นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตามที่คณะรัฐมนตรี ได้อนุมัติให้กรมควบคุมโรคดำเนินการปรับเปลี่ยนสัญญาจัดซื้อวัคซีนไฟเซอร์ ซึ่งตามสัญญาเดิมผู้ผลิตต้องจัดส่งวัคซีนรวม 30 ล้านโดส โดยขณะนี้เหลือการจัดส่งอีก 3.6 ล้านโดส ให้ปรับเปลี่ยนจำนวน 3 ล้านโดสเป็นวัคซีนสำหรับเด็ก 6 เดือน – น้อยกว่า 5 ปี (ฝาจุกสีม่วงแดง) นั้น
วานนี้ (8 ก.ย. 65) กรมควบคุมโรคได้ลงนามการเปลี่ยนแปลงในสัญญากับบริษัทไฟเซอร์ ประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และจะได้รับวัคซีนล็อตแรก 1 ล้านโดสในเดือนตุลาคม จากนั้นจะทยอยกระจายวัคซีนไปทุกจังหวัดทั่วประเทศผ่านโรงพยาบาล ซึ่งจัดให้เป็นจุดบริการฉีดวัคซีนโควิด -19 ด้วย และการให้วัคซีนจะเป็นไปตามความสมัครใจของผู้ปกครอง โดยโรงพยาบาลจะสอบถามความสมัครใจและให้ข้อมูลที่เพียงพอแก่ผู้ปกครองต่อไป
ในการนี้ขอให้ผู้พ่อแม่ผู้ปกครองติดตามข้อมูลข่าวสารจากกระทรวงสาธารณสุข และนำบุตรหลานเข้ารับวัคซีนในโรงพยาบาลได้ในช่วงเดือนตุลาคมเป็นต้นไป ซึ่งวัคซีนจะสามารถป้องกันได้ถึงร้อยละ 80.3 และนอกจากจะลดโอกาสของการเจ็บป่วยในเด็กแล้ว ยังเป็นการลดโอกาสการแพร่เชื้อจากเด็กไปยังผู้สูงอายุในครอบครัว
สำหรับปริมาณวัคซีนที่จะให้เด็กกลุ่มดังกล่าวนี้ จะให้เข็มละ 0.2 มิลลิลิตร หรือ 3 ไมโครกรัม รวมทั้งสิ้น 3 เข็มต่อคน ซึ่งหลังจากฉีดเข็มที่ 1 แล้วจะเว้นระยะห่าง 3 สัปดาห์ แล้วฉีดเข็มที่ 2 จากนั้นเว้นระยะอีก 8 สัปดาห์ จึงจะฉีดเข็มที่ 3
ขอบคุณที่มา https://www.prd.go.th/th/page/item/index/id/1