพี่ DTE NSTRU สุดปัง!!!

– พัฒนาศักยภาพครูผู้สอนโดยใช้เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์
– การพัฒนาสื่อการเรียนการสอนโดย ใช้ Application บน Android
– เพื่อให้ครูผู้สอนสามารถนำความรู้และประสบการณ์ที่ได้จากการอบรมสร้างสื่อการสอนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
– สามารถต่อยอดประยุกต์ใช้กับงานที่เกี่ยวข้องในองค์กรได้อีกด้วย
– Step Up สำหรับ ยกระดับครูดิจิทัล แอพลิเคชั่น MIT INVENTOR
หลักสูตร “การพัฒนาทักษะการเขียนแอพพลิเคชั่น MIT Appinventor ประยุกใช้ในการจัดการเรียนรู้ ระดับมัธยมศึกษา”

อบรมออนไลน์ฟรี โครงการอบรมยกระดับครูดิจิทัล ทักษะการเขียนแอพพลิเคชัน  โดย นักศึกษาสาขาเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช

-หากท่านใดสนใจในกิจกรรมอบรมของเราโปรดลงทะเบียนตามลิ้งค์ด้านล่างที่แนบมา

ปิดลิงก์ลงทะเบียนเข้าร่วมอบรมแล้วค่ะ

อบรมออนไลน์ฟรี โครงการอบรมยกระดับครูดิจิทัล ทักษะการเขียนแอปพลิเคชัน  เข้าร่วมการประชุมออนไลน์ผ่าน Google Meet : ปิดลิงก์ลงทะเบียนเข้าร่วมอบรมแล้วค่ะ

โทรเข้า (เฉพาะเสียง): ‪(US) +1 318-417-7247‬ PIN: ‪933 409 847#‬
หมายเลขอื่นๆ: ปิดลิงก์ลงทะเบียนเข้าร่วมอบรมแล้วค่ะ

อบรมออนไลน์ฟรี โครงการอบรมยกระดับครูดิจิทัล ทักษะการเขียนแอพพลิเคชัน

สอบถามข้อมูลเพิ่มเดิม
06-4694-3445 คุณปาล์ม
08-4501-5057 คุณอาย
06-2448-9218 คุณแพร

อบรมออนไลน์ฟรี ครูดิจิทัล

ครูอัพเดตดอทคอม ขอขอบคุณข้อมูลอบรมออนไลน์ฟรี โครงการอบรมยกระดับครูดิจิทัล ทักษะการเขียนแอปพลิเคชัน จากสาขาเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช

ครูเพื่อพัฒนาท้องถิ่น การใช้อัตราว่าง จากผลการเกษียณอายุราชการ เพื่อบรรจุครูเพื่อพัฒนาท้องถิ่น

0

ครูเพื่อพัฒนาท้องถิ่น การใช้อัตราว่าง จากผลการเกษียณอายุราชการ เพื่อบรรจุครูเพื่อพัฒนาท้องถิ่น

เรื่อง การใช้อัตราว่างข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาจากผลการเกษียณอายุราชการ เมื่อสิ้นปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๔ ที่เหลือจากการบรรจุและแต่งตั้งนักศึกษาทุนโครงการผลิตครูเพื่อพัฒนาท้องถิ่น ปีการศึกษา ๒๕๖๔.
เรียน ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทุกเขต/ผู้อำนวยการสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ
อ้างถึง ๑. หนังสือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ด่วนที่สุด ที่ ศธ 0๔๐๐๙/ว ๓๔๕๐
ลงวันที่ ๙ สิงหาคม ๒๕๖๔
๒. หนังสือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ด่วนที่สุด ที่ ศธ 0๔๐๐๙/ว ๔๒๑๕
ลงวันที่ ๒๙ กันยายน ๒๕๖๔

ตามหนังสือที่อ้างถึง ๑ – ๒ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน แจ้งให้สำนักงาน
เขตพื้นที่การศึกษาทุกเขตและสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ วางแผนรองรับการบรรจุนักศึกษาทุนโครงการ
ผลิตครูเพื่อพัฒนาท้องถิ่น ปีการศึกษา ๒๕๖๔ โดยให้พิจารณาสถานศึกษาที่มีสภาพอัตรากำลังครูต่ำกว่าเกณฑ์
ก.ค.ศ. และขาดครูตามสาขาวิชาเอกที่กำหนดเพื่อรองรับการบรรจุ พร้อมทั้งได้จัดสรรอัตราว่างข้าราชการครูและ
บุคลากรทางการศึกษาจากผลการเกษียณอายุราชการ เมื่อสิ้นปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ จำนวน ๕,๐๔๑ อัตรา
เพื่อรองรับการบรรจุและแต่งตั้งนักศึกษาทุนดังกล่าว ความแจ้งแล้ว นั้น

สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ขอเรียนว่า ตามที่แจ้งให้สำนักงานเขตพื้นที่
การศึกษาและสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ ดำเนินการคัดเลือกนักศึกษาทุนโครงการผลิตครูเพื่อพัฒนาท้องถิ่น
ปีการศึกษา ๒๕๖๔ เพื่อบรรจุและแต่งตั้งเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
ตำแหน่งครูผู้ช่วย แล้วมีอัตราว่างคงเหลือจากการบรรจุ เนื่องจากมีนักศึกษาทุนไม่ครบตามจำนวนแผนที่วางไว้
และมีนักศึกษาทุนบางรายสละสิทธิ์ในการเข้ารับการบรรจุ

ในการนี้ เพื่อให้การบริหารอัตรากำลังของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาและสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ มีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุดจึงให้นำอัตราที่เหลือจากการบรรจุนักศึกษาทุนโครงการดังกล่าว สรรหา บรรจุและแต่งตั้งได้ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ ก.ค.ศ. กำหนด ต่อไป

 

