สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานพิจารณาแล้ว ขอให้สํานักงานเขตพื้นที่การศึกษา ทุกเขต/สํานักบริหารงานการศึกษาพิเศษ ดําเนินการเลื่อนเงินเดือนข้าราชการและเลื่อนขั้นค่าจ้างลูกจ้างประจํา ในสังกัด ในวันที่ ๑ เมษายน ๒๕๖๕ โดยถือปฏิบัติตามหนังสือที่อ้างถึง ๑ – ๑๑ และขอแจ้งแนวปฏิบัติเพิ่มเติม
ดังนี้
๑. การนับจํานวนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่มีตัวอยู่จริง ในวันที่ ๑ มีนาคม ๒๕๖๕. ให้ปฏิบัติตามประกาศสํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เรื่อง แนวปฏิบัติในการพิจารณาเลื่อนเงินเดือน ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา สังกัดสํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. ๒๕๒๒ ข้อ ๘ และ แนวปฏิบัติในการพิจารณาเลื่อนเงินเดือนข้าราชการ ตําแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา ๓๘ ค. (๒) พ.ศ. ๒๕๕๓ ข้อ ๘ โดยให้ยกเว้นกรณีดังต่อไปนี้
๑.๑ การโอน/ย้ายระหว่างหน่วยงานในสังกัดสํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หากมีคําสั่งรับโอน/รับย้าย ในวันที่ ๑ มีนาคม ๒๕๖๕ ให้นับตัวอยู่ที่หน่วยงานที่รับโอนหรือรับย้าย
๑.๒ การรับโอนจากหน่วยงานต่างสังกัดสํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และมีคําสั่งรับโอนก่อนการเลื่อนเงินเดือนแต่ข้าราชการดังกล่าวยังไม่มาปฏิบัติหน้าที่ หน่วยงานที่รับโอนถือว่า เป็นหน่วยงานต้นสังกัดจะต้องเป็นผู้ออกคําสั่งเลื่อนเงินเดือนให้ ถึงแม้จะไม่ได้รับมีตัวก็ตาม
๑.๓ การช่วยราชการ ให้นับมีตัวในหน่วยงานที่ช่วยปฏิบัติราชการ ยกเว้นกรณีที่มีการสั่งการ ให้กลับไปปฏิบัติหน้าที่ในหน่วยงานต้นสังกัดก่อนหรือในวันที่ ๑ มีนาคม ๒๕๖๕ ให้นับมีตัวที่หน่วยงานต้นสังกัด
๒. การเลื่อนเงินเดือนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตามที่อ้างถึง ๔ สํานักงาน คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานจัดสรรให้สํานักงานเขตพื้นที่การศึกษาทุกเขต/สํานักบริหารงานการศึกษาพิเศษ เลื่อนเงินเดือนอัตราร้อยละ ๓.๐๐ ของเงินเดือนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ที่มีตัวอยู่จริง ณ วันที่ ๑ มีนาคม ๒๕๖๕ โดยแบ่งกลุ่มการพิจารณาเลื่อนเงินเดือน ออกเป็น ๒ กลุ่ม ดังนี้
๒.๑ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่รับเงินเดือนอันดับครูผู้ช่วย, คศ.ด, คศ.๒ และ คศ.)
