ด้วย มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2564 อนุมัติโครงการให้ความช่วยเหลือบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โดยให้การสนับสนุนค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาเพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับผู้ปกครองของนักเรียนในอัตรา 2,000 บาท ต่อนักเรียน 1 คน ดังนั้น เพื่อให้การดำเนินงานตามโครงการดังกล่าวเป็นไปในแนวทางเดียวกัน มีประสิทธิภาพและตรวจสอบได้ จึงกำหนดแนวทางการดำเนินงาน ดังนี้
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ดำเนินการดังนี้
1. แจ้งจัดสรรวงเงินกู้ โครงการให้ความช่วยเหลือบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)ตามจำนวนนักเรียนในอัตรา 2,000 บาทต่อนักเรียน 1 คน โดยสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาจะใช้ข้อมูลการยืนยันตัวตนนักเรียนจากระบบ DMC ณ วันที่ 25 มิถุนายน 2564 และสถานศึกษาสังกัดสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ ใช้ข้อมูลการยืนยันตัวตนนักเรียนจากระบบ SET ณ วันที่ 25 มิถุนายน 2564 ในการคำนวณจัดสรรวงเงินกู้ ให้กับหน่วยเบิกจ่ายในสังกัด (สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา โรงเรียนที่เป็นหน่วยเบิก ศูนย์การศึกษาพิเศษที่เป็นหน่วยเบิกและโรงเรียนในสังกัดสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษที่เป็นหน่วยเบิก)
2. โอนเงินกู้ ไปตั้งจ่าย ณ หน่วยเบิกจ่ายในสังกัด เมื่อได้รับแจ้งการจัดสรรเงินกู้จากสำนักงบประมาณ
3. กำกับ ติดตาม ตรวจสอบและรายงานผลการดำเนินงานโครงการ
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ดำเนินการดังนี้
1. เปิดบัญชีเงินฝากธนาคารไว้กับธนาคารที่เป็นรัฐวิสาหกิจหนึ่งบัญชีชื่อบัญชี “ชื่อหน่วยงาน(โครงการเงินกู้เพื่อแก้ไขปัญหา COVID-19)” เพื่อรองรับเงินที่ขอเบิกจากบัญชีเงินฝากกระทรวงการคลังพร้อมส่งข้อมูลชื่อและเลขที่บัญชีเงินฝากธนาคารให้กรมบัญชีกลางหรือสำนักงานคลังจังหวัด แล้วแต่กรณีเพื่อให้กรมบัญชีกลางหรือสำนักงานคลังจังหวัดจัดทำข้อมูลหลักผู้ขาย (ปฏิบัติตามหนังสือกระทรวงการคลังด่วนที่สุด ที่ กค 0402.2/ ว 75 ลงวันที่ 24 เมษายน 2563)
2. แจ้งให้โรงเรียนในสังกัดทราบ เพื่อเตรียมในการดำเนินงานตามแนวทางที่กำหนด
3. ตรวจสอบข้อมูลนักเรียน ผู้ปกครอง รายละเอียดเกี่ยวกับธนาคารที่ผู้ปกครองประสงค์จะให้โอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคาร (ชื่อธนาคาร ชื่อบัญชีเงินฝากธนาคาร เลขที่บัญชีเงินฝากธนาคาร)ที่โรงเรียนจัดส่งให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ให้ถูกต้อง ครบถ้วน
4. ตรวจสอบการจัดสรรวงเงินกู้ ที่ได้รับแจ้งจากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานให้ถูกต้อง ครบถ้วน พร้อมทั้งวางแผนการเบิกจ่ายเงินกู้ในระบบ GFMIS เมื่อได้รับแจ้งการโอนเงินกู้มาตั้งจ่ายณ หน่วยเบิกจ่าย กรณีไม่ถูกต้องตรงกันขอให้ประสานข้อมูลกับสำนักนโยบายและแผนการศึกษาขั้นพื้นฐานสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยตรง
5. ตรวจสอบการโอนเงินกู้ที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้โอนมาตั้งจ่ายณ หน่วยเบิกจ่าย ให้ถูกต้องตรงกับการแจ้งจัดสรรวงเงินกู้ ตามข้อ 4 กรณีไม่ถูกต้องตรงกันขอให้ประสานสำนักนโยบายและแผนการศึกษาขั้นพื้นฐาน และสำนักการคลังและสินทรัพย์ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
6. เบิกเงินกู้ในระบบ GFMIS โดยปฏิบัติตามขั้นตอนของระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกเงินจากคลัง การรับเงิน การจ่ายเงิน การเก็บรักษาเงิน และการนำเงินส่งคลัง พ.ศ. 2562 และที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยเร็ว
7. โอนเงินกู้เข้าบัญชีเงินฝากธนาคารของผู้ปกครอง ภายใน 3 วันทำการนับจากวันที่ได้รับเงินจากคลัง
8. การจ่ายเงิน การรับเงิน การเก็บรักษาเงิน และการนำเงินส่งคลังให้ถือปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกเงินจากคลัง การรับเงิน การจ่ายเงิน การเก็บรักษาเงิน และการนำเงินส่งคลังพ.ศ. 2562 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
9. รายงานผลการดำเนินงานให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานทราบพร้อมแจ้งให้โอนเงินกู้กลับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กรณีมีเงินเหลือจ่าย
โรงเรียนที่มิใช่เป็นหน่วยเบิก ดำเนินการดังนี้
1. แจ้งประชาสัมพันธ์ผู้ปกครองของนักเรียนให้รับทราบและเข้าใจถึงหลักการให้ความช่วยเหลือตามมติคณะรัฐมนตรี โดยสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาจะดำเนินการโอนเงินกู้ตามโครงการดังกล่าวเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารของผู้ปกครองโดยตรง
2. รับทราบและตรวจสอบ ข้อมูลจำนวนนักเรียนที่ยืนยันตัวตนจากระบบ DMC ณ วันที่ 25 มิถุนายน 2564 กรณีไม่ถูกต้อง ครบถ้วน ขอให้ประสานสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาที่โรงเรียนสังกัดอยู่สำหรับการดำเนินงานตามโครงการให้ความช่วยเหลือบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายด้านการศึกษา ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)
3. แจ้งผู้ปกครองจัดส่งสำเนาบัตรประชาชนของผู้ปกครองและสำเนาสมุดคู่ฝากธนาคารที่ผู้ปกครองมีความประสงค์จะให้โอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารกรณี ผู้ปกครองไม่มีบัญชีเงินฝากธนาคาร ให้ใช้บัญชีเงินฝากธนาคารของนักเรียนแทนได้
โดยผู้ปกครองหมายเหตุในสำเนาสมุดคู่ฝากธนาคาร ของนักเรียน
4. รวบรวมเอกสารตามข้อ 3 และจัดทำรายละเอียดพร้อมรับรองความถูกต้องของข้อมูลตามแบบรายละเอียดการโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารของผู้ปกครองตามโครงการให้ความช่วยเหลือบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(COVID-19) และจัดส่งให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาโดยเร็ว
ขอบคุณที่มาจาก : สพฐ.