อัตราว่างเกษียณอายุราชการ 64 บรรจุครูเพื่อพัฒนาท้องถิ่น

ด่วนที่สุด ที่ ศธ 04009/1633 วันที่ 11 มีนาคม 2565
เรื่อง การใช้อัตราว่างข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาจากผลการเกษียณอายุราชการ เมื่อสิ้นปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 ที่เหลือจากการบรรจุและแต่งตั้งนักศึกษาทุนโครงการผลิตครูเพื่อพัฒนาท้องถิ่น ปีการศึกษา 2564

รายละเอียดตามเว็บไซต์ สพร.
https://personnel.obec.go.th/home/archives/51809

ครูอัพเดตดอทคอม ขอขอบคุณข้อมูล ครูเพื่อพัฒนาท้องถิ่น การใช้อัตราว่าง จากผลการเกษียณอายุราชการ เพื่อบรรจุครูเพื่อพัฒนาท้องถิ่น

กรมบัญชีกลางปรับลดอัตราค่ารักษาพยาบาลโควิด 19 ให้สอดคล้องกับต้นทุนในปัจจุบัน เพื่อให้การเบิกจ่ายเงินงบประมาณ เป็นไปอย่างคุ้มค่า

กรมบัญชีกลางปรับลดอัตราค่ารักษาพยาบาลโควิด 19

นางสาวกุลยา ตันติเตมิท อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า ด้วยปัจจุบันการบริหารจัดการของทรัพยากรที่ใช้เพื่อการรักษาพยาบาลผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด 19 มีความพร้อมมากขึ้น ประกอบกับผู้ป่วยส่วนใหญ่
มีอาการไม่รุนแรง ส่งผลให้ต้นทุนต่าง ๆ ในการรักษาพยาบาลปรับราคาลดลง กรมบัญชีกลางจึงได้ปรับปรุงหลักเกณฑ์ และอัตราค่ารักษาพยาบาลประเภทผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยในสถานพยาบาลของทางราชการ กรณีผู้มีสิทธิหรือบุคคลในครอบครัวเสี่ยงหรือติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด 19 เพื่อให้สอดคล้องกับบริการและต้นทุนที่เกิดขึ้นจริง อีกทั้งช่วยลดงบประมาณร่ายจ่ายที่ไม่จำเป็น แต่ยังคงประสิทธิภาพในการรักษาพยาบาลของผู้ป่วยตามเดิม โดยมีการปรับปรุงรายละเอียด ดังนี้
ประเภทผู้ป่วยนอก
1. การตรวจยืนยันการติดเชื้อโควิด 19
    1.1 การตรวจยืนยันการติดเชื้อด้วยวิธี Real Time PCR โดยการทำป้ายหลังโพรงจมูกและลำคอ ประเภท 2 ยีน ให้เบิกได้เท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 900 บาท จากเดิม 1,300 บาท
    1.2 การตรวจยืนยันการติดเชื้อด้วยวิธี Real Time PCR โดยการทำป้ายหลังโพรงจมูกและลำคอ ประเภท 3 ยีนขึ้นไป ให้เบิกได้เท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 1,100 บาท จากเดิม 1,500 บาท
    1.3 การตรวจการติดเชื้อด้วยวิธี Antigen test ด้วยเทคนิค Chromatography ให้เบิกได้เท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 250 บาท จากเดิม 300 บาท
    1.4  การตรวจการติดเชื้อด้วยวิธี Antigen test ด้วยเทคนิค Fluorescent Immuunoassay (FIA)
ให้เบิกได้เท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 350 บาท จากเดิม 400 บาท
     1.5 การตรวจการติดเชื้อด้วยวิธีอื่น ๆ นอกเหนือจาก 1.3 – 1.4 ให้เบิกได้เท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน
350 บาท จากเดิม 400 บาท
2. การเบิกค่ารักษาพยาบาลกรณีให้การรักษาพยาบาลผู้ป่วยที่บ้าน (Home Isolation)
หรือที่ที่ชุมชนจัดไว้ (Community Isolation) หรือสถานที่อื่นของสถานพยาบาลของทางราชการ
     2.1 ค่าบริการของสถานพยาบาลและการดูแลผู้ป่วย ให้เบิกได้เท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 1,000 บาทต่อวัน
ไม่เกิน 10 วัน
     2.2 ค่าอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็นต้องใช้ในการติดตามอาการผู้ป่วย ค่ายา ค่าเอกซเรย์            ค่าตรวจทางห้องปฏิบัติการ และค่ารักษาพยาบาลอื่น ๆ ให้เบิกได้ในอัตราเท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 2,000 บาทต่อราย
ประเภทผู้ป่วยใน
1. ค่าห้องพักสำหรับควบคุมหรือดูแลรักษาผู้ป่วยใน
     1.1 ผู้ป่วยอาการสีเขียว กรณีไม่ใช้ Oxygen ให้เบิกได้ในอัตราเท่าที่จ่ายจริง ไม่เกิน 1,000 บาท
จากเดิม1,500 บาท (กรณีที่ไม่สามารถให้การรักษาพยาบาลที่บ้านหรือสถานที่ที่ชุมชนจัดไว้ได้
     1.2 ผู้ป่วยอาการสีเหลือง
             – กรณีใช้ Oxygen Canula เบิกได้ในอัตราเท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 1,500 บาทต่อวัน
             – กรณีใช้ Oxygen High Flow เบิกได้ในอัตราเท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 3,000 บาทต่อวัน
     1.3  ผู้ป่วยอาการสีแดง กรณีใส่เครื่องช่วยหายใจ ให้เบิกได้ในอัตราเท่าที่จ่ายจริง ไม่เกิน 7,500 บาทต่อวัน (อัตราเดิม)
2. ค่าอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล
    2.1 ผู้ป่วยอาการสีเขียว ให้เบิกได้ในอัตราเท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 300 บาทต่อวัน (อัตราเดิม)
    2.2 ผู้ป่วยอาการสีเหลือง
           – กรณีใช้ Oxygen Canula เบิกได้ในอัตราเท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 550 บาทต่อชุด (เดิม 600 บาทต่อชุด) ไม่เกิน 5 ชุดต่อวัน
           – กรณีใช้ Oxygen High Flow เบิกได้ในอัตราเท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 550 บาทต่อชุด (เดิม 600 บาทต่อชุด) ไม่เกิน 10 ชุดต่อวัน
    2.3 ผู้ป่วยอาการสีแดง
           – กรณีใส่เครื่องช่วยหายใจ ให้เบิกได้ในอัตราเท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 550 บาทต่อชุด (เดิม 600 บาทต่อชุด) ไม่เกิน 20 ชุดต่อวัน (เดิม 30 ชุดต่อวัน)
“สำหรับหลักเกณฑ์และอัตราค่ารักษาพยาบาลประเภทผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยในสถานพยาบาลของทางราชการ กรณีผู้มีสิทธิหรือบุคคลในครอบครัวเสี่ยงหรือติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด 19 มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2565 เป็นต้นไป โดยสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ตามหนังสือกรมบัญชีกลาง ด่วนที่สุด ที่ กค 0416.4/ว 157 ลงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2565 หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ กองสวัสดิการรักษาพยาบาล กรมบัญชีกลาง หมายเลขโทรศัพท์ 02 127 7000 ต่อ 6854  4441 ในวัน เวลาราชการ” อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าว
ขอบคุณที่มาจาก : กรมบัญชีกลาง