๒.๒ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่รับเงินเดือนอันดับ คศ.๔ และ คศ.๕
ทั้งนี้ ให้สํานักงานเขตพื้นที่การศึกษาทุกเขต/สํานักบริหารงานการศึกษาพิเศษ บริหารวงเงิน เลื่อนเงินเดือนที่ได้รับจัดสรรอัตราร้อยละ ๓.๐๐ ของเงินเดือนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่มีตัวอยู่จริง ณ วันที่ ๑ มีนาคม ๒๕๖๕ ภายในกลุ่มตามข้อ ๒.๑ หรือภายในกลุ่มตามข้อ ๒.๒ เท่านั้น ห้ามมิให้ใช้วงเงิน เลื่อนเงินเดือนข้ามกลุ่มโดยเด็ดขาด เพื่อให้เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี หลักเกณฑ์และวิธีการที่ ก.ค.ศ. กําหนด และตามแนวปฏิบัติในการพิจารณาเลื่อนเงินเดือนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา สังกัดสํานักงาน คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. ๒๕๖๒
๓. ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตําแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา ๓๘ ค. (๒) จัดสรรให้สํานักงานเขตพื้นที่การศึกษาทุกเขต ร้อยละ ๒.๙๙ อีกร้อยละ ๐.๐๑ จะนําไปจัดสรรตามนโยบายของ สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
๔. การพิจารณาเลื่อนเงินเดือนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา นอกจากจะต้องดําเนินการ ตามประกาศสํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เรื่อง แนวปฏิบัติในการพิจารณาเลื่อนเงินเดือน ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา สังกัดสํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. ๒๕๖๒ แล้ว ขอให้คํานึงถึงความสําเร็จในการปฏิบัติภารกิจ ดังนี้
๔.๑ ตามนโยบายของรัฐบาล กระทรวงศึกษาธิการ และสํานักงานคณะกรรมการการศึกษา ขั้นพื้นฐาน ตลอดจนสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษา
๔.๒ ภารกิจหลักในการจัดการศึกษา
๔.๓ การปฏิบัติภารกิจตามบริบทของสถานศึกษา เช่น
– ผลการประเมินการคัดเลือกนักเรียน นักศึกษา และสถานศึกษา เพื่อรับรางวัลพระราชทาน
– ผลการประกวดรางวัลหน่วยงานและผู้มีผลงานดีเด่นประสพผลสําเร็จเป็นที่ประจักษ์ เพื่อรับรางวัลทรงคุณค่า สพฐ. (OBEC AWARDS)
– ผลการประเมินคุณภาพภายนอก
– ผลการประเมินการติดตามและประเมินผลการบริหารจัดการสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษา ตามมาตรฐานสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษา
– ผลการปฏิบัติราชการตามคํารับรองการปฏิบัติราชการของสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษา และผลการปฏิบัติราชการตามแผนปฏิบัติราชการของสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษา มาเป็นองค์ประกอบในการพิจารณา ดังกล่าว
๕. ให้รายงานข้อมูลผู้ดํารงตําแหน่งผู้อํานวยการสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษา/ผู้รักษาราชการแทน ผู้อํานวยการสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษา (เอกสารหมายเลข ๘) แบบรายงานผลการปฏิบัติงานของผู้อํานวยการ สํานักงานเขตพื้นที่การศึกษา/ผู้รักษาราชการแทนผู้อํานวยการสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษา (เอกสารหมายเลข ๔) แบบประเมินผลการปฏิบัติงานของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา สายงานบริหารการศึกษา (เอกสารหมายเลข ๑๐/๑ หรือ เอกสารหมายเลข ๑๐/๒) ไปยังสํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อประกอบการพิจารณาของคณะกรรมการฯ