ดาวน์โหลดเอกสาร สมัครสมาชิก ช.พ.ค. – ช.พ.ส. (อายุไม่เกิน 35 ปีบริบูรณ์) และอัตราการชำระเงินในการสมัคร

ดาวน์โหลดเอกสาร สมัครสมาชิก ช.พ.ค. - ช.พ.ส. (อายุไม่เกิน 35 ปีบริบูรณ์) และอัตราการชำระเงินในการสมัคร

สมัครสมาชิก ช.พ.ค. – ช.พ.ส. (อายุไม่เกิน 35 ปีบริบูรณ์) ตามวันและเวลาราชการ และอัตราการชำระเงินในการสมัคร

ดาวน์โหลดเอกสาร สมัครสมาชิก ช.พ.ค. - ช.พ.ส. (อายุไม่เกิน 35 ปีบริบูรณ์) และอัตราการชำระเงินในการสมัคร

การฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา

ดาวน์โหลดเอกสาร สมัครสมาชิก ช.พ.ค. - ช.พ.ส. (อายุไม่เกิน 35 ปีบริบูรณ์) และอัตราการชำระเงินในการสมัคร

ตามนัยแห่งพระราชบัญญัติครู พุทธศักราช 2488 มาตรา 6 (5) บัญญัติให้ คุรุสภามีอํานาจ และหน้าที่ประการหนึ่งให้หาทางให้ครูหรือครอบครัวของครู ได้รับการช่วยเหลือ และอุปการะ ตามสมควร คณะกรรมการอํานวยการคุรุสภาเมื่อ พ.ศ. 2494 พิจารณาเห็นว่าครูเป็นผู้อยู่ ในฐานะที่มีรายได้น้อยไม่เพียงพอกับความต้องการของครอบครัว ในฐานะที่ครูต้องครองตัว ให้มีเกียรติสมกับการเป็นตัวอย่างของบรรดาศิษย์และบุคคลทั่วไป จึงไม่อาจหารายได้อื่น เช่น ผู้มีอาชีพทั่วไปได้ ทําให้การครองชีพเป็นไปอย่างยากลําบาก เมื่อถึงแก่กรรมครอบครัว ของครูมีความเดือดร้อนในการจัดการศพ ค่าครองชีพ และบุตรไม่อาจศึกษาเล่าเรียนได้ต่อไป จึงสมควรช่วยเหลือครูซึ่งเป็นสมาชิกคุรุสภา ให้ครอบครัวของครูได้รับสวัสดิการตามสมควร ประกอบกับสมาชิกคุรุสภาจํานวนมากได้เสนอความเห็นมายังคุรุสภาให้หาทางช่วยเหลือ ในกรณีดังกล่าว

คณะกรรมการอํานวยการคุรุสภาในการประชุมครั้งที่ 3/2494 วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2494 ซึ่งมี นายเสียง ไชยกาล เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ประธานกรรมการ อํานวยการคุรุสภา จึงมีมติรับหลักการให้ดําเนินการจัดตั้งองค์การช่วยเหลือเพื่อนสมาชิก คุรุสภาขึ้นในคุรุสภา เรียกโดยย่อว่า “องค์การ ช.พ.ค.” มีเจตนารมณ์ให้เป็นองค์การกุศล และเป็นสวัสดิการช่วยสงเคราะห์สมาชิกคุรุสภา เพื่อให้ครอบครัวของสมาชิกที่ถึงแก่กรรม ได้รับการช่วยเหลืออุปการะจากเพื่อนสมาชิกด้วยกันตามสมควร ตลอดจนช่วยจัดงานศพ ให้เป็นไปอย่างสมเกียรติของผู้ที่เคยเป็นครู และเป็นการประกันทางจิตใจให้แก่ครู ซึ่งปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับการศึกษาของชาติ ได้ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ของตนโดยไม่ต้องกังวล ถึงครอบครัวในอนาคตเมื่อตนถึงแก่กรรม

การฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา ในกรณีคู่สมรสถึงแก่กรรม (ช.พ.ส.)


เริ่มก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2518 โดยคณะกรรมการอํานวยการคุรุสภาเห็นว่า ช.พ.ค. เป็นสวัสดิการกรณีที่สมาชิกคุรุสภาถึงแก่กรรม ครอบครัวของสมาชิกคุรุสภาเป็นผู้รับเงิน สงเคราะห์-ครอบครัว ดังนั้น เมื่อคู่สมรสของสมาชิกคุรุสภาถึงแก่กรรมก็ควรมีสวัสดิการ ในลักษณะเดียวกันโดยสมาชิกคุรุสภาเป็นผู้รับเงินสงเคราะห์ครอบครัว ทั้งนี้ อันเนื่องจาก เหตุผลที่ครูเป็นผู้มีรายได้ไม่มากนักและจะต้องครองตัวให้มีเกียรติสมกับเป็นตัวอย่าง ของบรรดาศิษย์และบุคคลทั่วไป ไม่อาจหารายได้อื่นเช่นผู้มีอาชีพทั่วไปได้ รวมทั้งเป็น การประกันทางจิตใจให้แก่ผู้ที่เป็นสมาชิก ซึ่งปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับการศึกษาของชาติให้ตั้งใจ ปฏิบัติหน้าที่ของตนโดยไม่ต้องเป็นกังวลถึงเหตุการณ์ในอนาคตและครอบครัวของตน จึงได้จัดตั้ง ช.พ.ส. ขึ้น

ขอบคุณเนื้อหาจาก กิจการ ช.พ.ค. และ ช.พ.ส.

เรื่องราวที่น่าสนใจเพิ่มเติม ผู้ได้รับสวัสดิการ โครงการสวัสดิการ 40/75 งวดที่ 1/2565 รายชื่อสมาชิก ช.พ.ค. และ สมาชิก ช.พ.ส. ผู้ได้รับสวัสดิการ โครงการสวัสดิการ 40/75

ลิงก์ลงทะเบียนอบรม โครงการโรงเรียนปลอดภัยในประเทศไทย หลักสูตรการลดความเสี่ยงภัยพิบัติธรรมชาติและการปรับตัวรับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

ลิงก์ลงทะเบียนอบรม โครงการโรงเรียนปลอดภัยในประเทศไทย หลักสูตรการลดความเสี่ยงภัยพิบัติธรรมชาติและการปรับตัวรับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

โครงการโรงเรียนปลอดภัยในประเทศไทย หลักสูตรการลดความเสี่ยงภัยพิบัติธรรมชาติและการปรับตัวรับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยความร่วมมือระหว่างกระทรวงศึกษาธิการ มูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทย และ Save the Children เป้าหมายเพื่อสร้างความรู้ให้แก่ ครู อาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษาให้รู้ถึงความเสี่ยงภัยของตนโดยเฉพาะในพื้นที่ และสามารถวางมาตรการ วิธีการที่เหมาะสมตลอดจนสามารถดูแลผลกระทบเมื่อเกิดภัยพิบัติจากธรรมชาติ

ลงทะเบียนอบรม โครงการโรงเรียนปลอดภัยในประเทศไทย หลักสูตรการลดความเสี่ยงภัยพิบัติธรรมชาติและการปรับตัวรับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ที่นี่

ระบบห้องเรียนออนไลน์

เป้าหมายของการลดความเสี่ยงภัยพิบัติในสถานศึกษา คือ การที่บุคลากรทางการศึกษา ครูและนักเรียนมีความสามารถในการเรียนรู้ความเสี่ยงภัยของตนโดยเฉพาะภัยในพื้นที่ สามารถวางมาตรการและวิธีการปฏิบัติที่เหมาะสม ตลอดจนสามารถดูแลรักษาโครงสร้างและกลไกพื้นฐานให้ปลอดภัยเพื่อลดผลกระทบจากภัยธรรมชาตินั้นๆ และหากประสบภัยพิบัติจากธรรมชาติ ก็สามารถฟื้นตัวได้ด้วยแนวทางและทรัพยากรที่มีในระยะเวลาที่เหมาะสม

 

1. ประเมินผลจากการวัดค่าพื้นฐาน Baseline ด้าน Safe School
ก่อนเริ่มเรียนให้ผู้เรียนพิจารณาคะแนน Baseline ของสถานศึกษา เพื่อประเมินสถานการณ์ความเสี่ยงของสถานศึกษา

2. ลงทะเบียนเข้าห้องเรียนออนไลน์
เริ่มต้นการ ลงทะเบียน พร้อมเริ่มศึกษาได้ทันที การเรียนโดยให้ผู้เรียนเริ่มศึกษาทีละบท ทีละหัวข้อ โดยสามารถเรียนซ้ำ หยุดเรียน หรือเรียนต่อเมื่อไหร่ก็ได้ผ่านทางหน้าเว็บไซต์

ลงทะเบียนอบรม โครงการโรงเรียนปลอดภัยในประเทศไทย หลักสูตรการลดความเสี่ยงภัยพิบัติธรรมชาติและการปรับตัวรับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ที่นี่

3. ทำแบบทดสอบ ก่อนเรียน / หลังเรียน
ผู้เรียนสามารถประเมินความรู้ทั้งก่อนเรียนและหลังเรียน ของตัวเองว่ามีความเข้าใจเกี่ยวกับความเสี่ยงภัยพิบัติอยู่ในระดับใด

4. แนวทางการจัดการเรียนรู้
รวมสื่อความรู้และแนวทางการจัดการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติ แก่สถานศึกษา บุคลากรในโรงเรียน เจ้าหน้าที่ ประชาชนในชุมชน รวมทั้งให้ความรู้แก่เด็กเพื่อสร้างความรู้และทักษะเตรียมพร้อมรับมือภัยพิบัติ

รายละเอียดโครงการคลิกที่นี่

ขอบคุณเนื้อหาจาก THAI SAFE SCHOOLS

เรื่องราวที่น่าสนใจเพิ่มเติม ลิงก์เข้าอมรม ตลาดที่ 3 ตลาดนัดวังจันทรเกษม เฟส 2 เปิดโลกการศึกษาไร้ขีดจำกัดในยุคจักรวาลนฤมิต ตลาดนัดการเรียนรู้ออนไลน์วังจันทรเกษม เฟส 2 พฤหัสบดี 17 มีนาคม 2565 09.00 – 12.00 น.

ลงทะเบียน ตลาดนัดวังจันทรเกษม เฟส 2 ตลาดนัดการเรียนรู้วังจันทรเกษม เฟส 2 ขยายจำนวนรับสมัครเพิ่มถึง 70,000 คน เพื่อแก้ปัญหาการสมัครซ้ำจนทำให้ผู้สมัครเต็มในแต่ละหลักสูตร

ลิงก์เข้าอมรม ตลาดที่ 3 ตลาดนัดวังจันทรเกษม เฟส 2 เปิดโลกการศึกษาไร้ขีดจำกัดในยุคจักรวาลนฤมิต ตลาดนัดการเรียนรู้ออนไลน์วังจันทรเกษม เฟส 2 พฤหัสบดี 17 มีนาคม 2565 09.00 – 12.00 น.