๖. กรณีข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาได้รับคําสั่งย้ายและแต่งตั้งไปดํารงตําแหน่ง ที่ใหม่ในวันเดียวกันกับวันเลื่อนเงินเดือน ให้ดําเนินการสั่งเลื่อนเงินเดือนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตามหนังสือสํานักงาน ก.ค.ศ. ตามสิ่งที่ส่งมาด้วย ๒
๗. การเลื่อนขั้นค่าจ้างลูกจ้างประจํา ครั้งที่ ๑ (๑ เมษายน ๒๕๖๕) ให้พิจารณาเลื่อนขั้นค่าจ้าง ลูกจ้างประจํา ตามหนังสือที่อ้างถึง ๙ – ๑๑ โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการพิจารณาเลื่อนขั้นค่าจ้าง ลูกจ้างประจําที่สํานักงานเขตพื้นที่การศึกษาแต่งตั้ง หรือหากไม่มี ให้เสนอคณะกรรมการพิจารณาเลื่อนเงินเดือน ข้าราชการระดับสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษาโดยอนุโลม ทั้งนี้ ให้เลื่อนขั้นค่าจ้าง ๑ ขั้นได้ไม่เกินโควตาร้อยละ ๑๕ ของจํานวนลูกจ้างประจําที่มีตัวอยู่จริง ณ วันที่ ๑ มีนาคม ๒๕๖๕ เฉพาะจํานวนเต็ม โดยรวมผู้ที่ได้รับค่าตอบแทนพิเศษ ร้อยละ ๔ (๑ ขั้น) อยู่ในโควตานี้ด้วย ห้ามมิให้ใช้โควตา ๒ ขั้นเป็นจํานวนเต็มโดยเด็ดขาด สําหรับการปัดเศษ ของโควตา สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานจะแจ้งให้ทราบในภายหลัง
๘. ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา/ลูกจ้างประจําที่ไม่ประสงค์ถ่ายโอนไปสังกัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือประสงค์ถ่ายโอนแต่ยังอยู่ระหว่างการดําเนินการถ่ายโอน หรืออยู่ในระหว่าง รอการตัดสินใจถ่ายโอนไม่เกิน ๕ ปี และยังอยู่ช่วยราชการในสถานศึกษาเดิม ให้ดําเนินการตามหนังสือ สํานักงาน ก.พ. ที่ นร ๑๐๐๘.๑/ว ๑๒ ลงวันที่ ๓๐ สิงหาคม ๒๕๕๕ ตามข้อ ๑ โดยอนุโลม ที่ระบุว่า กรณี ข้าราชการพลเรือนสามัญผู้ใดได้รับมอบหมายให้ไปช่วยราชการ หรือปฏิบัติราชการในหน่วยงานอื่นเกินกว่ากึ่งหนึ่ง ของรอบการประเมินผลการปฏิบัติราชการ ให้หัวหน้าส่วนราชการหรือหน่วยงานที่ข้าราชการผู้นั้นไปช่วยราชการ หรือปฏิบัติราชการมีหน้าที่ประเมินผลการปฏิบัติราชการของข้าราชการดังกล่าว และน้ําอัตราเงินเดือนของผู้นั้น ไปคํานวณรวมเป็นวงเงินการเลื่อนเงินเดือน และบริหารวงเงินการเลื่อนเงินเดือนในส่วนราชการหรือหน่วยงาน ที่ผู้นั้นไปช่วยราชการหรือปฏิบัติราชการ แล้วส่งผลการพิจารณาการเลื่อนเงินเดือนดังกล่าวให้สํานักงานเขตพื้นที่ การศึกษาต้นสังกัดเสนอผู้มีอํานาจสั่งเลื่อนเงินเดือนเป็นผู้ออกคําสั่งเลื่อนเงินเดือน
๙. สําหรับพนักงานราชการจะได้รับการพิจารณาเลื่อนค่าตอบแทนประจําปี ปีละหนึ่งครั้งในวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๕ โดยกําหนดระยะเวลาการประเมินผลการปฏิบัติงานของพนักงานราชการปีละ ๒ ครั้ง ครั้งที่ ๑ ช่วงระหว่างวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๔ ถึงวันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๑๕ และครั้งที่ ๒ ช่วงระหว่างวันที่ ๑ เมษายน ๒๕๒๕ ถึงวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๕ โดยนําผลคะแนนทั้งสองครั้งมารวมกันแล้วหารด้วย ๒ เพื่อหาค่าคะแนนในการพิจารณา เลื่อนค่าตอบแทนประจําปีให้แก่พนักงานราชการในวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๕ ซึ่งเป็นไปตามประกาศคณะกรรมการ บริหารพนักงานราชการ เรื่อง แนวทางการประเมินผลการปฏิบัติงานของพนักงานราชการ พ.ศ. ๒๕๕๔
๑๐. เมื่อดําเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้รายงานข้อมูลตามสิ่งที่ส่งมาด้วย ๓ ตามกําหนดเวลา ในปฏิทินการปฏิบัติงาน
ขอบคุณเนื้อหาจาก สำนักพัฒนาระบบบริหารงานบุคคลและนิติการ
เรื่องราวที่น่าสนใจเพิ่มเติม ประกาศผลสอบครูผู้ช่วย 2565 สพฐ. รอบทั่วไป สอบวันที่ 5-6 กุมภาพันธ์ 2565 ประกาศผลสอบ ภายใน 22 กุมภาพันธ์ 2565