ลิงก์เข้าอมรม ตลาดที่ 3 ตลาดนัดวังจันทรเกษม เฟส 2 เปิดโลกการศึกษาไร้ขีดจำกัดในยุคจักรวาลนฤมิต ตลาดนัดการเรียนรู้ออนไลน์วังจันทรเกษม เฟส 2 พฤหัสบดี 17 มีนาคม 2565 09.00 - 12.00 น.

หลักสูตรเปิดโลกการศึกษาไร้ขีดจำกัดในยุคจักรวาลนฤมิต โดย
1. ศาสตราจารย์ ดร.ปรัชญนันท์ นิลสุข มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ และคณะจากสมาคมเทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา  2. ศาสตราจารย์ ดร.จินตวีร์ คล้ายสังข์ ผศ.ดร.พรพิมล ศุขะวาที รศ.ดร.ประกอบ กรณีกิจ คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย  3. บริษัท ไมโครซอฟท์ ประเทศไทย จำกัด
พฤหัสบดี 17 มีนาคม 2565 09.00 – 12.00 น.

ลิงก์เข้าอบรม ตลาดนัดวังจันเกษม เฟส 2 หลักสูตร 3 เปิดโลกการศึกษาไร้ขีดจำกัดในยุคจักรวาลนฤมิต คลิกที่นี่

จากผลความสำเร็จของโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการเสริมสร้างศักยภาพครูและบุคลากรทางการศึกษาผ่านระบบออนไลน์ “ตลาดนัดการเรียนรู้ออนไลน์วังจันทรเกษม” ครั้งที่ 1 ในปี 2564 ซึ่งมีการจัดการอบรมให้กับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา จำนวน 10 กิจกรรม โดยวิธีการถ่ายทอดสดผ่านระบบ Microsoft Teams จากกระทรวงศึกษาธิการ ระหว่างวันที่ 6 สิงหาคม ถึงวันที่ 14 กันยายน 2564 ซึ่งมีผู้เข้าร่วมโครงการ จำนวนทั้งสิ้น 539,584 คน พบว่าผู้เข้ารับการอบรม มีความพึงพอใจสูงสุด ในกิจกรรมศึกษาสื่อสารผ่านบทเพลง และกิจกรรม Active Learning สูงสุด และจากการประชุมสรุปผลการดำเนินงานโครงการตลาดนัดการเรียนรู้ออนไลน์วังจันทรเกษม ร่วมกันระหว่างสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการและสำนักงานศึกษาการจังหวัดทั่วประเทศ เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2565 ได้ร่วมกันการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ในการดำเนินงานในครั้งที่มา สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดเสนอขอให้มีการจัดโครงการตลาดนัดการเรียนรู้ออนไลน์วังจันทรเกษม ครั้งที่ 2 ตามความต้องการของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา

ลิงก์อบรมออนไลน์ กิจกรรม 3 ตลาดนัดวังจันทรเกษม เฟส 2 เปิดโลกการศึกษาไร้ขีดจำกัดในยุคจักรวาลนฤมิต พฤหัสบดี 17 มีนาคม 2565 09.00 – 12.00 น.

ลิงก์เข้าอบรม ตลาดนัดวังจันเกษม เฟส 2 หลักสูตร 3 เปิดโลกการศึกษาไร้ขีดจำกัดในยุคจักรวาลนฤมิต คลิกที่นี่

การเข้าชมเมื่อเข้าสู่หน้าเว็ปไซต์ ตลาดนัดการเรียนรู้ออนไลน์วังจันทรเกษม จะต้องทำการ ลงชื่อเข้าใช้งาน โดยใช้เบอร์โทรศัพท์ และรหัสผ่านที่ตั้งไว้

เพื่อความสะดวกในการเข้าอบรมออนไลน์ ตลาดนัดวังจันเกษม เฟส 2 เปิดโลกการศึกษาไร้ขีดจำกัดในยุคจักรวาลนฤมิต พฤหัสบดี 17 มีนาคม 2565 09.00 – 12.00 น. ให้ทุกท่านดาวน์โหลดแอพ Microsoft TEAM ลงมือถือนะครับ
แอนดรอย
https://play.google.com/
ios
https://apps.apple.com/

“เงื่อนไขในการรับเกียรติบัตรหลังอบรมทางออนไลน์ ขอเน้นย้ำกติกา 3 ข้อ คือ
1. ต้องสมัครเข้าอบรม ในแต่ละหลักสูตร
2. เข้าอบรม ด้วยเบอร์มือถือที่ลงทะเบียน
3. หลังอบรม ต้องประเมินผลการอบรม”

ทั้งนี้ ผู้ผ่านการอบรมตั้งแต่ 8 หลักสูตรขึ้นไป จะได้รับเกียรติบัตรพิเศษ “บุคคลแห่งการเรียนรู้ กระทรวงศึกษาธิการ” เพิ่มเติม

ลิงก์เข้าอบรม ตลาดนัดวังจันเกษม เฟส 2 หลักสูตร 3 เปิดโลกการศึกษาไร้ขีดจำกัดในยุคจักรวาลนฤมิต คลิกที่นี่

ขอบคุณเนื้อหาจาก กระทรวงศึกษาธิการ

เรื่องราวที่น่าสนใจเพิ่มเติม วิธีลงทะเบียน ตลาดนัดวังจันทรเกษม หลักสูตรที่ 2 ตลาดนัดการเรียนรู้ออนไลน์วังจันทรเกษม ครั้งที่ 2 ปี 2565 

อบรมออนไลน์ กิจกรรม 2 ตลาดนัดวังจันทรเกษม เฟส 2 การสร้างวินัยสู่ความเป็นเลิศทางกีฬาของเยาวชนไทย วันที่ 10 มีนาคม 2565

 

โรงเรียนดีวิถีลูกเสือ ปี 2565 สป.ศธ.จัดทำคู่มือเกณฑ์ประเมินผลและคัดเลือกสถานศึกษา “โรงเรียนดีวิถีลูกเสือ” ปี 2565

โรงเรียนดีวิถีลูกเสือ ปี 2565 สป.ศธ.จัดทำคู่มือเกณฑ์ประเมินผลและคัดเลือกสถานศึกษา “โรงเรียนดีวิถีลูกเสือ” ปี 2565

สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ประชุมจัดทำคู่มือการใช้เกณฑ์การประเมินผลและคัดเลือกสถานศึกษา โครงการ “โรงเรียนดีวิถีลูกเสือ” ประจำปี 2565 เพื่อส่งเสริมให้สถานศึกษามีกระบวนการและหลักการทางลูกเสือ พัฒนาและส่งเสริมเยาวชนให้แสดงออก นำความรู้และทักษะที่ได้รับและฝึกฝนจากกิจกรรมลูกเสือ ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน

14 มีนาคม 2565 – สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (สป.ศธ.) โดยสำนักการลูกเสือ ยุวกาชาดและกิจการนักเรียน จัดประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อจัดทำคู่มือการใช้เกณฑ์การประเมินผลและคัดเลือกสถานศึกษา โครงการโรงเรียนดี วิถีลูกเสือ โดย ดร.อำนาจ สายฉลาด ผู้อำนวยการสำนักการลูกเสือ ยุวกาชาดและกิจการนักเรียน เป็นประธานพิธีเปิด มีผู้ทรงคุณวุฒิด้านกิจการลูกเสือ ผู้บริหารสถานศึกษา ผู้อำนวยการกลุ่มส่งเสริมและพัฒนาการลูกเสือ ร่วมพิจารณาจัดทำแนวทางให้มีความชัดเจน มีคุณภาพ ระหว่างวันที่ 14-17 มีนาคม 2565 ณ เกาะกอหญ้า รีสอร์ท อำเภอเมืองกาญจนบุรี จังหวัดกาญจนบุรี

นายอำนาจ กล่าวว่า กิจกรรมลูกเสือเป็นกิจกรรมที่มุ่งพัฒนาลูกเสือทั้งทางร่างกาย สติปัญญา จิตใจ และศีลธรรม เป็นพลเมืองดี มีความรับผิดชอบและช่วยสร้างสรรค์สังคม พร้อมทั้งปลูกฝังให้มีนิสัยในการสังเกต จดจำ เชื่อฟัง และพึ่งตนเอง ซื่อสัตย์สุจริต มีระเบียบวินัยและเห็นอกเห็นใจผู้อื่น ให้รู้จักบำเพ็ญตนเพื่อสาธารณประโยชน์ ดังนั้นการจัดทำคู่มือการใช้เกณฑ์การประเมินผลและคัดเลือกสถานศึกษาโครงการโรงเรียนดีวิถีลูกเสือ ต้องมีความชัดเจน มีมาตรฐาน ในการที่จะให้สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดทั่วประเทศ ได้ดำเนินการสรรหาและคัดเลือกสถานศึกษา ที่เข้าเกณฑ์ให้ได้รับรางวัล ถือเป็นรางวัลแห่งความภาคภูมิใจของสถานศึกษาที่เห็นในเชิงประจักษ์ และเป็นแบบอย่างที่จะกระตุ้นให้สถานศึกษาอื่น ๆ เข้ามามีส่วนร่วมในกิจกรรมนี้ต่อไป

ประกาศ หลักเกณฑ์การพิจารณา โครงการโรงเรียนดีวิถีลูกเสือ

โดยเกณฑ์การพิจารณาคัดเลือกสถานศึกษา โครงการโรงเรียนดีวิถีลูกเสือ ประจำปี พ.ศ. 2565 มีจำนวน 4 ด้าน ได้แก่ 1) ด้านผู้บริหารสถานศึกษา 2) ด้านครูและบุคลากรทางการศึกษา 3) ด้านจัดการเรียนรู้และคุณลักษณะของผู้เรียน 4) ด้านการจัดกิจกรรมลูกเสือ ภายหลังจากการจัดทำคู่มือฯ เสร็จสิ้นบูรณ์ทุกขั้นตอน ทางสำนักการลูกเสือ ยุวกาชาดและกิจการนักเรียน จะประกาศเกณฑ์นี้ให้ทราบอีกครั้ง

ดาวน์โหลดใบสัมครโรงเรียนดีวิถีลูกเสือได้ที่นี่

การดำเนินการประชุมคู่มือการใช้เกณฑ์ ฯ นี้ จะเป็นประโยชน์ต่อคณะกรรมการพิจารณาคัดเลือกโรงเรียนดีวิถีลูกเสือ ในการสร้างมาตรฐานที่ดีในการดำเนินการพิจารณาคัดเลือกรางวัลโรงเรียนดีวิถีลูกเสือ ประจำปี พ.ศ. 2565 เป็นการส่งเสริมให้สถานศึกษามีกระบวนการและหลักการทางลูกเสือ ไปพัฒนาเยาวชนให้เป็นพลเมืองดีของประเทศ และส่งเสริมเยาวชนให้แสดงออกถึงพฤติกรรมที่พึงประสงค์ สามารถนำเอาความรู้และทักษะที่ได้รับและฝึกฝน ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันอย่างมีความสุข

ขอบคุณเนื้อหาจาก ศธ.360 องศา

เรื่องราวที่น่าสนใจเพิ่มเติม ลงทะเบียน ตลาดนัดวังจันทรเกษม เฟส 2 ตลาดนัดการเรียนรู้วังจันทรเกษม เฟส 2 ขยายจำนวนรับสมัครเพิ่มถึง 70,000 คน เพื่อแก้ปัญหาการสมัครซ้ำจนทำให้ผู้สมัครเต็มในแต่ละหลักสูตร

กรมบัญชีกลาง กำหนดแนวทางการเบิกค่ารักษาพยาบาล สำหรับผู้มีสิทธิและบุคคลในครอบครัวที่ติดเชื้อโควิด 19 กรณีต้องแยกกักตัวที่บ้าน (Self Isolation)

กรมบัญชีกลาง กำหนดแนวทางการเบิกค่ารักษาพยาบาล สำหรับผู้มีสิทธิและบุคคลในครอบครัวที่ติดเชื้อโควิด 19 กรณีต้องแยกกักตัวที่บ้าน (Self Isolation)

นางสาวกุลยา ตันติเตมิท อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า เนื่องจากกระทรวงสาธารณสุขได้ปรับแนวทางการให้บริการทางการแพทย์สำหรับผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด 19 กลุ่มอาการเล็กน้อย (สีเขียว) และไม่มีภาวะเสี่ยง โดยให้บริการในลักษณะผู้ป่วยนอกและให้ผู้ป่วยแยกกักตัวที่บ้าน (Self Isolation) ดังนั้น เพื่อให้หลักเกณฑ์และแนวทางการเบิกค่ารักษาพยาบาลของผู้มีสิทธิและบุคคลในครอบครัว สอดคล้องตามแนวทางที่กระทรว’สาธารณสุขกำหนด กรมบัญชีกลางจึงกำหนดให้สถานพยาบาลของทางราชการนำหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และอัตราการจ่าย กรณีการรักษาพยาบาลประเภทผู้ป่วยนอกและการแยกกักตัวที่บ้าน (Self Isolation)

ตามที่สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กำหนด มาใช้กับการเบิกค่ารักษาพยาบาลกรณีผู้มีสิทธิหรือบุคคลในครอบครัว ให้สอดคล้องกับพระราชกฤษฎีกาเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล พ.ศ. 2553 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 โดยมีอัตราการจ่ายค่าใช้จ่ายในลักษณะเหมาจ่าย ดังนี้

1. ค่าบริการดูแลรักษาผู้ติดเชื้อหรือผู้ป่วยโควิด 19 ที่ไม่มีภาวะเสี่ยงตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดแบบบริการผู้ป่วยนอก จ่ายแบบเหมาจ่ายในอัตรา 1,000 บาทต่อราย โดยครอบคลุมรายการดังนี้

(1) ค่าบริการให้คำแนะนำการปฏิบัติตัวในการแยกกักตัวที่บ้าน

(2) การให้ยาที่เป็นการรักษาโรคโควิด 19 ได้แก่ ฟ้าทะลายโจร หรือ Favipiravir (เบิกจากกระทรวงสาธารณสุข) ตามแนวทางกรมการแพทย์ และหรือยารักษาตามอาการรวมค่าจัดส่ง

(3) การประสานติดตามอาการเมื่อให้การดูแลครบ 48 ชั่วโมง

(4) การจัดระบบส่งต่อเมื่อผู้ป่วยมีอาการเปลี่ยนแปลงจำเป็นต้องส่งต่อ

2. ค่าบริการสำหรับการให้คำปรึกษาหรือการดูแลรักษาเบื้องต้นเมื่อได้รับคำปรึกษาจากผู้ป่วยโควิด 19 หลังให้การดูแลครบ 48 ชั่วโมงไปแล้ว เมื่อผู้ป่วยมีอาการเปลี่ยนแปลง และหรือให้ปรึกษาอื่นๆ จ่ายแบบเหมาจ่ายในอัตรา 300 บาทต่อราย

“การเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลสำหรับผู้มีสิทธิและบุคคลในครอบครัวที่ติดเชื้อโควิด 19 โดยให้บริการในลักษณะผู้ป่วยนอกและให้ผู้ป่วยแยกกักตัวที่บ้าน (Self Isolation) ให้สถานพยาบาลของทางราชการเบิกค่ารักษาพยาบาลในระบบเบิกจ่ายตรงเท่านั้น ทั้งนี้ ให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2565 เป็นต้นไป โดยสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ตามหนังสือกรมบัญชีกลาง ด่วนที่สุด ที่ กค 0416.4/ว 191 ลงวันที่ 10 มีนาคม 2565

หนังสือ ว 191 การเบิกค่ารักษาพยาบาล สำหรับผู้มีสิทธิและบุคคลในครอบครัวที่ติดเชื้อโควิด 19 กรณีต้องแยกกักตัวที่บ้าน Self Isolation

หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่กองสวัสดิการรักษาพยาบาล กรมบัญชีกลาง หมายเลขโทรศัพท์ 02 127 7000 ต่อ 6854 4441 ในวัน เวลาราชการ” อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าว

ขอบคุณเนื้อหาจาก สถานีข่าวกระทรวงการคลัง : Ministry of Finance News Station

เรื่องราวที่น่าสนใจเพิ่มเติม

ค่ารักษาพยาบาล ค่าการศึกษาบุตร สำนักการคลังและสินทรัพย์ สพฐ.แจ้งการเบิก ค่ารักษาพยาบาล ค่าการศึกษาบุตร และดำเนินการด้านบำเน็จบำนาญ สัปดาห์ละ 2 วัน คือวันอังคารและพฤหัสบดี ตั้งแต่ 1 มีนาคม 2565 เป็นต้นไป

กรมบัญชีกลางปรับปรุงการเบิกจ่าย ค่ารักษาพยาบาล กรณีผู้มีสิทธิและบุคคลในครอบครัวเสี่ยงหรือติดเชื้อโควิด 19

สพฐ.ยันไม่เลื่อนเปิดเทอม 1/2565 ยังคงกำหนดเดิม 17 พ.ค. 2565

สพฐ.ยันไม่เลื่อนเปิดเทอม 1/2565 ยังคงกำหนดเดิม 17 พ.ค. 2565

นายอัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้วางแผนการบริหารจัดการการศึกษาภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ในปีการศึกษา 2565 ซึ่งจะเป็นการเติมเต็มทักษะการเรียนรู้ของนักเรียนอย่างเข้มข้น เนื่องจาก 2 ปีที่ผ่านมาสถานการณ์โควิดส่งผลให้โรงเรียนต้องจัดการเรียนการสอนในรูปแบบออนไลน์ โดยยอมรับว่าการเรียนในรูปแบบนี้ไม่ตอบโจทย์กับนักเรียนโดยเฉพาะเด็กปฐมวัยไปจนถึงประถมศึกษาตอนปลาย ดังนั้นรูปแบบการบริหารจัดการศึกษาในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 เราจะไม่มีการเลื่อนเปิดภาคเรียนอีกแล้ว จะเปิดภาคเรียนที่ 1 ตามปฎิทินเดิมในวันที่ 17 พ.ค.2565

“ในปีการศึกษาหน้าหากโรงเรียนไหนยังไม่มีความพร้อมหรือผู้ปกครองมีความสมัครใจอยากจะให้บุตรหลานตัวเองเรียนออนไลน์อยู่ก็ทำได้ เราจะต้องอยู่กับสถานการณ์โควิด-19 ให้ได้ อีกทั้งที่ผ่านมามาตรการแผนเผชิญเหตุโควิด-19 ในหลายโรงเรียนทำได้ดี เมื่อมีนักเรียนติดโควิดจะปิดเฉพาะห้องเรียนไม่มีการปิดทั้งโรงเรียน ส่วนการจัดการเรียนการสอนในปีการศึกษา 2565 เราไม่ห่วงทักษะการเรียนของกลุ่มนักเรียนระดับมัธยมศึกษา ซึ่งเด็กกลุ่มนี้เป็นเด็กโต ไม่มีปัญหาด้านการเรียนออนไลน์ เพราะเด็กโตสามารถค้นคว้าหาความรู้ได้ด้วยตัวเองจากสื่อเทคโนโลยีด้านต่างๆ แต่เรามีความเป็นห่วงทักษะการอ่านออกเขียนได้และคิดเลขเป็นในกลุ่มนักเรียนระดับประถมศึกษามากกว่า ดังนั้นในปีการศึกษาหน้าเราจะไม่มุ่งจัดการเรียนการสอนใน 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิชาหลักแล้ว แต่จะให้เน้นทักษะการอ่านออกเขียนได้และคิดเลขเป็นในกลุ่มเด็กป.1 2 และ 3 โดยจะเป็นการสอนที่บูรณาการร่วมกับวิชาอื่นๆ เราจะไม่จัดการเรียนการสอนแบบเหมาเข่ง” เลขาธิการ กพฐ. กล่าว.

ขอบคุณเนื้อหาจาก At HeaR

เรื่องราวที่น่าสนใจเพิ่มเติม ลงทะเบียน ตลาดนัดวังจันทรเกษม เฟส 2 ตลาดนัดการเรียนรู้วังจันทรเกษม เฟส 2 ขยายจำนวนรับสมัครเพิ่มถึง 70,000 คน เพื่อแก้ปัญหาการสมัครซ้ำจนทำให้ผู้สมัครเต็มในแต่ละหลักสูตร

ประกาศผลสอบ GAT PAT ปีการศึกษา 2565 สอบ 12 – 15 มีนาคม 2565 (ประการผล 18 เมษายน 2565)

ประกาศผลสอบ GAT PAT ปีการศึกษา 2565 สอบ 12 - 15 มีนาคม 2565 (ประการผล 18 เมษายน 2565)

GAT เป็นการทดสอบวิชาความถนัดทั่วไป (General Aptitude Test) คือ การวัดศักยภาพในการเรียนในมหาวิทยาลัยให้ประสบความสำเร็จ มี 2 ส่วน คือ

ส่วนที่ 1 คือ ความสามารถในการอ่าน/การเขียน/การคิดเชิงวิเคราะห์/และการแก้โจทย์ปัญหา
ส่วนที่ 2 คือ ความสามารถในการสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษ
GAT เป็นการสอบที่ดูว่านักเรียนคนหนึ่งมีความพร้อมในการจะเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยมากน้อยแค่ไหน

PAT เป็นการทดสอบวิชาความถนัดทางวิชาการและวิชาชีพ (Professional and Academic Aptitude Test) คือ การวัดความรู้ที่เป็นพื้นฐาน กับศักยภาพที่จะเรียนในวิชาชีพนั้น ๆ ให้ประสบความสำเร็จมี 7 วิชา คือ
PAT 1 คือ ความถนัดทางคณิตศาสตร์
PAT 2 คือ ความถนัดทางวิทยาศาสตร์
PAT 3 คือ ความถนัดทางวิศวกรรมศาสตร์
PAT 4 คือ ความถนัดทางสถาปัตยกรรมศาสตร์
PAT 5 คือ ความถนัดทางวิชาชีพครู
PAT 6 คือ ความถนัดทางศิลปกรรมศาสตร์
PAT 7 คือ ความถนัดทางภาษาต่างประเทศ

PAT เป็นการสอบที่จะดูว่านักเรียนคนหนึ่งมีแววจะเข้าสู่เส้นทางอาชีพในคณะที่เลือกไหม

ดูประกาศผลสอบ GAT PAT ปีการศึกษา 2565 ได้ที่นี่ (ประกาศผล 18 เม.ย. 2565)

ดูประกาศผลสอบ GAT PAT ปีการศึกษา 2565 ได้ที่นี่ (ประกาศผล 18 เม.ย. 2565)

ดูประกาศผลสอบ GAT PAT ปีการศึกษา 2565 ได้ที่นี่ (ประกาศผล 18 เม.ย. 2565)

ขอบคุณเนื้อหาจาก สมาคมที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย

เรื่องราวที่น่าสนใจเพิ่มเติม

ผลสอบโอเน็ต ป.6 2565 ประกาศผลสอบ o-net ป.6 ปีการศึกษา 2564 สอบ 12 ก.พ. 2565

ผลสอบโอเน็ต ม.3 2565 ประกาศผลสอบ o-net ม.3 ปีการศึกษา 2564 สอบ 13 ก.พ. 2565

ผลสอบโอเน็ต ม.6 2565 ประกาศผลสอบ o-net ม.6 ปีการศึกษา 2564 สอบ 26-27 ก.พ. 2565